ท่าทีสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 14 ต่อประเด็นสำคัญ

ท่าทีของสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 14 ต่อประเด็นสำคัญต่างๆ ของคริสตจักรคาทอลิก
11-5-2025
แม้จะมีการคาดการณ์ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 14 จะเดินตามรอยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสในหลายด้าน แต่พระองค์อาจใช้แนวทางที่นุ่มนวลและประนีประนอมมากกว่า ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกในฐานะพระสันตะปาปา ลีโอกล่าวว่า “เราต้องเป็นคริสตจักรที่ร่วมกันสร้างสะพานและเปิดแขนต้อนรับผู้อื่น” พระองค์มุ่งหวังที่จะเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นหนึ่งเดียวของคริสตจักร อย่างไรก็ตาม คาร์ดินัลและบิชอปสายอนุรักษนิยมบางรายในสหรัฐฯ อาจรู้สึกไม่พอใจต่อคำวิจารณ์ที่ลีโอเคยมีต่อโดนัลด์ ทรัมป์ และจุดยืนที่โน้มเอียงไปทางเสรีนิยมและการเปิดกว้างมากขึ้น
สตีฟ แบนนอน พันธมิตรคนสำคัญของทรัมป์ในหมู่ชาวคาทอลิก เรียกลีโอว่าเป็น “ตัวเลือกที่แย่ที่สุดสำหรับชาวคาทอลิกสาย MAGA” และกล่าวว่าเขาเป็น “พระสันตะปาปาต่อต้านทรัมป์”
ภาวะโลกร้อนและเทคโนโลยี
ลีโอมีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องวิกฤตสภาพภูมิอากาศ โดยสอดคล้องกับแนวทางของพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเน้นย้ำว่าคริสตจักรต้อง “ก้าวจากคำพูดสู่การลงมือทำ” และเตือนถึงผลกระทบ “ที่เป็นอันตราย” จากการพัฒนาเทคโนโลยีโดยไร้การควบคุม พระองค์กล่าวเมื่อปีก่อนว่า “อำนาจเหนือธรรมชาติไม่ควรกลายเป็นการใช้อำนาจอย่างเผด็จการ” แต่ควรเป็น “ความสัมพันธ์ที่มีการเกื้อกูลกัน”
บทบาทด้านการทูตและสันติภาพ
พระองค์คาดว่าจะส่งเสริมให้คณะทูตของวาติกันมีบทบาทในการยุติความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะในยูเครน กาซา และเซาท์ซูดาน คำกล่าวแรกของพระองค์ต่อชาวโลกในฐานะพระสันตะปาปาคือ “ขอให้สันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน” พร้อมเรียกร้อง “สันติภาพที่ปลอดจากอาวุธ และนำไปสู่การลดอาวุธอย่างแท้จริง”
ประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศ
ลีโอ หรือชื่อเดิมคือ โรเบิร์ต เพรโวสต์ เคยถูกกล่าวหาว่าเพิกเฉยต่อข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดทางเพศต่อพระ 2 รูปในเปรู และมี “ประวัติในการปกปิดข้อมูล” ตามรายงานขององค์กร BishopAccountability ที่รวบรวมข้อมูลผู้รอดชีวิต
ตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมาในฐานะหัวหน้าสภาสังฆราช (Dicastery for Bishops) ลีโอมีหน้าที่ดูแลคดีที่เกี่ยวข้องกับบิชอปผู้ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดหรือปกปิดความผิด แอนน์ บาร์เร็ตต์ ดอยล์ ผู้ร่วมก่อตั้งองค์กร BishopAccountability ระบุว่า “เขายังคงเก็บกระบวนการทั้งหมดไว้เป็นความลับ ไม่เปิดเผยชื่อหรือข้อมูลใดๆ และในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่ง ไม่มีบิชอปคนใดที่มีส่วนรู้เห็นถูกถอดถอนตำแหน่ง”
เธอกล่าวเสริมว่า ในฐานะพระสันตะปาปา ลีโอต้อง “ชนะใจผู้เสียหายและครอบครัวของพวกเขา” ขณะที่รายงานของคณะคาร์ดินัลที่สนับสนุนพระองค์ชี้ว่า “พระองค์บริสุทธิ์” และระบุว่าข้อมูลในสื่อที่เกี่ยวข้องกับกรณีในเปรูนั้น “คลาดเคลื่อนและไม่ยุติธรรม” โดยยืนยันว่าพระองค์ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนตามระเบียบแล้ว
อย่างไรก็ดี ประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศและการปกปิดก็อาจเป็นปัญหาหลักที่ตามหลอกหลอนพระสันตะปาปาลีโอ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ผู้รอดชีวิตหลายรายยังคงมองว่าการดำเนินการในยุคก่อนหน้านั้นยังไม่เป็นรูปธรรมเพียงพอ และจะจับตาดูพระองค์อย่างใกล้ชิด
ประเด็น LGBTQ+
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพรโวสต์ค่อนข้างเงียบในประเด็นเกี่ยวกับเพศและอัตลักษณ์ ปี 2012 เขาเคยแสดงความกังวลว่า สื่อกระแสหลักในตะวันตกมักส่งเสริม “ความเห็นใจต่อแนวคิดและพฤติกรรมที่ขัดแย้งกับพระวรสาร” โดยเฉพาะ “ไลฟ์สไตล์รักร่วมเพศ” และ “ครอบครัวทางเลือกที่ประกอบด้วยคู่รักเพศเดียวกันและบุตรบุญธรรม”
ในปีที่ผ่านมา เขาไม่แสดงความเห็นชัดเจนต่อการให้พรแก่คู่รักเพศเดียวกัน โดยกล่าวเพียงว่า วัฒนธรรมของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน และบางประเทศยังคงถือว่าเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันเป็นอาชญากรรม
ในช่วงที่ทำงานในเปรู ลีโอมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทในการประสานความคิดเห็นของบิชอปซึ่งมีอุดมการณ์ต่างกัน เขาจะต้องนำทักษะนั้นมาใช้ในการประคับประคองความหลากหลายภายในคริสตจักรโลก
ความยุติธรรมทางสังคม ภูมิอากาศ และสันติภาพ
แนวคิดเทววิทยาของลีโอมุ่งเน้นไปที่ผู้ยากไร้และผู้ถูกทอดทิ้ง สืบสานแนวทางของพระสันตะปาปาฟรานซิส พระองค์วิจารณ์นโยบายกีดกันผู้อพยพอย่างรุนแรงบนสื่อสังคมออนไลน์ แม้ภาษาที่ใช้จะไม่แข็งกร้าวเท่าฟรานซิส แต่ก็คาดว่าเขาจะยังคงเดินตามแนวทางเดิม มากกว่าจะถอยกลับจากมรดกของสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ก่อน
ตัวอย่างหนึ่งคือ ทัศนะต่อบทบาทของบิชอป ซึ่งพระองค์เคยกล่าวไว้ในขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าสภาสังฆราชว่า บิชอป “ไม่ควรเป็นเจ้าชายน้อยที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ของตน แต่ควรมีความถ่อมตน อยู่ใกล้ประชาชน เดินเคียงข้างพวกเขา และร่วมทุกข์กับพวกเขา”
กลุ่ม LGBT+ Catholics Westminster จากสหราชอาณาจักรแสดงความเห็นว่า “ทัศนคติสามารถเปลี่ยนแปลงได้… เขาแสดงความเปิดกว้างต่อกลุ่มชายขอบ แม้จุดยืนในประเด็นเฉพาะ เช่น LGBTQ+ จะยังไม่ชัดเจน”
บทบาทของสตรี
ในเดือนตุลาคม 2023 ลีโอเคยแสดงความเห็นว่า “การให้สตรีเป็นนักบวช” จะไม่ใช่คำตอบของปัญหาในคริสตจักร แถมอาจก่อให้เกิดปัญหาใหม่อีกด้วย โดยระบุว่า “ธรรมประเพณีอัครสาวก (apostolic tradition) ได้กล่าวไว้ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการบวชสตรีเป็นพระสงฆ์”
อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่า “ผมเชื่อว่าเราจะยังคงให้การยอมรับว่า ผู้หญิงสามารถมีบทบาทสำคัญในหลายระดับของชีวิตคริสตจักรได้”
ในปี 2022 เขาแต่งตั้งผู้หญิงสามคนให้ช่วยงานเขาในการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแต่งตั้งบิชอป
IMCT News
ขอบคุณภาพจาก Xinhua