.

เปิดแผนลับเนทันยาฮู เบื้องหลังอิสราเอลโจมตีซีเรีย รุกทางทหาร ปั้น “รัฐกันชน” และเบี่ยงแรงกดดันในประเทศ
19-7-2025
DW รายงานว่า เป้าหมายที่แท้จริงของอิสราเอล ในซีเรีย คืออะไร? เป้าหมายแท้จริงของอิสราเอลในซีเรีย: รุกทางทหาร ปั้น “รัฐกันชน” และเบี่ยงแรงกดดันในประเทศ
แม้รัฐบาลอิสราเอลจะอ้างว่าการโจมตีทางอากาศล่าสุดในดินแดนซีเรียมีเป้าหมายเพื่อปกป้องชาวดรูซ (Druze) จากการเสียชีวิตในความขัดแย้งภายในจังหวัดสุเวย์ดา (Sweida) ทางตอนใต้ของซีเรีย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและภูมิรัฐศาสตร์กลับตั้งข้อสงสัยว่าภายใต้ “ข้ออ้างด้านมนุษยธรรม” นั้น อิสราเอลอาจมีเป้าหมายที่ลึกกว่านั้น ทั้งในทางยุทธศาสตร์ ภูมิรัฐศาสตร์ และการเมืองภายในประเทศ
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา อิสราเอลได้โจมตีสำนักงานใหญ่กระทรวงกลาโหมของซีเรียในกรุงดามัสกัส และฐานที่มั่นของทหารรัฐบาลใกล้สุเวย์ดา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) อธิบายว่าเป็น “ปฏิบัติการจำเป็นเพื่อช่วยชีวิตพี่น้องชาวดรูซและกำจัดแก๊งค์ติดอาวุธของรัฐบาลซีเรีย”
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีรักษาการแห่งซีเรีย อาห์มัด อัล-ชาเราะ (Ahmed al-Sharaa) ระบุในแถลงการณ์ยามรุ่งสางว่าการโจมตีของอิสราเอลเป็นการฉวยโอกาสในช่วงที่ซีเรียกำลังรับมือกับความวุ่นวายในภูมิภาค และเป็นความพยายาม “แบ่งแยกประเทศ บั่นทอนเสถียรภาพ และขัดขวางกระบวนการฟื้นฟูของชาติ”
แถลงการณ์ของอัล-ชาเราะมีขึ้นหลังจากเหตุความรุนแรงระหว่างชาวซุนนีกับกลุ่มดรูซในสุเวย์ดาที่คร่าชีวิตไปแล้วกว่า 360 คน โดยเขายืนยันว่ากองทัพซีเรียได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่แล้ว และรัฐบาลจะปกป้องสิทธิของชนกลุ่มน้อยชาวดรูซ
### ก้าวยกระดับปฏิบัติการทหารในซีเรีย
หลังการล่มสลายของอดีตผู้นำซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด (Bashar al-Assad) ในเดือนธันวาคม 2024 อิสราเอลได้เพิ่มความถี่ในการโจมตีทางอากาศในดินแดนซีเรียอย่างมีนัยยะ โดยอ้างเหตุผลว่าต้องการยับยั้งไม่ให้อาวุธของอัสซาดตกไปอยู่ในมือของฝ่ายรัฐบาลรักษาการ ขณะที่ Charles Lister จาก Middle East Institute ประเมินว่า อิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการโจมตีถึงเกือบ 1,000 ครั้ง และเข้ายึดพื้นที่ซีเรียแล้วราว 180 ตารางกิโลเมตร โดยรัฐบาลดามัสกัสยังไม่มีการตอบโต้ทางทหารอย่างเป็นทางการ
Ryan Bohl จากบริษัทวิเคราะห์ความมั่นคง Rane Network ระบุว่า “อิสราเอลกำลังสร้างพื้นที่กันชนอย่างไม่เป็นทางการในซีเรียตอนใต้” ซึ่งเกินกว่าขอบเขตเขตปลอดทหารเดิมที่อยู่ภายใต้ความร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติตามข้อตกลงหยุดยิงปี 1974
ขณะที่ Yossi Mekelberg นักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัย Regent’s University ลอนดอน มองว่า รัฐบาลเนทันยาฮูมีแนวโน้มใช้ “กำลัง” เป็นเครื่องมือหลักในนโยบายต่างประเทศ
### ขับเคลื่อนด้วยแรงกดดันจากภายใน
Mekelberg ชี้ว่า การเปิดแนวโจมตีในซีเรียมีจังหวะสำคัญต่อเสถียรภาพของรัฐบาลเนทันยาฮู โดยเฉพาะเมื่อเขาเพิ่งขึ้นศาลในคดีทุจริต ขณะที่รัฐบาลผสมอ่อนแรงลงหลัง 2 พรรคถอนตัว และอาจเผชิญการเลือกตั้งใหม่ต้นปี 2026
ขณะเดียวกัน เนทันยาฮูยังถูกกดดันจากสหรัฐฯ และยุโรปให้ยุติสงครามที่กาซา และต้องเร่งดำเนินการเรื่องตัวประกันที่ยังอยู่ในการควบคุมของกลุ่มฮามาส เหตุการณ์เหล่านี้จึงอาจเป็นแรงจูงใจให้เนทันยาฮูหันมาใช้วิกฤตในซีเรียสร้างภาพลักษณ์ “นายกฯ แข็งแกร่ง-ผู้พิทักษ์ความมั่นคง” ที่สังคมอิสราเอลคุ้นชิน
### เป้าหมายลึก: ทำให้ซีเรีย “อ่อนแอ หรือแตกออก”
นักวิเคราะห์จาก Rane และ International Crisis Group ชี้ตรงกันว่า เป้าหมายระยะยาวของอิสราเอลคือการทำให้รัฐบาลซีเรียอยู่ในภาวะเปราะบาง ไม่สามารถกลับมาเป็นภัยคุกคามได้อีก
Nanar Hawach จาก Crisis Group ระบุว่า ความขัดแย้งล่าสุดทำให้รัฐบาลดามัสกัสสูญเสียทั้งพื้นที่ ความชอบธรรม และความเชื่อมั่นจากกลุ่มดรูซและชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ฝั่งรัฐ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า “รัฐบาลซีเรียเสียทั้งแต้มทางทหารและทางภูมิรัฐศาสตร์ในพื้นที่ทางใต้ โดยเฉพาะสุเวย์ดา”
แม้ว่าผู้นำซีเรียจะกล่าวว่าจะปกป้องชาวดรูซ แต่รายงานจากภาคประชาสังคมชี้ว่า กองทัพรัฐบาลกลับเข้าข้างกลุ่มติดอาวุธที่ทำร้ายชุมชนดรูซ และไม่มีหลักประกันที่เชื่อถือได้ว่า รัฐบาลจะคุ้มครองชนกลุ่มน้อยได้จริง
> “เว้นแต่ว่ารัฐบาลดามัสกัสจะปฏิรูปโครงสร้างความมั่นคงและลงโทษผู้ละเมิดในกองทัพ มันจะยากมากที่กลุ่มดรูซหรือชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ จะเชื่อใจรัฐบาลนี้อีก” ฮาวัชกล่าว
----
IMCT NEWS
ที่มา https://www.dw.com/en/what-are-israels-interests-and-objectives-in-syria/a-73313624
-----------------------
อิสราเอลอาจใช้การโจมตีชุมชนดรูซในซีเรียเพื่อโค่นล้มรัฐบาลชาราอา
19-7-2025
อิสราเอลอาจโจมตีซีเรียโดยอ้างว่าเป็นการปกป้องชนกลุ่มน้อยทางศาสนาดรูซในจังหวัดซูไวดา เพื่อพยายามโค่นล้มรัฐบาลซีเรียที่นำโดยประธานาธิบดีชั่วคราวอาหมัด ชาราอา
ตาเร็ค อาหมัด สมาชิกพรรคสังคมนิยมแห่งชาติซีเรีย กล่าวว่า “บางทีอิสราเอลอาจวางกับดักให้อาหมัด ชาราอา พวกเขาอาจแสดงอนาคตที่ดูสดใสให้เขาเห็น โดยสัญญาว่าทุกอย่างจะดีหากเขาเซ็นสัญญาสันติภาพ โดนัลด์ ทรัมป์ได้พบกับเขาและมีการให้สัญญาอื่น ๆ ด้วย ดังนั้นชาราอาจรู้สึกสบายใจ เขาคิดว่าเขาสามารถส่งกบฏและกองทหารไปยังจังหวัดซูไวดา และหลงเข้าไปในกับดัก ตอนนี้อิสราเอลมีโอกาสโจมตีไม่เพียงแค่ซูไวดา แต่รวมถึงดามัสกัส และต่อสู้กับทหารของเขา” อาหมัดกล่าว
เมื่อวันพุธ อิสราเอลได้ดำเนินการโจมตีอย่างรุนแรงหลายครั้งในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย รวมถึงอาคารกระทรวงกลาโหมซีเรียใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดี การยกระดับการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งอิสราเอลอ้างว่าเพื่อสนับสนุนกลุ่มชนกลุ่มน้อยชาวอาหรับในจังหวัดซูไวดา เกิดขึ้นหลังจากการปะทะกันหลายวันซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ท่ามกลางความรุนแรง รัฐบาลซีเรียและผู้นำกลุ่มดรูซ ซึ่งในอดีตเคยเป็นแนวหน้าในการต่อต้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาด และขณะนี้ต่อต้านรัฐบาลของชาราอา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันพุธ
ขณะที่ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น อิสราเอลดูเหมือนกำลังวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์เพื่อใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของรัฐบาลซีเรียที่กำลังดำเนินอยู่ ตามที่ตาเร็ค อาหมัด กล่าว โดยเขาชี้ถึงความไม่ไว้วางใจอย่างลึกซึ้งที่เป็นลักษณะเด่นของความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติ
“ผมเชื่อว่าสถานการณ์นี้มีความอันตรายอย่างยิ่ง” เขากล่าว พร้อมเสริมว่าผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องมีเดิมพันสูงมากสำหรับทุกฝ่าย
นักการเมืองผู้นี้เตือนว่าการกระทำของอิสราเอลอาจทำให้รัฐบาลซีเรียที่กำลังดิ้นรนยิ่งไม่มั่นคง และเปลี่ยนแปลงพลวัตอำนาจภายในซีเรีย เขาเสริมว่าพัฒนาการเหล่านี้จะมีผลกระทบในวงกว้างต่อความมั่นคงในภูมิภาค
“เราจะได้เห็นว่านี่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอำนาจอย่างเด็ดขาด หรือผลักดันภูมิภาคให้จมสู่ความโกลาหลมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ กับดักที่วางไว้สำหรับดามัสกัสอาจมีผลกระทบในวงกว้างที่ขยายไปไกลเกินกว่าพรมแดนของมัน” อาหมัดกล่าว
ที่มา Sputnik