สหรัฐ-จีน 'เร่งเดินหน้าความร่วมมือห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมรถไฟ' โฟกัสตลาดที่สามทั่วโลก แม้เผชิญสงครามการค้า

19-7-2025

  SCMP รายงานว่า แม้ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะดำเนินต่อเนื่อง แต่ผู้ประกอบการด้านระบบคมนาคมทางรางจากสองประเทศยังคงยืนยันเจตนารมณ์ที่จะเสริมสร้างความร่วมมือ โดยเฉพาะในโครงการที่สามในตลาดต่างประเทศและการสะสางห่วงโซ่อุปทานที่ยังมีศักยภาพร่วมกันอย่างสูง

  เอเวอเรตต์ วาไก (Everett Wakai) ที่ปรึกษาอาวุโสด้านพาณิชย์ของสถานทูตสหรัฐฯ ในปักกิ่ง ระบุว่า สหรัฐฯ ในฐานะผู้นำในระบบรางสินค้าและขนส่งมวลชนภายในเมือง ยังมีความรู้ด้านเทคโนโลยีและการจัดการที่สามารถร่วมแบ่งปันกับจีน ซึ่งปัจจุบันถือเป็นผู้นำระดับโลกด้านรถไฟความเร็วสูง  

  เขากล่าวระหว่างการประชุมโต๊ะกลมอุตสาหกรรมระบบรางจีน–สหรัฐฯ ภายใต้งาน China International Supply Chain Expo เมื่อวันศุกร์ โดยมีผู้บริหารจากบริษัทสหรัฐฯ ที่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมระบบรางเข้าร่วมหลายราย ซึ่งหัวข้อสำคัญในการหารือคือ "ความร่วมมือในห่วงโซ่อุปทาน"

  กวน เจียซิน (Guan Jiaxin) รองประธานบริษัท China Civil Engineering Construction Corporation ผู้ดำเนินโครงการขนาดใหญ่หลายประเทศ กล่าวว่าบริษัทของเขามีความร่วมมือกับบริษัทอเมริกันหลายแห่งในด้านอุปกรณ์ก่อสร้าง โดยกล่าวว่า 

> “โครงการที่เราดำเนินการหลายแห่งใช้เครื่องจักรก่อสร้างจาก Caterpillar และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจาก Cummins ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน”

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมุ่งหวังที่จะขยายความร่วมมือกับภาคธุรกิจสหรัฐฯ ในโครงการระดับนานาชาติ ในรูปแบบการลงทุนร่วม ออกแบบ ให้คำปรึกษา ไปจนถึงการดำเนินงานในภูมิภาคที่บริษัทอเมริกันมีบทบาทเข้มแข็ง เช่น ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตอุปกรณ์ระบบรางของสหรัฐฯ มีบทบาทในการส่งมอบสินค้าให้กับโครงการระบบรางในจีน ทั้งภายในประเทศและในโครงการที่เกี่ยวข้องกับ Belt and Road Initiative เช่น ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินและทางรถไฟรูปแบบต่างๆ

สุ่ย เย่า (Cui Yao) ประธานบริษัท Wabtec ประเทศจีน เปิดเผยว่า รายได้ของบริษัทในจีนเพิ่มขึ้นจาก “แทบเป็นศูนย์” ในช่วง 20 ปีก่อน มาอยู่ที่เฉลี่ย 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายภายในจีนประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ และอีก 200 ล้านดอลลาร์มาจากการผลิตในจีนเพื่อส่งออก 

Wabtec บริษัทผู้ผลิตระบบรางจากรัฐเพนซิลเวเนีย ยังซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์จีนถึง 400 ล้านดอลลาร์ต่อปี และคาดว่าปีนี้ตัวเลขจะยังคงอยู่ในระดับเดิม

ผู้บริหารจากบริษัทสหรัฐฯ อีกแห่งที่ร่วมงาน ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อเพื่อปฏิบัติตามนโยบายบริษัท ระบุว่า ธุรกิจของเขายังไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ เพราะโครงการที่ร่วมมือกับจีนแต่วางฐานในประเทศที่สามไม่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดทางภาษี

> “โครงการท้องถิ่นในจีนเองก็ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเราลงทุนในระดับที่สูงในการจัดตั้งโรงงานในพื้นที่ และมีความร่วมมือกับรัฐวิสาหกิจจีนหลายแห่ง”

อย่างไรก็ตาม เขาให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า แม้จะมีโอกาสในตลาดรถไฟฟ้าในเขตเมืองของสหรัฐฯ สำหรับผู้ผลิตจีน แต่ในตลาดระบบรางระหว่างเมือง (mainline railway) จีนยังแทบไม่มีช่องทางเข้ามาได้เลย เนื่องจากถูกครองโดยผู้เล่นท้องถิ่นแทบทั้งหมด 

ขณะเดียวกัน ความท้าทายของการพัฒนาระบบรางในสหรัฐฯ ยังปรากฏให้เห็น โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ยุติการให้ทุนกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยอ้างถึง “ความล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมาย” โครงการนี้ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2009 มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมต่อลอสแอนเจลิสกับซานฟรานซิสโกในเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง แต่ต้องเผชิญกับความล่าช้าและค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูง 

เจ้าหน้าที่รัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า การตัดงบดังกล่าวเป็น “การกระทำผิดกฎหมาย” และเตรียมยื่นเรื่องท้าทายมาตรการดังกล่าวในชั้นกฎหมาย

### สรุป แม้ความสัมพันธ์ระหว่างจีน–สหรัฐฯ ยังเผชิญแรงกดดันเชิงภูมิรัฐศาสตร์ในหลายมิติ ความร่วมมือในระดับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเฉพาะทาง เช่น ระบบราง กลับยังมีช่องทางที่ไม่เพียงหลีกเลี่ยงผลกระทบจากนโยบายรัฐบาล แต่ยังสามารถสร้างความร่วมมือใหม่ที่นำไปสู่ระบบคมนาคมระหว่างประเทศที่พึ่งพาซึ่งกันและกันมากยิ่งขึ้น ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และภูมิเดของพลังงานแข่งขันในตลาดที่สามทั่วโลก

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.scmp.com/economy/global-economy/article/3318786/why-us-china-railway-industries-want-collaboration-fast-tracked?module=top_story&pgtype=homepage