ราคาทองคำมีโอกาสทะลุ $4,000  แนวโน้มจะกลับไปต่ำกว่า $3,000 น้อยมากในปีนี้

17-6-2025

   Kitco News รายงานว่า ท่ามกลางการคาดการณ์ของผู้เล่นในตลาดจำนวนมากที่มองเห้าหมายราคาที่ 4,000 ดอลลาร์ นักลงทุนควรเตรียมตัวให้คุ้นเคยกับราคาทองคำที่สูงกว่า 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากระดับราคานี้อาจกลายเป็นระดับพื้นใหม่ในตลาด ตามความเห็นของนักวิเคราะห์รายหนึ่ง

  ในการให้สัมภาษณ์กับ Kitco News เมื่อไม่นานมานี้ อากาช โดชิ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ทองคำของ State Street Global Advisors อธิบายว่าวิกฤตการเงินครั้งสำคัญๆ มีผลในการสร้างระดับพื้นใหม่ให้กับราคาทองคำ

  โดชิกล่าวว่า วิกฤตการเงินโลกในปี 2008 ได้สร้างฐานราคาทองคำไว้ที่เหนือ 1,000 ดอลลาร์ จากนั้น การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2020 ได้ยกระดับพื้นราคาขึ้นไปอยู่ที่ 2,000 ดอลลาร์ และปัจจุบัน การเกิดขึ้นของระบบการเงินรูปแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนโดยการลดการพึ่งพาโลกาภิวัตน์ (deglobalization) ได้ยกระดับพื้นราคาขึ้นไปอีกที่ 3,000 ดอลลาร์

   ความเห็นเหล่านี้มาพร้อมกับการเผยแพร่รายงานมุมมองกลางปีของ State Street โดยสถานการณ์พื้นฐานที่โดชิคาดการณ์ไว้คือราคาทองคำจะอยู่ในช่วงรวมตัวที่ระดับสูงปัจจุบัน โดยมีช่วงราคาระหว่าง 3,100 ถึง 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่ามีเหตุผลที่น่าเชื่อถือสำหรับสถานการณ์ที่เขามองในแง่บวก ซึ่งคาดว่าราคาทองคำจะขึ้นไปถึง 4,000 ดอลลาร์ภายในระยะเวลา 6 ถึง 9 เดือนข้างหน้า

   "ตอนนี้ทองคำมีความโน้มเอียงไปในทางบวกอย่างไม่สมมาตร" เขากล่าว "สิ่งที่ผมหมายถึงคือ ผมคิดว่าการเคลื่อนไหวของราคาครั้งต่อไปที่ 500 ถึง 1,000 ดอลลาร์ มีแนวโน้มที่จะเป็นขาขึ้นมากกว่าขาลง—หรืออย่างน้อย โอกาสที่ราคาจะคงที่หรือสูงขึ้นในช่วง 6 ถึง 12 เดือนข้างหน้ามีมากกว่าที่จะลดลง"

  โดชิชี้ให้เห็นว่าความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าดึงดูด ในขณะเดียวกัน เมื่อหนี้ทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นในอัตราที่ไม่ยั่งยืน ทองคำได้กลายเป็นเครื่องมือทางการเงินที่จำเป็น

   ในรายงาน State Street เน้นย้ำว่าหนี้ทั่วโลกพุ่งสูงถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 324 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2025 โดยเกือบ 30% อยู่ในงบดุลของรัฐบาล—ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

   "มีการเปลี่ยนแปลงในความต้องการจากนักลงทุนและอื่นๆ สำหรับทางเลือกอื่นนอกเหนือจากสกุลเงินเฟียต และเราเชื่อว่าทองคำเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวนั้น ทองคำคือทางเลือกดั้งเดิมที่เป็นอิสระจากเงินเฟียต" เขากล่าว

   "เราอยู่ที่จุดเปลี่ยน—ผมไม่เรียกว่าจุดแตกหัก—แต่เป็นจุดเปลี่ยนในวิธีที่นักลงทุนมองหนี้และความเสี่ยงของพรีเมียมระยะยาวในตลาดพันธบัตรและสกุลเงินต่างๆ" เขากล่าวเพิ่มเติม "สิ่งนี้เอื้อประโยชน์ต่อทางเลือกต่างๆ เช่น ทองคำ"

  ในสภาพแวดล้อมนี้ ส่วนแรกของตลาดทองคำที่โดชิจับตามองคือความต้องการของธนาคารกลาง State Street คาดว่าธนาคารกลางจะซื้อทองคำประมาณ 900 ตันในปีนี้ แม้ว่าจะลดลงจากปีที่แล้วที่ 1,000 ตัน แต่ก็ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตมาก

  การซื้อของธนาคารกลางได้สนับสนุนการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในช่วงสามปีที่ผ่านมา แต่ตามความเห็นของโดชิ นักลงทุนกำลังกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง—โดยเฉพาะผ่านกองทุน ETF ที่มีทองคำหนุนหลัง ในไตรมาสแรก กองทุน ETF ที่มีทองคำหนุนหลังเห็นการไหลเข้าเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น อย่างไรก็ตาม โดชิชี้ให้เห็นว่าความต้องการยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในปี 2020 อยู่มาก

   เขาอธิบายว่าสิ่งที่ทำให้ทองคำดึงดูดนักลงทุนทั่วไปคือการเปลี่ยนแปลงวัฏจักรที่กว้างขึ้นในตลาด ไม่มีรัฐบาลใหญ่ใดกำลังดำเนินการเพื่อควบคุมการขาดดุลงบประมาณ ในขณะเดียวกัน การแตกแยกของการค้าโลกคุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจและอาจผลักดันแรงกดดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้น

   แม้ว่าสถานการณ์พื้นฐานของเขาไม่ได้คาดการณ์ถึงภาวะถดถอยในปีนี้ แต่โดชิเน้นย้ำว่าความเสี่ยงดังกล่าวไม่สามารถมองข้ามได้

   "ความเสี่ยงของภาวะถดถอยในปัจจุบันสูงกว่าตอนต้นปีมาก" เขากล่าว "เนื่องจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ จะมีพรีเมียมความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นและนั่นเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำ ผมไม่คิดว่าเราจะกลับไปสู่ความคึกคักเหมือนที่เราเห็นในเดือนธันวาคมหรือมกราคม"

   สำหรับปัจจัยที่อาจผลักดันให้ราคาทองคำสูงกว่า 3,500 ดอลลาร์และไปถึง 4,000 ดอลลาร์ โดชิกล่าวว่านักลงทุนควรจับตาดูธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แม้ว่าสหรัฐฯ จะหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ แต่การชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจอาจบีบให้ธนาคารกลางต้องลดอัตราดอกเบี้ยถึงสองครั้งก่อนสิ้นปี

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.kitco.com/news/article/2025-06-16/gold-price-more-likely-break-above-4000-below-3000-year-state-streets