รัสเซียส่งสัญญาณค้านสหรัฐฯช่วยอิสราเอลโจมตีอิหร่าน

รัสเซียส่งสัญญาณ คัดค้านสหรัฐฯ ช่วยอิสราเอลโจมตีอิหร่าน ชี้เสี่ยงจุดชนวนวิกฤตตะวันออกกลาง
19-6-2025
Newsweek รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียส่งคำเตือนระดับสูงถึงสหรัฐอเมริกาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ระบุว่าการให้ความช่วยเหลือทางทหารโดยตรงแก่อิสราเอลจะสร้างความไม่มั่นคงอย่างรุนแรงต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง ขณะที่สงครามทางอากาศระหว่างอิหร่านและอิสราเอลกำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายเซอร์เกย์ รยาบคอฟ รองรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวอย่างชัดเจนว่าการที่วอชิงตันให้การสนับสนุนทางทหารโดยตรงแก่อิสราเอล หรือแม้กระทั่งการพิจารณาทางเลือกดังกล่าว จะเป็นการดำเนินการที่สร้างความไม่มั่นคงให้กับสถานการณ์ทั้งหมดอย่างรุนแรง ตามรายงานของสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ
คำเตือนดังกล่าวสะท้อนความกังวลอย่างลึกซึ้งของมอสโกเกี่ยวกับแนวโน้มที่ความขัดแย้งอาจลุกลามจนไม่อาจควบคุมได้ และส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของรัสเซียในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นภูมิภาคที่รัสเซียมีความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์และการแสดงตนทางทหารอย่างมีนัยสำคัญ
ความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ระหว่างอิหร่านและอิสราเอลนี้มีพื้นฐานมาจากความเป็นปรปักษ์ที่ยืดเยื้อยาวนานและการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ในตะวันออกกลาง การที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของอิสราเอล อาจเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง มีแนวโน้มที่จะทำให้ความขัดแย้งขยายวงกว้างขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ความรุนแรงของสถานการณ์ได้รับการยืนยันจากนายเซอร์เกย์ นารีชกิน ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งประเมินว่าสถานการณ์ปัจจุบันอยู่ในระดับ "วิกฤติ" แสดงให้เห็นถึงระดับความตื่นตระหนกสูงสุดของรัฐบาลรัสเซียต่อการเสื่อมถอยของสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงในภูมิภาค
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้ซึ่งเพิ่งลงนามสนธิสัญญาหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์กับอิหร่านเมื่อต้นปีนี้ ได้ออกมาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงทันที การแทรกแซงของผู้นำรัสเซียในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่ซับซ้อนของมอสโก ทั้งในฐานะหุ้นส่วนใกล้ชิดของอิหร่านและผู้มีบทบาทสำคัญในการทูตระดับภูมิภาค โดยพยายามป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลายในขณะเดียวกันก็รักษาอิทธิพลของตนเอาไว้
ความขัดแย้งระลอกล่าสุดปะทุขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากอิสราเอลทำการโจมตีทางอากาศแบบไม่มีการเตือนล่วงหน้าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมุ่งเป้าไปที่สถานที่สำคัญทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน รวมถึงนักวิทยาศาสตร์อาวุโสและผู้บัญชาการทหารระดับสูง รัสเซียออกมาประณามการโจมตีดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีเหตุผลสนับสนุนและผิดกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมระบุว่าเป็นการยกระดับความรุนแรงที่คุกคามเสถียรภาพของภูมิภาค
อิหร่านตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธและส่งโดรนโจมตีเป้าหมายต่างๆ ของอิสราเอล ทำให้การแลกเปลี่ยนการโจมตีระหว่างสองประเทศทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกาได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนต่อสถานการณ์ โดยได้พิจารณาทางเลือกต่างๆ อย่างเปิดเผย รวมถึงความเป็นไปได้ในการเข้าร่วมกับอิสราเอลโจมตีสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่าน เมื่อวันอังคาร ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เรียกร้องให้อิหร่าน "ยอมจำนน" โดยใช้คำว่า "การยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข" จากเตหะราน
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการกำจัดอายาตุลลอฮ์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ แต่ได้ชี้แจงในภายหลังว่า "เราจะไม่กำจัดเขา อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในตอนนี้"
ผู้นำสูงสุดคาเมเนอีได้ตอบโต้คำพูดของประธานาธิบดีทรัมป์ว่าเป็นการกล่าวที่ "ไม่สมควร" พร้อมยืนยันว่าอิหร่าน "ไม่อาจยอมจำนน" และเตือนอย่างชัดเจนว่า "การรุกล้ำทางทหารใดๆ จะได้รับการตอบโต้ด้วยผลกระทบที่ไม่อาจย้อนกลับได้อย่างแน่นอน"
ตะวันออกกลางกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนและเต็มไปด้วยอันตราย ขณะที่สหรัฐอเมริกากำลังชั่งน้ำหนักการมีส่วนร่วมทางทหาร และอิหร่านกับอิสราเอลยังคงดำเนินสงครามทางอากาศต่อไป คำเตือนของรัสเซียเน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่ความขัดแย้งอาจขยายตัวและสร้างความไม่มั่นคงในวงกว้างทั่วทั้งภูมิภาค หากสถานการณ์ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นต่อไป
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.newsweek.com/russia-us-against-iran-nuclear-israel-attack-trump-2087320