.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ
7-11-2025
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ตามคำทูลเชิญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ ในโอกาสการเฉลิมฉลองครบรอบ ๕๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน เพื่อทรงเจริญพระราชไมตรีและความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
การเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนในครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงมีกำหนดการสำคัญ ได้แก่ การเสด็จพระราชดำเนินไปยังมหาศาลาประชาชน เพื่อทรงรวมพิธีรับเสด็จอย่างเป็นทางการ และทรงพบกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และภริยา จากนั้น จะพระราชทานพระบรมรมราชวโรกาสให้นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเฝ้าทูลละองธุลีพระบาท และประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและภริยาจะถวายพระกระยาหารค่ำอย่างเป็นทางการที่มหาศาลาประชาชน
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่สำคัญทางศิลปวัฒนธธรรมและศาสนา โดยจะทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่วัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง และทอดพระเนตรความก้าวหน้าด้านการพัฒนาประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเฉพาะในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโลยี นวัตกรรม และการศึกษา โดยจะทรงเยี่ยมชมสถาบันเทคโนโลยีอวกาศ ศูนย์เทคโนโลยีด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากร และศูนย์หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ในกรุงปักกิ่ง
ก่อนเสด็จเสด็จพระราชดำเนินกลับประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินไปยังพิพิธภัณฑ์พระราชวังโบราณกรุงปักกิ่ง เพื่อทอดพระเนตรนิทรรศการพิเศษ “หมื่นมิ่งมงคลไชย สายสัมพันธ์นิรันดร : นิทรรศการโบราณวัตถุฉลอง ๕๐ ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน” รอบปฐมทัศน์
ในโอกาสการเฉลิมฉลองครบรอบ ๕๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ในปี ๒๕๖๘ นี้ ถือเป็น “ปีทองแห่งมิตรภาพไทย – จีน” และจะเป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ไทยจะเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพและความเข้าใจอันดียิ่งระหว่างสองประเทศในทุกระดับ อีกทั้งจะเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้เจริญรุ่งเรือง และแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต และยังประโยชน์ให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศสืบไป
ที่มา กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ https://www.mfa.go.th/th/content/announcement-state-visit-to-china-th?fbclid=IwdGRjcAN5YYRjbGNrA3lhbWV4dG4DYWVtAjExAHNydGMGYXBwX2lkDDM1MDY4NTUzMTcyOAABHowYo-Vk9QNR7NtyI1w_BeXIZzEyRy7VYaXcDaT_yOup58SjVXbeFollO2yN_aem_0Kq0n0EgJ82qa_djWIJscw
-----------------------------------
"การเยือนจีนคร้ังแรกของพระมหากษัตริย์ไทยนับต้ังแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ"
7-11-2025
วันพฤหัสบดี (6 พ.ย.) เหมาหนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน เปิดเผยว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร แห่งราชอาณาจักรไทย จะเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 13-17 พ.ย. ตามคำเชิญของสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน
เหมาแถลงข่าวว่าสีจิ้นผิง ประธานาธิบดี และหลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน จะแยกกันเข้าพบพระมหากษัตริย์ไทย การเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของพระมหากษัตริย์ไทยนับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
เหมากล่าวว่าข้อเท็จจริงที่ว่าพระมหากษัตริย์ไทยทรงเลือกจีนเป็นประเทศใหญ่ประเทศแรกในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนอย่างเป็นทางการได้สะท้อนให้เห็นความสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายมีต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างยิ่งยวด
จีนและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและเป็นมิตร รวมถึงประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน โดยความสัมพันธ์จีน-ไทยภายใต้การชี้นำเชิงยุทธศาสตร์ของคณะผู้นำทั้งสองประเทศยังคงพัฒนาในระดับสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเป็นที่เชื่อมั่นในหมู่ประชาชนว่าทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิดดังครอบครัวเดียวกัน
อนึ่ง ปี 2025 ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ไทย และปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย ซึ่งเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี
เหมากล่าวว่าจีนคาดหวังสืบสานมิตรภาพดั้งเดิม เสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองซึ่งกันและกัน ดำเนินความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ร่วมกันอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และบรรลุผลลัพธ์อันเป็นรูปธรรมมากขึ้นในการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกันผ่านการเสด็จพระราชดำเนินเยือนครั้งนี้ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ประชาชนทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้น ตลอดจนมีส่วนสนับสนุนสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนา และความเจริญรุ่งเรืองในระดับภูมิภาค
ที่มา Xinhua