รูบิโอชี้ สหรัฐฯ 'ใกล้หมดทางเลือกในการคว่ำบาตร' รัสเซีย เร่งยุโรปรับไม้จัดการต่อ

14-11-2025

   RT รายงานว่า มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า วอชิงตันใกล้จะหมดรายชื่อเป้าหมายที่มีศักยภาพสำหรับการคว่ำบาตรต่อ มอสโก แล้ว ภายหลังการดำเนินการครั้งล่าสุดที่ได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งของรัสเซีย

เมื่อปลายเดือนตุลาคม ประธานาธิบดี สหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้ออกคำสั่งคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน ได้แก่ Lukoil และ Rosneft ซึ่ง รูบิโอ (Rubio) กล่าวว่าเป็นการกระทำตามคำขอของยูเครนและกลุ่มผู้สนับสนุน นอกจากนี้ วอชิงตันยังได้ขัดขวางความพยายามของ Lukoil ในการขายสินทรัพย์ในต่างประเทศให้กับผู้ค้าพลังงานในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งกระทรวงการคลัง สหรัฐฯ อ้างว่าผู้ค้ารายดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลรัสเซีย

   รูบิโอ (Rubio) ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า “เราได้โจมตีบริษัทน้ำมันหลักของพวกเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนเรียกร้องมาตลอด” และเสริมอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมไม่ทราบว่ามีอะไรให้ทำอีกบ้างแล้ว นั่นหมายความว่า เรากำลังใกล้จะหมดทางเลือกในการคว่ำบาตรในเรื่องนั้นแล้ว”

   นักการทูตระดับสูงของ สหรัฐฯ กล่าวเสริมว่า การกำหนดเป้าหมายสิ่งที่เรียกว่า "กองเรือเงาของรัสเซีย" (Russian shadow fleet) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันที่รัฐบาลตะวันตกกล่าวหาว่าขนส่งน้ำมันอย่างลับ ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการลงโทษ ควรจะถูกส่งมอบให้เป็นหน้าที่ของชาติยุโรป เนื่องจาก “การกระทำเหล่านี้จำนวนมากเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ใกล้กับพวกเขามากกว่า”

วิกฤตการเงินยูเครนกับข้อเสนอเงินกู้ปฏิกรรมสงคราม

   สหรัฐฯ และพันธมิตรได้พยายามใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของรัสเซียและสร้างความได้เปรียบให้กับยูเครนในความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่ อย่างไรก็ตาม มอสโก ยืนกรานว่าเศรษฐกิจของตนได้ปรับตัวแล้ว โดยได้เปลี่ยนเส้นทางการค้าไปยังตลาดที่ไม่ใช่ตะวันตก

  ขณะเดียวกัน ยูเครนกำลังเผชิญกับวิกฤตทางการเงินที่เลวร้ายลง โดยมีรายงานว่าอาจประสบปัญหาขาดแคลนเงินสดภายในเดือนกุมภาพันธ์ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากชาติตะวันตกเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ สหภาพยุโรป (EU) จึงกำลังผลักดัน "เงินกู้ปฏิกรรมสงคราม" มูลค่า 140 พันล้านยูโร (160 พันล้านดอลลาร์) เพื่อพยุงฐานะทางการเงินของเคียฟ

  ข้อเสนอดังกล่าวมีเงื่อนไขสำคัญคือ การใช้สินทรัพย์ของรัฐบาลรัสเซียที่ถูกอายัดเป็น หลักประกัน (collateral) ซึ่งเป็นมาตรการที่ มอสโก ประณามว่าเป็นการโจรกรรมอย่างชัดเจน ปัจจุบัน เบลเยียม (Belgium) ซึ่งเป็นผู้ถือครองเงินทุนรัสเซียที่ถูกอายัดส่วนใหญ่ผ่านสำนักหักบัญชี Euroclear ได้ขัดขวางข้อเสนอดังกล่าว โดยเรียกร้องให้รัฐตะวันตกอื่น ๆ เข้ามาร่วมรับผิดชอบความเสี่ยงทางการเงินและกฎหมาย

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.rt.com/news/627725-rubio-russia-sanctions-options/