ปธน.เวเนซุเอลา เผยคุยโทรศัพท์ตรงกับทรัมป์
ปธน.เวเนซุเอลา เผยคุยโทรศัพท์ตรงกับทรัมป์ ย้ำพร้อมเจรจา ท่ามกลางแรงกดดันคว่ำบาตร–ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ
5-12-2025
Newsweek รายงานว่า ประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร (Nicolás Maduro) แห่ง เวเนซุเอลา (Venezuela) เปิดเผยว่าเขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) แห่ง สหรัฐฯ (U.S. President Donald Trump) ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นจากการคว่ำบาตรของ สหรัฐฯ (U.S. sanctions) และความมั่นคงในภูมิภาค โดย มาดูโร (Maduro) ได้กล่าวถึงการแลกเปลี่ยนนี้ว่าเป็นไปในลักษณะที่เป็นมิตร
มาดูโร (Maduro) กล่าวเป็นภาษาสเปนว่า "หากการโทรศัพท์ครั้งนี้หมายความว่ามีการดำเนินการตามขั้นตอนไปสู่การเจรจาที่ให้ความเคารพซึ่งกันและกันระหว่างรัฐต่อรัฐ จากประเทศสู่ประเทศ ขอต้อนรับการเจรจา ขอต้อนรับการทูต เพราะเราจะแสวงหาสันติภาพอยู่เสมอ!"
ขณะที่ ประธานาธิบดี ทรัมป์ (Trump) ยืนยันว่าทั้งสองได้พูดคุยกันจริง แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการสนทนาของพวกเขา
บริบทความตึงเครียดและการตอบโต้
การสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่ ประธานาธิบดี ทรัมป์ (Trump) ยังคงยกระดับแรงกดดันทางทหารต่อ เวเนซุเอลา (Venezuela) ด้วยการโจมตีเรือในแคริบเบียน (Caribbean boat strikes) และการจำกัดน่านฟ้า ขณะเดียวกัน มาดูโร (Maduro) ก็เผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการลงจากตำแหน่ง ท่ามกลางข้อกล่าวหาของ สหรัฐฯ (U.S. accusations) ที่เชื่อมโยงเขากับเครือข่ายค้ายาเสพติด ซึ่งเขาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ เวเนซุเอลา (Venezuelan officials) กล่าวหาว่ารัฐบาล ทรัมป์ (Trump) กำลังพุ่งเป้าไปที่ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ มาดูโร่ (Maduro) ได้ระดมผู้สนับสนุน โดยกล่าวว่าวิกฤตครั้งนี้เป็นการต่อสู้เพื่ออำนาจอธิปไตย ท่ามกลางความยากลำบากทางเศรษฐกิจและการถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติ
การเจรจาด้วยเงื่อนไข
มาดูโร (Maduro) กล่าวว่าเขาเชื่อว่า "เส้นทางของประชาชน สหรัฐฯ (United States) และประชาชน เวเนซุเอลา (Venezuela) จะต้องเป็นเส้นทางแห่งความเคารพ การทูต และการเจรจา" โดยยืนยันว่าเขาได้รับโทรศัพท์จากทำเนียบขาว (White House) "ประมาณ 10 วันที่แล้ว" ในระหว่างงานที่จัดขึ้นในกรุงการากัส (Caracas) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ของรัฐ เวเนซุเอลา (Venezuelan state-run TV)
มีรายงานก่อนหน้านี้จาก Reuters เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า มาดูโร (Maduro) ได้แจ้งต่อ ทรัมป์ (Trump) ว่าเขายินดีที่จะลงจากตำแหน่ง หากตัวเขาและครอบครัวได้รับนิรโทษกรรมทางกฎหมายอย่างสมบูรณ์ รวมถึงการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของ สหรัฐฯ (U.S. sanctions) และการปิดคดีที่มีชื่อเสียงใน ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court)
สหรัฐฯ (U.S.) ได้ประกาศให้ Cártel de los Soles (Cartel of the Suns) เป็นองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ โดยกล่าวหาว่า มาดูโร่ (Maduro) เป็นผู้นำกลุ่มและมีสมาชิกอาวุโสในรัฐบาลของเขารวมอยู่ด้วย
ในช่วงที่ผ่านมา สหรัฐฯ (U.S.) ได้ดำเนินการโจมตีทางทะเลในน่านน้ำแคริบเบียน (Caribbean waters) ตั้งแต่เดือนกันยายน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 80 ราย และ ประธานาธิบดี ทรัมป์ (Trump) ยังส่งสัญญาณว่า เพนทากอน (Pentagon) อาจเริ่มดำเนินการโจมตีบนบกได้
ประธานาธิบดี มาดูโร(Nicolás Maduro) กล่าวเกี่ยวกับการโทรศัพท์เมื่อวันพุธว่า: "ผมสามารถพูดได้ว่าการสนทนาเป็นไปในน้ำเสียงที่ให้ความเคารพ ผมยังสามารถพูดได้ว่าเป็นการสนทนาที่ฉันท์มิตรระหว่างประธานาธิบดี สหรัฐฯ (United States) กับประธานาธิบดี เวเนซุเอลา (Venezuela)"
ในขณะที่ ประธานาธิบดี ทรัมป์ (Donald Trump) กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน (Air Force One) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า: "ผมจะไม่พูดว่ามันเป็นไปด้วยดีหรือไม่ดี มันก็แค่การโทรศัพท์"
ประธานาธิบดี ทรัมป์ กล่าวทิ้งท้ายว่าประเทศใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาเสพติดเพื่อการค้าผิดกฎหมายอาจตกเป็นเป้าหมายของ สหรัฐฯ (U.S.) ได้
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.newsweek.com/maduro-phone-call-trump-venezuela-11153329