สุรเดช ยะสวัสดิ์ ทายาทเทพ 333 ขอหวนคืนเวทีพะเยา

6/5/2024
IMCT NEWS เกาะขอบสนามเลือกตั้งสว.67 โดยพยายามนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสว. 67 ให้มากที่สุดเท่าที่ระเบียบข้อบังคับการเลือกตั้งสว.ของคณะกรรมการการเลือกตั้งจะเปิดช่องให้ทำได้
การสัมภาษณ์ว่าที่ผู้สมัครสว. จะทยอยนำเสนอในรูปแบบการพูดคุยในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเอกสารแนะนำตัว หรือสว.3 ซึ่งเป็นเอกสารต้องห้ามในการเผยแพร่ผ่านสื่อ หรือสถานที่สาธารณะใดๆ ตามระเบียบการเลือกตั้งของกกต.
ว่าที่ผู้สมัครสว.รายแรกที่ IMCT NEWS ไปพูดคุย คือ คุณสุรเดช ยะสวัสดิ์ อดีตสว.จังหวัดพะเยา เมื่อปี 2543 และเคยเป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อแผ่นดิน เมื่อปี 2550 คุณสุรเดช ยะสวัสดิ์ ที่ครั้งนี้ตัดสินใจว่า จะลงสมัครในพื้นที่เดิม คือ จังหวัดพะเยา และลงที่อำเภอเชียงคำ ที่คุณสุรเดช เคยลงพื้นที่ไปทำงานที่นั่น จนเข้าหลักเกณฑ์การลงสมัครได้
คุณสุรเดช เป็นทายาทคนเดียวของอดีตผู้บัญชาการกองกำลังผสม 333 ที่เข้าไปปฏิบัติการลับในลาว เจ้าของฉายา เทพ 333 พลตำรวจเอกวิฑูรย์ ยะสวัสดิ์ อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ หรือพลโทวิฑูรย์ ยะสวัสดิ์ สถานะการเป็นทายาทนายทหารคนดังที่เคยมีบทบาทอย่างยิ่งในช่วงสงครามเย็น และในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง เมื่อปี 2516 – ปี 2519 ทำให้คุณสุรเดชถูกตั้งคำถามมาตลอดว่า ทำไมไม่ตัดสินใจเล่นการเมืองทางลัด ทำไมเมื่อปี 2543 จึงตัดสินใจลงสมัครสว.ที่จังหวัดพะเยา
การพูดคุยในครั้งนี้ คุณสุรเดชบอกว่า ตั้งใจจะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ว.อีกครั้ง หลังจากหายไปจากแวดวงการเมืองนานกว่าสิบปี แต่ช่วงนี้กำลังศึกษาระเบียบ กติกาของการรับสมัคร และกระบวนการเลือกส.ว.ที่ค่อนข้างซับซ้อน
เขาชนะเลือกตั้งส.ว.ที่พะเยาเมื่อปี 2543 ด้วยคะแนนเกินแสน และเป็นคะแนนที่มาจากคนพะเยาโดยตรง ชนะแบบไม่อยากเชื่อว่าจะชนะในปีนั้น
ชนะเพราะคนพะเยาช่วยกันลงคะแนน เพราะประทับใจที่เป็นคนกรุงเทพ แต่ลงไปช่วยคนพะเยาทั้งในหน่วยบรรเทาสาธารณภัย และในช่วงน้ำท่วมใหญ่ในพะเยา ช่วงปี 2542
ชัยชนะรอบนั้น คะแนนแสนกว่าคะแนนในครั้งนั้น ทำให้ในครั้งนี้ เมื่อต้องตัดสินใจลงสมัคร เขาก็จะลงสมัครในพื้นที่จังหวัดพะเยา โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเชียงคำ อำเภอที่เขามีความผูกพันกับผู้คนที่นั่น
คะแนนแสนกว่าคะแนนในปี 2543 คือ ความผูกพันที่ต้องไปลงสมัครที่นั่น เพราะถ้าไปสมัครที่อื่นก็เหมือนไม่เคารพคนพะเยา
คุณสุรเดชบอกว่า กติกาการเลือกตั้งรอบนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน เพราะการเลือกตั้งส.ว.เมื่อปี 2543 เป็นการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน ประชาชนอยากได้ใครเป็นตัวแทนของเขา เขาก็เลือกคนนั้น
เขาบอกว่า เห็นด้วยกับหลายๆคนที่อยากให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในประเด็นที่มาของส.ว. ให้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน และฝากถึงผู้ที่มีโอกาสได้รับเลือกเข้าไปในสภาว่า ใครเข้าไปได้ก็อยากฝากให้ร่วมกันแก้กติกาข้อนี้ เพราะเขาเองยังไม่รู้ว่า ตัวเองจะฝ่าด่านกติกาเลือกตั้งรอบนี้เข้าไปได้หรือไม่
เมื่อต้องสมัคร และต้องกลับไปสมัครที่พะเยารอบนี้ คุณสุรเดชบอกว่า เขาถูกตั้งคำถามจากคนรอบตัว และคนใกล้ชิดว่า ทำไมไม่เลือกพื้นที่อื่น
ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การเมืองในพะเยาเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนจากปี 2543 ที่เขาชนะการเลือกตั้ง และการแข่งขันรอบนี้จะไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะบ้านใหญ่ ที่วันนี้จะไม่ใช่การแข่งขันกับตระกูลการเมืองเดิม แต่เป็นกลุ่มอำนาจใหม่ กลุ่มการเมืองใหม่ที่มีฐานเสียงครอบคลุมทั้งจังหวัด ที่แม้จะไม่มีผลต่อคะแนนเสียงทางตรง แต่ก็อาจจะมีผลต่อคะแนนเสียงทางอ้อม
แต่คุณสุรเดชกลับคิดตรงกันข้าม เขาบอกว่า การเลือกที่จะลงสมัครที่พะเยา ไม่ได้มาเพื่อแข่งขัน หรือมาเป็นคู่ต่อสู้ในทางการเมืองกับใคร
ประการแรก ที่ต้องลงสมัครที่พะเยา ก็เพราะติดค้างคนพะเยาที่เคยเลือกเขา เลือกคนต่างถิ่นคนนี้ด้วยคะแนนที่ท่วมท้น แบบไม่หวังผลตอบแทน
ประการที่สอง ที่ต้องลงสมัครในพื้นที่พะเยา ก็ไม่อยากให้มองว่า เขาลงไปแข่งขัน แต่อยากให้มองว่า เป็นการเสนอตัว เสนอตัวเข้าร่วมงาน เสนอตัวมาพัฒนาพะเยา เสนอตัวมาทำงานที่เคยคิด แต่ยังคั่งค้างอยู่ให้สำเร็จ
ประการสำคัญคือ อยากให้มองว่า การทำงานในสภา ในฐานะวุฒิสมาชิก ในวุฒิสภา ต้องทำให้วุฒิสภากลับมาเป็นสภาที่คอยถ่วงดุลอำนาจทางการเมือง ทำให้วุฒิสภาเป็นดั่งสภาพี่เลี้ยง สภาที่คอยกลั่นกรองกฏหมาย และถ่วงดุลอำนาจ ไม่ใช่เป็นสภาของฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง”
การเลือกส.ว.รอบนี้ เมื่อเขาตัดสินใจลงสมัคร และจะต้องเป็นหนึ่งในคนที่ต้องเลือกใครคนใด คนหนึ่ง เขาจะเลือกคนที่มีคุณสมบัติ 5 ข้อ คือ
หนึ่ง ต้องเป็นคนเก่ง คนที่มีความสามารถที่จะทำงานให้กับประเทศ และประชาชนได้
สอง ต้องเป็นคนที่มีความพร้อม พร้อมที่จะทำงาน พร้อมที่จะเสียสละเวลา ในการทำงานเพื่อประเทศ
สาม ต้องเป็นคนดี คนที่มีคุณธรรม
สี่ ต้องเป็นคนที่มีอุดมการณ์ และ
ห้า คือ ต้องเป็นคนที่สามารถประสานประโยชน์ เพื่อประชาชนได้
สุดท้าย คือ อยากให้คนที่มีสิทธิเลือก คำนึงเสมอว่า กำลังเลือกแทนประชาชน เลือกคนไปทำงานแทนคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เข้าไปเลือกเพื่อใคร คนใด คนหนึ่ง หรือเข้าไปเลือกเพื่อพวกใคร พวกหนึ่ง
เขาบอกว่า พะเยาวันนี้ เป็นเมืองแห่ง ซอฟต์พาวเวอร์ ทั้งด้วยตัวผู้คนที่ยิ้มแย้มแจ่มใส มีไมตรีกับคนต่างถิ่น รวมถึงมีวัฒนธรรม และธรรมชาติที่งดงาม เขาอยากเข้าไปมีส่วนร่วมสร้างการพัฒนาจังหวัด ร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพะเยา โดยเฉพาะผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น แบบยั่งยืน
ให้พะเยาเป็น “เมืองน่าอยู่ ท่องเที่ยวยั่งยืน คุณภาพชีวิตดีกว่าเดิม”
โดยให้คำจำกัดความ เมืองน่าอยู่ ว่า จะต้องเน้นให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ทั้งชีวิต และทรัพย์สิน รวมทั้งอาชญากรรม”
ส่วนพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ต้องเน้นสนับสนุนโครงการโฮมสเตย์ในทุกอำเภอเพื่อเป็นการกระจายรายได้ และพัฒนาทักษะในด้านบริการ รวมทั้งการอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติโบราณสถาน และศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น
และการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาว ทำให้เป็นจังหวัดสำหรับผู้สูงอายุ อยู่อาศัยอย่างมีความสุข”
IMCT New