Thailand
ขอบคุณภาพจาก RT
3/4/2024
ความพยายามของกลุ่ม BRICS ที่จะถอยห่างจากดอลลาร์ยังดำเนินต่อไป เมื่อจีนเปิดตัวโครงการจัดวางระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเอื้อต่อบล็อกเชน หวังยุติการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขาย โครงการบล็อกเชนของจีนยังช่วยส่งเสริม Belt and Road Initiative หรือโครงการเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 เป็นยุทธศาสตร์หลักของจีนในการขยายอิทธิพลบนเวทีโลกผ่านการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งกับนานาประเทศ
ทั้งที่จีนสั่งแบนคริปโต แต่กลุ่ม BRICS ก็ยังส่งเสริมสินทรัพย์ดิจิทัลตลอดทั้งปีนี้ ( 2024 ) จีนยังประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในการใช้ดิจิทัลหยวน และยังเพิ่มการใช้ดิจิทัลหยวนให้มากขึ้นในการซื้อขายต่างๆ ซึ่งท้ายสุด โครงการบล็อกเชนก็จะลามเข้าไปยังกลุ่ม BRICS รวมถึงกลุ่มที่ต้องการถอยห่างจากเงินดอลลาร์ในระบบการเงินโลก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลุ่ม BRICS ยึดมั่นในแนวคิดถอยห่างจากดอลลาร์ โดยให้สมาชิกกลุ่มซื้อขายโดยใช้สกุลเงินท้องถิ่น เพราะเกรงว่า ถ้าพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐมากเกินไป หากถูกตะวันตกคว่ำบาตร ก็จะเกิดปัญหากับระบบการเงินของตัวเองได้ อีกทั้งสถานภาพของดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบันก็ไม่ค่อยดีนัก
กลยุทธ์ของ BRICS โน้มนำให้จีนเปิดตัวโครงการบล็อกเชนเพื่อยุติการใช้ดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขาย และจะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในโครงการ Belt and Road initiative ด้วย ซึ่งจะส่งผลให้มีอีกหลายประเทศเข้าร่วมโครงการบล็อกเชนนี้ด้วย
สถาบันวิจัย Shanghai Tree Map Blockchain ประกาศโครงการบล็อกเชนนี้ผ่านบัญชี WeChat เป็นความร่วมมือจากทางสถาบัน กับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง มหาวิทยาลัยฟู่ตัน มหาวิทยาลัยทางทะเลเซี่ยงไฮ้ รวมถึงสถาบันข้อมูลและเทคโนโลยีสื่อสารของจีน
ถือเป็นการพัฒนาอีกขั้นหนึ่งของจีนที่จะใช้บล็อกเชนในสเกลระดับโลก แม้ว่าจีนยังคงแบนการค้าและการเป็นเจ้าของคริปโต แต่จีนก็ได้นำระบบบล็อกเชนมาใช้กับการเงินโลก โดยเชื่อว่า สักวันหนึ่ง ระบบนี้จะนำมาใช้กับสมาชิก BRICS ทั้งหมด เพราะปัจจุบัน BRICS ก็ได้มีการประกาศระบบชำระเงินแบบบล็อกเชนแล้ว หลายฝ่ายจึงคาดว่า สกุลเงินที่ BRICS กำลังพัฒนาอยู่ น่าจะเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล การที่จีนหันมาพัฒนาโครงการซื้อขายด้วยบล็อกเชนในระดับข้ามชาติ จึงน่าจะช่วยให้ BRICS บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น
By IMCTNews
อ้างอิงจาก https://watcher.guru/news/brics-china-unveils-blockchain-project-to-end-us-dollar-in-trade