บริษัทขนาดใหญ่ที่มีสินทรัพย์เกิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐกำลังเผชิญกับการปิดกิจการและการล้มละลายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

24-10-2025

   รายงาน “Trends in Large Corporate Bankruptcy and Financial Distress — Midyear 2025 Update” ระบุว่า จำนวนการยื่นขอล้มละลายเริ่มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2023 และยังคงพุ่งต่อเนื่องเข้าสู่ปี 2025 โดยในรอบปีที่ผ่านมา มีบริษัทขนาดใหญ่ถึง 117 แห่งยื่นขอล้มละลาย ซึ่งถือว่าสูงผิดปกติ เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2005–2024 ที่อยู่ที่ 81 แห่งต่อปี

   การล้มละลายของบริษัทขนาดยักษ์ (สินทรัพย์เกิน 1 พันล้านดอลลาร์) ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมี 32 รายการในเดือนที่ผ่านมา จาก 24 รายการในปีก่อนหน้า ขณะที่ค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2005–2024 อยู่ที่เพียง 23 รายการต่อปีเท่านั้น ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 เพียงอย่างเดียวก็มีการบันทึกไว้ถึง 17 รายการ ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงการระบาดของโควิด-19 ในปี 2020

  ภาคการผลิตได้รับผลกระทบหนักที่สุด แต่ไม่ใช่เพราะภาษีนำเข้าหรือการขาดแคลนแรงงานอพยพ ปัจจัยหลักที่ถูกระบุโดย 67% ของบริษัทผลิตสินค้าขนาดใหญ่ที่ล้มละลายคือ สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบ กฎหมาย และการเมือง นอกจากนี้ 61% ของบริษัทที่ล้มละลายระบุว่า อุปสงค์ที่ลดลงจากภาวะเงินเฟ้อสูง เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องยื่นล้มละลาย ภาคบริการได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากเงินเฟ้อ เนื่องจากผู้บริโภคขาดรายได้ที่สามารถใช้จ่ายได้

 แม้รายงานส่วนใหญ่จะระบุว่าเงินเฟ้อเป็นปัจจัยภายนอก แต่แท้จริงแล้ว ปัญหาดังกล่าวถูกซ้ำเติมจากการขาดดุลการคลังและการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ที่พยายามควบคุมอุปสงค์ ทั้งที่นั่นไม่ใช่ปัญหาหลัก บริษัทขนาดใหญ่ระดับนี้จะไม่เข้าสู่ภาวะล้มละลายได้โดยไม่มีสัญญาณล่วงหน้า ซึ่งสะท้อนถึง ปัญหาการบริหารจัดการที่ยืดเยื้อ อุปสรรคทางการค้า ข้อกำหนด ESG นโยบายที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น

   ธุรกรรมการบริหารหนี้ (Liability Management Transactions: LMTs) ก็ทำสถิติสูงสุดเช่นกัน โดยมี 45 รายการในปีที่ผ่านมา และอีก 27 รายการในครึ่งแรกของปี 2025 การเจรจาเหล่านี้มีความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากบริษัทพยายามเลื่อนการล้มละลายออกไปให้นานที่สุด ในอดีตบริษัทขนาดยักษ์เหล่านี้มักพึ่งพาการอัดฉีดเงินจากรัฐบาล แต่ในปัจจุบัน รัฐบาลเองก็มีภาระต้องดูแลจำนวนมากเกินไป

   การเพิ่มขึ้นของการล้มละลายของบริษัทยักษ์ใหญ่สะท้อนว่า แม้แต่บริษัทที่เคยถูกมองว่า “ใหญ่เกินกว่าจะล้ม” ก็ไม่อาจรอดพ้นจากการล่มสลายได้อีกต่อไป ซึ่งบ่งชี้ถึง พื้นฐานทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอและอาจคุกคามต่อเสถียรภาพของระบบการเงินโดยรวม

ที่มา armstrongeconomics.com