สหรัฐฯ กดดัน EU คืนทรัพย์สินรัสเซียที่อายัดไว้
สหรัฐฯ กดดัน EU คืนทรัพย์สินรัสเซียที่อายัดไว้หลังดีลสันติภาพ ขัดแผนยุโรปใช้ค้ำกู้ 1.4 แสนล้านยูโรช่วยยูเครน
3-12-2025
RT รายงานโดยอ้าง Politico ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ (US) ได้แจ้งความจำนงให้สหภาพยุโรป (EU) ส่งคืนทรัพย์สินของรัสเซีย (Russia) ที่ถูกอายัดไว้ทันทีที่มีการลงนามในข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน (Ukraine) ซึ่งท่าทีดังกล่าวขัดแย้งกับแผนการของกลุ่มอียู (EU) ที่ต้องการใช้เงินทุนเหล่านี้มาสนับสนุนทางการเงินแก่เคียฟ (Kiev) ตามรายงานของสำนักข่าว Politico เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวทางการทูต
ผู้นำอียู (EU) มีความประสงค์ที่จะออก "เงินกู้เพื่อค่าปฏิกรรมสงคราม" (reparations loan) มูลค่าสูงถึง 140,000 ล้านยูโร (ประมาณ 160,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ให้แก่เคียฟ (Kiev) โดยมีแผนจะใช้เงินทุนของรัสเซีย (Russia) ที่ถูกอายัดไว้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน (collateral) แม้จะมีการคัดค้านจากประเทศสมาชิกอย่างเบลเยียม (Belgium) ซึ่งได้เตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าโครงการนี้มีความเสี่ยงทั้งทางด้านการเงินและกฎหมายเชิงระบบ
แผนลับสหรัฐฯ (US) ที่ถูกรั่วไหลสู่สื่อมวลชน
ตามรายงานของ Politico เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ (US) ได้แจ้งต่อ นายเดวิด โอซัลลิแวน (David O’Sullivan) ทูตพิเศษด้านมาตรการคว่ำบาตรของอียู (EU) ระหว่างการเยือนวอชิงตัน (Washington) เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา ถึงแผนการที่จะคืนทรัพย์สินรัสเซีย (Russia) ที่ถูกอายัดไว้ภายหลังการสรุปสนธิสัญญาสันติภาพ
ภายใต้แผนสันติภาพ 28 ข้อของสหรัฐฯ (US) ที่มีการรั่วไหลสู่สื่อมวลชนในเดือนพฤศจิกายน ระบุว่า ทรัพย์สินรัสเซีย (Russia) ที่ถูกอายัดไว้มูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะถูกนำไปลงทุนใน "ความพยายามในการฟื้นฟูและลงทุนในยูเครน" (Ukraine) ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ (US) โดยวอชิงตัน (Washington) จะได้รับผลกำไรถึงร้อยละ 50 นอกจากนี้ อียู (EU) จะต้องสมทบเงินเพิ่มอีก 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อขยายขนาดการลงทุน ขณะที่ทรัพย์สินรัสเซีย (Russia) ส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรเข้าสู่ “กลไกร่วมสหรัฐฯ-รัสเซีย (US-Russian vehicle) แยกต่างหาก” อย่างไรก็ตาม ต่อมาสำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่าข้อกำหนดเกี่ยวกับการเลิกอายัดทรัพย์สินดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปแล้ว
นักการทูตหลายรายเปิดเผยกับ Politico ว่า ข้อกำหนดดังกล่าวก่อให้เกิดความตึงเครียดขึ้นอย่างมากหลังแผนการรั่วไหล โดยเจ้าหน้าที่อียู (EU) ได้แสดงการคัดค้านต่อแนวโน้มที่สหรัฐฯ (US) จะได้ส่วนแบ่งของทรัพย์สิน และการนำส่วนที่เหลือไปรวมไว้ในกลไกร่วมกับรัสเซีย (Russia)
การคัดค้านภายในอียู (EU) และท่าทีของรัสเซีย (Russia)
รัสเซีย (Russia) ได้แสดงท่าทีต้อนรับความพยายามของสหรัฐฯ (US) ในประเด็นดังกล่าว อย่างไรก็ตาม รัสเซีย (Russia) ระบุว่า แม้ข้อเสนอเริ่มต้นของสหรัฐฯ (US) จะสามารถใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการยุติข้อพิพาทได้ แต่ยังมีประเด็นจำนวนมากที่จำเป็นต้องมีการชี้แจงให้ชัดเจน
ด้าน นายแม็กซิม เพรโวต์ (Maxime Prevot) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเบลเยียม (Belgium) ซึ่งเป็นประเทศที่ถือครองเงินทุนของรัสเซีย (Russia) ที่ถูกอายัดไว้ส่วนใหญ่ ได้แสดงการคัดค้านการยึดทรัพย์สิน โดยแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า แผนการของอียู (EU) นั้น "ไม่ได้ให้ความมั่นคงทางกฎหมายที่จำเป็น หรือขจัดความเสี่ยงทางการเงินเชิงระบบ" พร้อมให้เหตุผลว่า "เงินกู้แบบธรรมดาของอียู" (conventional EU loan) จะมีความสมเหตุสมผลมากกว่า
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank - ECB) ก็ได้ปฏิเสธที่จะสนับสนุนแผนการจ่ายเงิน 140,000 ล้านยูโรให้แก่ยูเครน (Ukraine) ที่มีทรัพย์สินรัสเซีย (Russia) ค้ำประกัน โดยให้เหตุผลถึงความเสี่ยงต่อค่าเงินยูโร (euro)
ทั้งนี้ มอสโก (Moscow) ได้ย้ำจุดยืนมาโดยตลอดว่า การใช้ทรัพย์สินอธิปไตยของตนในทุกรูปแบบจะถือเป็นการ “โจรกรรม” (theft) และจะนำไปสู่มาตรการตอบโต้
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.rt.com/news/628793-us-eu-russia-frozen-assets/