การฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐจำเป็นต้องใช้หุ่นยนต์จากจีน

26-5-2025

   บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ หลายแห่ง เช่น Tesla, Agility Robotics และ Figure AI กำลังพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์อุตสาหกรรมสำหรับใช้ในประเทศรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประมาณ 40% ของระบบหุ่นยนต์ในสหรัฐฯ มาจากญี่ปุ่น 16% มาจากจีน และ 12% มาจากเยอรมนี

    ความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ในการฟื้นฟูภาคการผลิตภายในประเทศที่ทันสมัยและเป็นระบบอัตโนมัติ จะต้องอาศัยการใช้งานหุ่นยนต์อุตสาหกรรมขั้นสูงจากต่างประเทศ รวมถึงจากจีน

    ญี่ปุ่น จีน เยอรมนี และเกาหลีใต้ – ประเทศที่ล้วนเคยตกเป็นเป้าหมายในสงครามการค้าของทรัมป์ในระดับหนึ่ง – ผลิตหุ่นยนต์คิดเป็นสัดส่วนราว 70% ของทั้งโลก ตามรายงานของสหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติ (International Federation of Robotics)

    Axios รายงานว่าจีนมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในด้านนี้ โดยอ้างถึงความสำเร็จจากการให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในแผน ‘Made in China 2025’ ซึ่งเปิดตัวภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อปี 2015

    สำหรับสหรัฐฯ ความสามารถในด้านหุ่นยนต์อุตสาหกรรมยังล้าหลังอยู่มาก – จากที่เคยเป็นผู้นำด้านการใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ช่วงทศวรรษ 1960 ปัจจุบันกลับถูกบริษัทญี่ปุ่นและยุโรปแซงหน้าไป เนื่องจากการขาดการลงทุน การสนับสนุนจากรัฐบาล และการต่อต้านจากสหภาพแรงงาน

   ทำเนียบขาวหวังว่าการลงทุนขนาดใหญ่ที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูภาคหุ่นยนต์อุตสาหกรรมสามารถแก้ไขได้ผ่านมาตรการจูงใจทางภาษี และยืนยันว่าความพยายามในการย้ายฐานการผลิตกลับสหรัฐฯ (reshoring) ได้รับการออกแบบมาเพื่อ “แก้ไขปัญหาโดยตรง” เช่น การนำเข้าหุ่นยนต์จากต่างประเทศในกระบวนการผลิต ซึ่งถือว่า “มีความสำคัญต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ”

IMCT News