ยูเครน-รัสเซีย แลกเปลี่ยนตัวนักโทษครั้งใหญ่ที่สุด

ยูเครน-รัสเซีย แลกเปลี่ยนตัวนักโทษครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามปี 2022
24-5-2025
รัสเซียและยูเครนได้แลกเปลี่ยนตัวทหารและพลเรือนฝ่ายละ 390 คน ในการแลกเปลี่ยนเชลยศึกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 ทั้งสองฝ่ายส่งตัวทหาร 270 นาย และพลเรือน 120 คนคืนกันบริเวณพรมแดนยูเครนใกล้เบลารุส ภายใต้ข้อตกลงเพียงฉบับเดียวที่ได้ข้อสรุปจากการเจรจาโดยตรง ณ กรุงอิสตันบูล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งรัสเซียและยูเครนยืนยันตรงกันว่า ข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนนักโทษจำนวน 1,000 คน และยังมีการแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แม้จะเคยมีการแลกตัวนักโทษมาแล้วหลายครั้งในระดับย่อย ๆ แต่ยังไม่เคยมีการส่งตัวที่มี “พลเรือน” จำนวนมากเท่านี้มาก่อน
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า ทหารและพลเรือนที่ได้รับการปล่อยตัว รวมถึงผู้ที่ถูกจับโดยกองกำลังยูเครนในเขตชายแดนแคว้นคูร์สก์ของรัสเซียระหว่างปฏิบัติการตอบโต้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในดินแดนเบลารุส และกำลังถูกส่งตัวกลับไปรัสเซียเพื่อเข้ารับการตรวจสุขภาพและรักษาพยาบาล
“เรากำลังพาคนของเรากลับบ้าน” ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดีย
“เราตรวจสอบชื่อของแต่ละคน รายละเอียดของแต่ละคน อย่างรอบคอบ”
สำนักงานประสานงานเชลยศึกของยูเครนเผยว่า ทหารยูเครน 270 นายที่ได้รับการปล่อยตัวมาจากแนวหน้าในหลายพื้นที่ทั่วภาคตะวันออกและตอนเหนือ ตั้งแต่เคียฟ เชอร์นีฮีฟ ซูมี โดเนตสก์ คาร์คิฟ ไปจนถึงแคว้นเคียร์ซอน
ในกลุ่มเชลยศึกที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันศุกร์ มีผู้หญิงอยู่ด้วย 3 คน และบางคนถูกควบคุมตัวมาตั้งแต่ปี 2022 ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์แสดงความยินดีผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ของตนเอง โดยระบุว่าการแลกเปลี่ยนตัวเสร็จสิ้นลงแล้ว และ “นี่อาจนำไปสู่สิ่งใหญ่บางอย่างก็ได้???” ในวันเดียวกัน ครอบครัวของทหารยูเครนที่ยังคงถูกคุมขังในรัสเซีย ได้รวมตัวกันที่ภาคเหนือของประเทศ ด้วยความหวังว่า ลูกชายหรือสามีของตนจะอยู่ในรายชื่อผู้ได้รับการปล่อยตัว
นาตาเลีย ซึ่งลูกชายชื่อ เยลิซาร์ ถูกจับระหว่างยุทธการที่เมืองเซเวโรโดเนตสก์เมื่อสามปีก่อน บอกกับ BBC ว่าเธอเชื่อมั่นว่าลูกจะกลับมา แม้จะไม่รู้ว่าเมื่อไร
ส่วนโอลฮา กล่าวว่า นับตั้งแต่ลูกชายของเธอชื่อวาเลรี ถูกจับพร้อมทหารอีก 5 นายที่ภาคตะวันออก ชีวิตของเธอก็เหมือนหยุดนิ่ง เพราะไม่รู้ว่าทุกคนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
“พวกเขาถูกจับเมื่อสองเดือนก่อนที่แคว้นลูฮานสก์ หายตัวไปจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง” เธอกล่าว
ข้อตกลงแลกเปลี่ยนเชลยศึกนี้มีขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในตุรกี โดยเป็นการเจรจาแบบพบหน้าระหว่างตัวแทนระดับล่างของยูเครนและรัสเซียครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 แม้ว่าการหารือจะใช้เวลาเพียงสองชั่วโมง และไม่ได้มีความคืบหน้าเรื่องการหยุดยิง
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า จะมีการเจรจารอบที่สอง ซึ่งมอสโกจะส่งมอบ “บันทึกความเข้าใจ” ให้กับฝั่งยูเครน
ด้านทรัมป์เผยเมื่อต้นสัปดาห์ว่า รัสเซียและยูเครนจะเริ่ม “เจรจาทันที” เพื่อหาข้อยุติในการหยุดยิงและยุติสงคราม ภายหลังการพูดคุยทางโทรศัพท์นาน 2 ชั่วโมงกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีออกมากล่าวหาว่า ปูตินกำลัง “ซื้อเวลา” เพื่อยืดสงครามออกไป
นายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี สนับสนุนข้อเสนอของทรัมป์ที่ให้วาติกันเข้ามาเป็นคนกลางในการเจรจาเรื่องการหยุดยิง แต่ลาฟรอฟกล่าวว่า “มันไม่ใช่ทางเลือกที่สมจริงนัก”
ลาฟรอฟยังพูดซ้ำถึงข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานว่า เซเลนสกีไม่ใช่ผู้นำที่ชอบธรรม และเสนอให้จัดการเลือกตั้งใหม่ก่อนจะลงนามในข้อตกลงสันติภาพใด ๆ
เมื่อถูกถามว่ารัสเซียพร้อมลงนามในข้อตกลงหรือยัง ลาฟรอฟตอบว่า “ก่อนอื่นต้องมีข้อตกลงให้ได้เสียก่อน และเมื่อได้แล้ว ค่อยตัดสินใจ แต่ตามที่ประธานาธิบดีปูตินพูดไว้หลายครั้ง — เซเลนสกีไม่มีความชอบธรรม”
เขากล่าวต่อว่า หลังจากมีข้อตกลงแล้ว รัสเซียจะ “ดูว่าใครในกลุ่มผู้นำยูเครนจะมีความชอบธรรม” “ภารกิจสำคัญที่สุดตอนนี้คือ เตรียมร่างข้อตกลงสันติภาพที่เชื่อถือได้ และจะนำไปสู่สันติภาพที่มั่นคง ยั่งยืน และเป็นธรรม โดยไม่ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความมั่นคงของฝ่ายใด — ซึ่งในกรณีของเรา ก็คือรัสเซีย”
IMCT News
ขอบคุณภาพจาก PBS
ที่มา : https://www.bbc.com/news/articles/cy4eyjxz7eno