.

ทรัมป์เรียกร้องให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซา – อิสราเอลและฮามาสอาจใกล้บรรลุข้อตกลง
30-6-2025
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ ได้เรียกร้องให้เกิดความคืบหน้าในการเจรจาหยุดยิงในสงครามที่ยืดเยื้อในฉนวนกาซา โดยเรียกร้องให้มีข้อตกลงเพื่อยุติการสู้รบในความขัดแย้งที่ดำเนินมากว่า 20 เดือน ขณะที่ อิสราเอลและกลุ่มฮามาส ดูเหมือนจะเข้าใกล้ข้อตกลงมากขึ้น
เจ้าหน้าที่อิสราเอลรายหนึ่งเปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังมีการเตรียมแผนให้ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เดินทางเยือนกรุงวอชิงตันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการเจรจาอาจกำลังก้าวหน้า เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวปฏิเสธที่จะเปิดเผยวัตถุประสงค์หลักของการเยือน และกล่าวในเงื่อนไขไม่เปิดเผยชื่อ เนื่องจากแผนยังไม่เป็นทางการ
ทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ของตนเองในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ระบุว่า “ทำข้อตกลงในกาซาซะ! เอาตัวประกันกลับมาให้ได้!!!” โดยข้อความดังกล่าวแทรกอยู่ระหว่างโพสต์เกี่ยวกับการลงมติในวุฒิสภาเรื่องร่างกฎหมายลดภาษีและงบประมาณของเขา
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ยกระดับความคาดหวัง โดยระบุว่าอาจมีข้อตกลงหยุดยิงภายใน สัปดาห์หน้า ในการตอบคำถามผู้สื่อข่าว เขากล่าวว่า “เรากำลังทำงานเรื่องกาซา และพยายามหาทางออกให้ได้”
ทรัมป์ได้เรียกร้องหลายครั้งให้อิสราเอลและฮามาสยุติสงครามในฉนวนกาซา แม้ว่าจะมีการหยุดยิงนาน 8 สัปดาห์เกิดขึ้นเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปีนี้ แต่ความพยายามในการบรรลุข้อตกลงฉบับใหม่หลังจากนั้นก็ยังล้มเหลว
ขณะเดียวกัน ที่ปรึกษาคนสำคัญของเนทันยาฮู คือ รมต.กิจการยุทธศาสตร์ รอน เดอร์เมอร์ กำลังมีกำหนดเดินทางไปวอชิงตันในสัปดาห์นี้เพื่อหารือเรื่องการหยุดยิง
ทรัมป์โจมตีคดีคอร์รัปชันเนทันยาฮู – ชี้เป็น “การล่าแม่มดทางการเมือง” ข้อความเกี่ยวกับกาซาไม่ใช่เพียงโพสต์เดียวของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เกี่ยวข้องกับตะวันออกกลางในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อคืนวันเสาร์ ทรัมป์ได้ย้ำคำวิจารณ์ต่อกระบวนการพิจารณาคดีของ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ซึ่งกำลังเผชิญข้อกล่าวหาทุจริต โดยเขาเรียกคดีนี้ว่า “การล่าแม่มดทางการเมือง เหมือนกับที่ผมต้องเผชิญ”
ในโพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ทรัมป์ยังกล่าวว่า การดำเนินคดีต่อเนทันยาฮูเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา
“(เนทันยาฮู) กำลังเจรจาข้อตกลงกับฮามาสอยู่ ซึ่งรวมถึงการนำตัวประกันกลับคืนมา แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลจะต้องถูกบังคับให้นั่งอยู่ในห้องพิจารณาคดีทั้งวัน เพื่อเรื่องไร้สาระพวกนี้”
โพสต์ดังกล่าวสะท้อนความคิดเห็นที่ทรัมป์เคยแสดงไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเขาเรียกร้องให้ ยกเลิกการพิจารณาคดีของเนทันยาฮู
การแสดงความเห็นเช่นนี้จากผู้นำต่างประเทศที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิด ถือเป็น การแทรกแซงอย่างรุนแรงในกิจการภายในของรัฐอธิปไตย และแม้ว่า ทรัมป์จะยังคงได้รับความนิยมในอิสราเอล แต่คำพูดเหล่านี้ก็สร้างความไม่สบายใจให้กับหลายฝ่ายในประเทศ
กองทัพอิสราเอลออกคำสั่งอพยพรอบใหม่ในพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ ได้ออกคำสั่งอพยพประชาชนชาวปาเลสไตน์จำนวนมากจากพื้นที่กว้างใหญ่ในตอนเหนือของฉนวนกาซา ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายแรกของสงครามและได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการสู้รบหลายระลอก
พันเอก อาวิชัย อัคดราอี โฆษกกองทัพอิสราเอล โพสต์คำสั่งดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย โดยพื้นที่ที่อยู่ในคำสั่งอพยพประกอบด้วยหลายย่านใน ฝั่งตะวันออกและตอนเหนือของเมืองกาซา รวมถึง ค่ายผู้ลี้ภัยจาบาลิยา กองทัพจะขยายการโจมตีที่ทวีความรุนแรงขึ้นไปยังพื้นที่ตอนเหนือของเมือง โดยเรียกร้องให้ประชาชนย้ายไปยังพื้นที่มูวาซีทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ตามที่อาวิชัย อัคดราอี กล่าว หลังจากที่พื้นที่ตอนเหนือถูกทิ้งร้างในช่วงต้นของสงคราม ผู้คนหลายแสนคนได้กลับมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้งในช่วงการหยุดยิงเมื่อต้นปีนี้
ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลที่กำลังดำเนินอยู่ มีเป้าหมายให้ชาวปาเลสไตน์ย้ายไปทางตอนใต้ของฉนวนกาซา เพื่อให้กองกำลังสามารถปฏิบัติการได้อย่างเสรีมากขึ้นในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธ กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่าการเคลื่อนย้ายดังกล่าวเทียบเท่ากับการบังคับย้ายถิ่น
ปัญหาหลักเกี่ยวกับการยุติสงคราม
สงครามในฉนวนกาซาเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 จากการโจมตีของกลุ่มฮามาสที่ก่อให้เกิดการสังหารผู้คน 1,200 คน และจับตัวประกันประมาณ 250 คน โดยประมาณ 50 คนยังถูกควบคุมตัวอยู่ และเชื่อว่ายังมีชีวิตไม่ถึงครึ่ง การตอบโต้ของอิสราเอลได้สังหารผู้คนมากกว่า 56,000 คน ตามรายงานของหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่น ซึ่งไม่ได้แยกแยะระหว่างกลุ่มติดอาวุธและพลเรือนในจำนวนผู้เสียชีวิต แต่ระบุว่ากว่าครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงและเด็ก
สงครามครั้งนี้ก่อให้เกิดวิกฤตมนุษยธรรมครั้งใหญ่ ทำให้ประชากรส่วนใหญ่ของกาซาต้องพลัดถิ่นหลายครั้ง และทำลายภูมิทัศน์เมืองในพื้นที่ส่วนใหญ่จนเกือบหมดสิ้น การเจรจาระหว่างอิสราเอลกับฮามาสล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า เนื่องจากปัญหาหลักข้อหนึ่ง คือสงครามควรจะยุติลงเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิงหรือไม่
เจ้าหน้าที่ฮามาส มาห์มูด เมอร์ดาวี กล่าวหาว่า เนทันยาฮู กำลังชะลอความคืบหน้าในข้อตกลง โดยระบุผ่านแอป Telegram ว่าผู้นำอิสราเอลยืนยันว่าจะยอมรับเพียงข้อตกลงชั่วคราวที่ปล่อยตัวตัวประกันเพียง 10 คนเท่านั้น โฆษกของเนทันยาฮูยังไม่ได้ตอบกลับคำร้องขอแสดงความคิดเห็นในทันที
ฮามาสกล่าวว่าพร้อมจะปล่อยตัวประกันทั้งหมด แลกกับการถอนทหารอิสราเอลออกอย่างเต็มที่และยุติสงคราม ขณะที่อิสราเอลปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว โดยระบุว่าจะยินยอมยุติสงครามหากฮามาสยอมปลดอาวุธและลี้ภัยไปยังต่างประเทศ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่กลุ่มปฏิเสธ
ที่มา ซีเอ็นบีซี
----------------------------------
นักวิจัยพบว่าชาวปาเลสไตน์เกือบ 100,000 คน เสียชีวิตนับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซาเมื่อเดือนตุลาคม 2023
30-6-2025
ตัวเลขนี้ปรากฏในงานวิจัยใหม่ที่นำโดยศาสตราจารย์ ไมเคิล สปาแกต นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลอนดอน และนักรัฐศาสตร์ชาวปาเลสไตน์ คอลิล ชิกากี โดยสำรวจครัวเรือนในฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อมจำนวน 2,000 ครัวเรือน รวมประชากรเกือบ 10,000 คน นักวิจัยสรุปว่า ณ เดือนมกราคม 2025 มีผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงในกาซาประมาณ 75,200 คน ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตจากอาวุธของอิสราเอล และมีผู้เสียชีวิตจากสาเหตุไม่รุนแรง (เช่น ความอดอยากหรือขาดการรักษาพยาบาล) อีก 8,540 คน
ตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขกาซา รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมกว่า 10,000 คน ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั้งหมดเกือบแตะ 100,000 คน ตัวเลขใหม่นี้ชี้ว่า ตัวเลขที่ทางการกาซารายงานอาจต่ำกว่าความเป็นจริง โดยวิกฤตการณ์นี้เกิดจากการรุกรานของอิสราเอลที่มาพร้อมกับความอดอยาก โรคระบาด และการยิงใส่จุดแจกจ่ายอาหาร
ศาสตราจารย์ ไมเคิล สปาแกต ระบุว่าข้อมูลจากการสำรวจ “ทำให้สงครามในฉนวนกาซากลายเป็นหนึ่งในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในศตวรรษที่ 21” เขายังกล่าวด้วยว่า สัดส่วนของผู้เสียชีวิตเมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 4% พร้อมเสริมว่า “ผมไม่แน่ใจว่าจะมีกรณีใดในศตวรรษที่ 21 ที่ตัวเลขสูงขนาดนี้”
ขณะเดียวกัน นักวิจัยระบุว่า 56% ของผู้เสียชีวิตเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือผู้หญิง พวกเขาชี้ว่า สัดส่วนของเด็กและผู้หญิงที่เสียชีวิตจากการโจมตีด้วยความรุนแรงของอิสราเอลในฉนวนกาซานั้นสูงเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับความขัดแย้งอื่น ๆ เกือบทั้งหมดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
หนังสือพิมพ์ Haaretz ของอิสราเอลรายงานว่า “นั่นเป็นตัวเลขที่ผิดปกติอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับความขัดแย้งเกือบทุกกรณีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง”
อิสราเอลเปิดฉากการโจมตีอย่างโหดร้ายในฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 หลังจากกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นแนวต้านของชาวปาเลสไตน์ ดำเนินปฏิบัติการประวัติศาสตร์เพื่อตอบโต้การกดขี่และการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ยืดเยื้อโดยระบอบยึดครอง
จนถึงขณะนี้ ระบอบเทลอาวีฟยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย ที่ประกาศไว้ในการ “กำจัดฮามาส” และ “ปล่อยตัวเชลยในกาซา” ได้เลย แม้ว่าจะสังหารชาวปาเลสไตน์ไปแล้วเป็นจำนวนมหาศาล
ที่มา Press TV