“อินเดียเตรียมเพิ่มโครงการผลิตแม่เหล็กแร่หายากเป็นสามเท่า”

4-11-2025

   อินเดียมีแผนที่จะเพิ่มโครงการสนับสนุนการผลิตแร่หายากภายในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มขนาดของโครงการเกือบสามเท่าจากปัจจุบัน รายงานจาก Bloomberg ระบุโดยอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาล โครงการนี้มีกำหนดจะขยายวงเงินเป็นประมาณ 788 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากประเทศในเอเชียใต้แห่งนี้ต้องการท้าทายอำนาจผูกขาดของจีนในอุตสาหกรรมดังกล่าว

   รายงานระบุเพิ่มเติมว่า แพ็คเกจเงินสนับสนุนที่วางแผนไว้นี้— ซึ่งยังอยู่ระหว่างการอนุมัติ—ถือเป็นการเพิ่มงบประมาณครั้งใหญ่จากวงเงินเดิมที่ 290 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากได้รับการอนุมัติ โครงการนี้จะช่วยเสริมความพยายามของอินเดียในการจัดหาวัตถุดิบสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมหลัก เช่น รถยนต์ไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน และการป้องกันประเทศ

  โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดแร่หายากทั่วโลกตึงเครียด หลังจากจีนประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายากบางประเภท แร่เหล่านี้เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมด้านการป้องกันประเทศ อิเล็กทรอนิกส์ และแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า และได้กลายเป็นประเด็นสำคัญของข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และจีน

  ปักกิ่งเริ่มใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากบางชนิดที่ใช้ในทางทหารตั้งแต่เดือนเมษายน โดยให้เหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติและการปกป้องทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ ต่อมาในเดือนตุลาคม จีนได้ขยายการควบคุมดังกล่าว โดยเพิ่มข้อกำหนดด้านใบอนุญาตที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงมาตรการนอกเขตแดนที่มีผลกระทบต่อการส่งออกไปยังภาคการป้องกันประเทศและอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะ

  อย่างไรก็ตาม หลังจากการพบปะระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปักกิ่งได้ตกลงที่จะระงับการควบคุมการส่งออกแร่หายากล่าสุดเป็นระยะเวลา 1 ปี แลกกับการที่สหรัฐฯ ลดภาษีและข้อจำกัดบางประการตอบแทน

  จีนยังคงครองความเป็นผู้นำในตลาดแร่หายากโลก โดยมีสัดส่วนกว่า 90% ของการกลั่นและ 98% ของการผลิตแม่เหล็ก ตามรายงานของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) และนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรม

  ขณะเดียวกัน สื่ออินเดียรายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีอย่างน้อยสามบริษัทในอินเดีย ได้แก่ Continental India, Hitachi และ Jay Ushin ได้รับใบอนุญาตให้นำเข้าแม่เหล็กแร่หายากจากจีน ซึ่งเป็นสัญญาณของความสัมพันธ์ที่เริ่มผ่อนคลายระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียใต้

  อย่างไรก็ตาม ใบอนุญาตดังกล่าวมีเงื่อนไขที่ห้ามการส่งออกวัสดุเหล่านี้ไปยังสหรัฐฯ และห้ามนำไปใช้ในทางการทหาร

IMCT News