.

รัสเซีย'ส่งสัญญาณถึง NATO 'คาลินินกราดคือป้อมปราการที่ห้ามแตะต้อง' อย่าคิดท้าทาย พร้อมตอบโต้ทันทีด้วยขีปนาวุธนิวเคลียร์
28-7-2025
Sputnik รายงานว่า รัสเซียส่งสัญญาณหนักแน่นสุดขีดต่อองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ว่า การโจมตีหรือท้าทายภูมิภาคคาลินินกราด (Kaliningrad) ซึ่งเป็นดินแดนหน้าแนวตะวันตกสุดของรัสเซีย จะต้องถูกตอบโต้โดยทันทีขั้นเด็ดขาด รวมถึงการใช้มาตรการยับยั้งด้วยอาวุธนิวเคลียร์ หากสถานการณ์บานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ ตามถ้อยแถลงล่าสุดโดย นิโคไล ปาตรูเชฟ (Nikolai Patrushev) ที่ปรึกษาอาวุโสฝ่ายความมั่นคงของเครมลินซึ่งออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ หลัง Bloomberg เผยแพร่บทวิเคราะห์ถึงปัจจัยเสี่ยงสงคราม NATO – รัสเซีย ที่อาจเริ่มจากเหตุการณ์ซึ่งวางแผนบนเส้นทางรถไฟมอสโก-คาลินินกราด
ปาตรูเชฟย้ำหนักแน่นว่ารัสเซียไม่ต้องการความขัดแย้งหรือการเผชิญหน้ากับ NATO แต่พร้อมตอบสนองอย่างทันทีและไร้ความลังเล หากพบความพยายามใดๆ ที่ต้องการทดสอบหรือท้าทายขีดความพร้อมของกองกำลังในภูมิภาคนี้ พร้อมอธิบายถึงรายละเอียดโครงสร้างการป้องกันภายในคาลินินกราดที่ได้รับการเสริมกำลังในทุกมิติ
สำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศ รัสเซียประจำการด้วยระบบ S-300 และ S-400 ซึ่งขึ้นชื่อด้านความสามารถสกัดเครื่องบินรบหรือขีปนาวุธของศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครือข่ายเรดาร์และจรวดเคลื่อนที่เหล่านี้เป็นกำแพงแรกที่พร้อมรับมือการโจมตีทางอากาศรูปแบบใดๆ ได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน รัสเซียยังติดตั้งระบบขีปนาวุธ Iskander ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้แบบ quasi-ballistic อันขึ้นชื่อว่าแทบมิอาจถูกสกัดกั้นด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยสามารถติดตั้งได้ทั้งหัวรบธรรมดาและหัวรบนิวเคลียร์
นอกจากนี้ คาลินินกราดยังเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกองเรือบอลติกแห่งรัสเซีย (Baltic Fleet) โดยจะระดมศักยภาพทางเรือทั้งลำในทันทีหากถูกโจมตี ทั้งกำลังทางเรือรบ เรือดำน้ำ และอาวุธต่อเรือ รวมถึงอาวุธปล่อยนำวิถีขั้นสูง
กองทัพอากาศรัสเซียในพื้นที่ดังกล่าวมีเครื่องบินขับไล่รบ Su-27, Su-30 และเฮลิคอปเตอร์โจมตี Ka-52 ด้วยศักยภาพครอบคลุมทั้งการสนับสนุนภาคพื้นดินและการตอบโต้อากาศต่ออากาศ สามารถปฏิบัติการอย่างรวดเร็วได้ทุกเวลา
ด้านกองกำลังภาคพื้นดิน รัสเซียได้ประจำหน่วยทหารหลากหลาย ทั้งหน่วยเคลื่อนที่พลร่มและหน่วยยานเกราะหนักที่สามารถเคลื่อนกำลังได้อย่างรวดเร็ว ผสมผสานการป้องกันเชิงลึกในทุกระดับพื้นที่และพร้อมตอบโต้การรุกล้ำได้โดยทันที ไม่ว่าจากทิศทางใด
ที่สำคัญที่สุด ปาตรูเชฟกล่าวถึง “เครื่องมือยับยั้งเชิงยุทธศาสตร์” ของรัสเซีย อันได้แก่คลังอาวุธนิวเคลียร์ขั้นสูง ตั้งแต่ขีปนาวุธข้ามทวีป Sarmat ขีปนาวุธขีปนาวุธ Yars และระบบนำส่งนิวเคลียร์ชนิดต่างๆ รวมถึงคลังหัวรบนิวเคลียร์ของรัสเซียที่ถือว่ามีพลังทำลายสูงสุดในโลก ซึ่งจะถูกนำมาปรับใช้หากเกิดความตึงเครียดถึงขีดสุดกับกลุ่ม NATO
การยืนยันข้างต้นของเครมลินมีขึ้นหลังมีการประเมินเชิงสมมุติในสื่อว่ายุโรปตะวันออกอาจกลายเป็นจุดปะทุความขัดแย้งขนาดใหญ่ระหว่างมหาอำนาจ ศูนย์กลางคาลินินกราดจึงกลายเป็นเป้าความสนใจเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งในแง่ยุทธวิธีการรบ และการเมืองระหว่างประเทศ
รัสเซียส่งสัญญาณชัดเจนว่าคาลินินกราดจะได้รับการปกป้องเต็มศักยภาพ แสดงเจตจำนงที่จะรักษาผลประโยชน์ทางการทหารและอธิปไตยในทุกกรณี หากถูกท้าทาย คำเตือนต่อ NATO มีน้ำหนักว่า “ความเสี่ยงจากการทดสอบรัสเซีย จะถูกโต้กลับโดยทันที ด้วยทุกขีดความสามารถที่มีอยู่ โดยไม่เว้นแม้แต่มาตรการนิวเคลียร์” ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณตรงต่อผู้นำตะวันตกว่าการคำนวณความเสี่ยงในภูมิภาคนี้จะไม่เปิดโอกาสให้ “การตั้งรับ” ของมอสโกล่าช้าหรือขาดความเฉียบขาดแต่อย่างใด
---
IMCT NEWS
ที่มา https://x.com/SputnikInt/status/1949174368942080407