.

จีนดันแผน “ศูนย์กลางเก็บทองคำโลก” หวังเพิ่มอิทธิพลการเงินสากล-ลดบทบาทดอลลาร์
24-9-2025
Bloomberg รายงานจากแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ว่า จีน (China) ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้รับฝากทุนสำรองทองคำของรัฐบาลต่างชาติ เพื่อเสริมสร้างบทบาทและอิทธิพลในตลาดทองคำโลก .
ธนาคารประชาชนจีน (People's Bank of China) กำลังใช้ตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Gold Exchange) เป็นช่องทางในการเชิญชวนธนาคารกลางของประเทศที่เป็นมิตรให้ซื้อทองคำแท่งและนำมาจัดเก็บไว้ภายในประเทศ การเคลื่อนไหวนี้จะช่วยยกระดับบทบาทของปักกิ่ง (Beijing) ในระบบการเงินโลก และสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวในการสร้างระเบียบโลกที่พึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์และศูนย์กลางการเงินตะวันตก เช่น สหรัฐฯ (US), สหราชอาณาจักร (UK) และสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) น้อยลง
ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ ได้เพิ่มการซื้อทองคำเพื่อใช้เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) มองเห็นโอกาสในการเสนอตัวเป็นแหล่งพักพิงสำหรับสินทรัพย์ที่ถูกมองว่าเป็นเกราะป้องกันความผันผวนทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
ทั้งธนาคารประชาชนจีน (PBOC) และตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (SGE) ไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ ต่อเรื่องนี้
แรงขับเคลื่อนจากธนาคารกลาง
อุปสงค์จากธนาคารกลางถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนราคาทองคำให้พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเฉพาะธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ที่มีสถิติการซื้อทองคำเข้าคลังอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 10 เดือนติดต่อกัน
หลังจากมีข่าวนี้เผยแพร่ออกมา ราคาทองคำในตลาดสปอตได้พุ่งขึ้นอีก 1.2% สู่สถิติใหม่ ก่อนจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ $3,784.74 ต่อออนซ์ ตามเวลาในนิวยอร์ก (New York)
นาย วาเอล มาคาเร็ม (Wael Makarem) หัวหน้านักยุทธศาสตร์ตลาดการเงินจาก Exness ให้ความเห็นว่า “ตลาดอาจกำลังคาดการณ์ว่าความพยายามของจีนในการเป็นผู้ดูแลทุนสำรองทองคำต่างชาติ เป็นสัญญาณของการผลักดันระยะยาวเพื่อยกระดับบทบาทในระบบการเงินโลก ซึ่งนักลงทุนอาจตีความว่านี่คือกระแสการลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์ (de-dollarization) ที่กำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนราคาทองคำในระยะยาว”
ทางเลือกใหม่สำหรับพันธมิตรของจีน
ทุนสำรองทองคำดังกล่าวจะถูกจัดเก็บในคลังสินค้าที่เชื่อมโยงกับ International Board ของตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (SGE) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารประชาชนจีน (PBOC) คลังนี้ถูกตั้งขึ้นในปี 2014 เพื่อเป็นศูนย์กลางหลักสำหรับการซื้อขายทองคำระหว่างนักลงทุนต่างชาติกับคู่ค้าชาวจีน
แหล่งข่าวกล่าวว่า ทองคำที่จะถูกนำมาเก็บจะเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อใหม่เพื่อเพิ่มในทุนสำรองของประเทศนั้นๆ ไม่ใช่การย้ายทองคำจากคลังเดิมที่มีอยู่
แม้การเคลื่อนไหวของจีน (China) จะถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างบทบาทในตลาดทองคำโลก แต่ก็ยังคงห่างไกลจากการท้าทายศูนย์กลางที่มั่นคงอย่างสหราชอาณาจักร (UK) โดยคลังของธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) มีการจัดเก็บทุนสำรองทองคำของโลกมากกว่า 5,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าเกือบ $600,000 ล้าน ซึ่งทำให้กรุงลอนดอน (London) ยังคงเป็นตลาดชั้นนำสำหรับโลหะมีค่านี้
รายงานของสภาทองคำโลก (World Gold Council) ระบุว่าปริมาณทุนสำรองของธนาคารประชาชนจีน (PBOC) มีไม่ถึงครึ่งหนึ่งของอังกฤษ (UK) และอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำภายในประเทศของจีน (China) ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบเครื่องประดับ หรือทองคำแท่งและเหรียญเพื่อการลงทุน
แรงจูงใจเบื้องหลังการเคลื่อนไหว
การกระตุ้นการซื้อขายภายในประเทศให้คึกคักยิ่งขึ้น จะช่วยให้ปักกิ่ง (Beijing) เร่งเดินหน้าแผนการลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์ (US Dollar) และส่งเสริมเงินหยวน (Yuan) ให้เป็นสากลมากขึ้น โดยราคาทองคำเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วงสองปีที่ผ่านมา สู่ระดับกว่า $3,700 ต่อออนซ์ และล่าสุดทำลายสถิติที่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อจากปี 1980 การพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงนี้อาจยังมีโอกาสไปต่อได้อีก โดย Goldman Sachs Group Inc. คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจพุ่งแตะ $5,000 หากมีการย้ายการลงทุนจากพันธบัตรสหรัฐฯ (Treasury) เพียงแค่ 1% ไปสู่ทองคำ
ที่ผ่านมา จีน (China) ได้ดำเนินมาตรการหลายอย่างเพื่อเปิดตลาดทองคำของตนแล้ว โดยตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (SGE) ได้เปิดคลังเก็บทองคำในต่างประเทศและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในฮ่องกง (Hong Kong) เพื่อเพิ่มปริมาณการทำธุรกรรมในสกุลเงินหยวน นอกจากนี้ ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ยังได้ผ่อนปรนข้อจำกัดในการนำเข้าทองคำอีกด้วย
สำหรับลูกค้าที่สนใจ คลังเก็บทองคำของจีน (China) อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการสร้างทุนสำรองและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะถูกตัดขาดจากตลาดการเงินโลก การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่สหรัฐฯ (US) และพันธมิตรได้อายัดทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัสเซีย (Russia) ในปี 2022 ภายหลังการรุกรานยูเครน (Ukraine)
อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อเสียที่ต้องพิจารณาเช่นกัน นาย นิโคลัส ฟราปเปลล์ (Nicholas Frappell) หัวหน้าฝ่ายตลาดสถาบันจาก ABC Refinery กล่าวว่า “หากประเทศต่างๆ เลือกที่จะเก็บทองคำไว้ในจีน พวกเขาจะต้องแลกกับการสูญเสียความสะดวกและสภาพคล่องที่มีอยู่ในลอนดอน (London)”
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-09-23/china-courts-foreign-gold-reserves-in-bid-to-boost-global-clout
--------------------------
คำถามชี้ชะตาอนาคตของอเมริกา:สหรัฐฯ จะสามารถนิ่งเฉยต่อกระแสการเร่งสะสมทองคำของโลกได้นานแค่ไหน?
24-9-2025
ขณะที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังเร่งเพิ่มปริมาณทองคำสำรองของตน จนแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 50 ปี ทองคำสำรองของสหรัฐฯ กลับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 90 ปี
ย้อนกลับไปในอดีต สหรัฐเคยถือครองทองคำมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณทองคำสำรองทั่วโลก
แต่วันนี้? เหลือเพียง 20% เท่านั้น
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง ความเปราะบางเชิงยุทธศาสตร์ ในช่วงเวลาที่โลกเผชิญความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ความพยายามลดบทบาทของเงินดอลลาร์ (de-dollarization) และความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่กำลังเพิ่มขึ้น
ความเห็นของผม: มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น ก่อนที่ผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯ จะ จำเป็นต้องทบทวนจุดยืนเรื่องทองคำอย่างจริงจัง โลกกำลังก้าวไปข้างหน้า — และสหรัฐฯ ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองตกขบวน
ที่มา https://x.com/TaviCosta/status/1970432862139883584