.

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แสดงการสนับสนุนจีน และส่งสารถึงสหรัฐฯ อย่างไร?
20-9-2025
SCMP รายงานว่า การปรากฏตัวของผู้นำระดับสูงจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในพิธีสวนสนามของจีนเมื่อเร็วๆ นี้ ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการสนับสนุนปักกิ่ง และเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังวอชิงตันว่าภูมิภาคนี้มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการพึ่งพาสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากมาตรการกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump)
ในบรรดาผู้นำเหล่านั้น รวมถึง ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต (Prabowo Subianto) ของอินโดนีเซีย ที่เปลี่ยนแผนในนาทีสุดท้ายเพื่อเดินทางมายังกรุงปักกิ่ง (Beijing) เพื่อเข้าร่วมพิธีสวนสนามทางทหารที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2
แม้จะเผชิญการประท้วงอย่างกว้างขวางในประเทศ แต่แหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีปราโบโว (Prabowo) ตัดสินใจเดินทางมาตาม “คำขอเร่งด่วน” จากทางการจีนเพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลปักกิ่ง (Beijing) โดยเขาได้เข้าร่วมพิธีสวนสนามและนั่งบนแท่นปราศรัยเคียงข้างผู้นำโลกอย่าง ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ของรัสเซีย และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jinping) ของจีน
การเข้าร่วมงานครั้งนี้ของเหล่าผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม (Anwar Ibrahim) จากมาเลเซีย, ประธานาธิบดีเลือง เกื่อง (Luong Cuong) จากเวียดนาม, ประธานาธิบดีทองลุน สีสุลิด (Thongloun Sisoulith) จากลาว และสมเด็จพระนโรดม สีหมุนี (Norodom Sihamoni) จากกัมพูชา แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนจีนในฐานะ “ทางเลือก” และเป็นการสะท้อนถึงท่าทีที่เบี่ยงออกจากวอชิงตัน (Washington) อย่างชัดเจน
ศาสตราจารย์เบนจามิน โฮ (Benjamin Ho) ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากวิทยาลัยนานาชาติศึกษา เอส. ราชารัตนัม (S. Rajaratnam School of International Studies) ในสิงคโปร์ (Singapore) กล่าวว่า การเข้าร่วมของผู้นำในภูมิภาคนี้ เป็นการส่งสัญญาณเตือนให้สหรัฐฯ รับรู้ว่า “พวกเรามีทางเลือกที่เป็นจีน” ในช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีทรัมป์ (Trump) กำลังทำสงครามการค้า โดยมีมาตรการกำแพงภาษีเป็นเครื่องมือ
นโยบาย "America first" ของทรัมป์ (Trump) ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในทางกลับกัน ปักกิ่ง (Beijing) ได้ใช้โอกาสนี้รวบรวมประเทศต่างๆ ให้ยืนหยัดต่อต้านมาตรการกีดกันทางการค้า และสร้างภาพลักษณ์ว่าตนเองเป็นหุ้นส่วนที่เชื่อถือได้ พร้อมที่จะปกป้องระเบียบโลก
ในการประชุมสุดยอดขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organisation - SCO) ที่เมืองเทียนจิน (Tianjin) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jinping) ย้ำจุดยืนของจีน (China) อย่างชัดเจน โดยกล่าวว่า “เราควรจะรื้อกำแพงไม่ใช่สร้างกำแพง” และ “เราควรจะแสวงหาการบูรณาการไม่ใช่การตัดขาด”
ศาสตราจารย์โฮ (Ho) เชื่อว่าคำพูดของผู้นำจีนได้สะท้อนความรู้สึกของชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ต้องเผชิญกับภาษีมหาศาลจากสหรัฐฯ และยังเสริมว่าการเข้าร่วมพิธีสวนสนามของผู้นำในภูมิภาคนี้เป็นการแสดง “การสนับสนุนเชิงสัญลักษณ์” เพื่อ “ให้จีนรู้ว่าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยินดีที่จะให้การสนับสนุนตราบใดที่นโยบายของจีนไม่ขัดแย้งกับเรา”
ด้านศาสตราจารย์หวัง ยี่เหวย (Wang Yiwei) ผู้อำนวยการสถาบันกิจการระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเหรินหมิน (Renmin University) ในปักกิ่ง (Beijing) ให้ความเห็นว่า “สำหรับหลายประเทศ การเข้าร่วมพิธีสวนสนามไม่ได้เป็นเพียงการรำลึกถึงสงครามโลกครั้งที่สองเท่านั้น แต่ยังเป็นการยอมรับว่าจีน (China) อาจเป็นตัวแทนของอนาคตความเป็นผู้นำระดับโลก ไม่ใช่สหรัฐฯ (US)” นอกจากนี้ เขายังชี้ให้เห็นว่า จีน (China) เป็น “เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ” ของภูมิภาคนี้
แม้จะมีการแสดงท่าทีสนับสนุนทางการทูตอย่างแข็งขัน แต่บรรดานักวิเคราะห์ก็ชี้ให้เห็นถึงประเด็นปัญหาที่ยังคงเป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์ของภูมิภาคนี้กับจีน (China) โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งด้านอาณาเขตในทะเลจีนใต้ ที่จีนอ้างสิทธิ์เกือบทั้งหมด ซึ่งทำให้เกิดความตึงเครียดกับหลายประเทศในภูมิภาค รวมถึงเวียดนามและฟิลิปปินส์
“มันไม่ใช่แค่เรื่องงานเลี้ยงและพิธีการที่หรูหราเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับว่าจีนจะนำแนวทางการทูตของพวกเขาไปปฏิบัติจริงกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างไร” ศาสตราจารย์โฮ (Ho) กล่าว พร้อมเสริมว่า “ภูมิภาคนี้มีความเป็นจริงมากพอที่จะรู้ว่าเราไม่ต้องการถูกกีดกันจากจีน (China) แต่เราก็จะต้องรอดูว่าจีนจะทำอย่างไรหลังจากพิธีสวนสนามจบลง”
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3325969/how-southeast-asia-showed-its-support-china-and-sent-message-us?module=spotlight&pgtype=homepage
Illustration: Lau Ka-kuen