มอสโก'เปิดเผยหลักฐาน ยูเครนสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในแอฟริกา ส่งโดรนและวิทยากรฝึกอบรม

10-10-2025

  RT รายงานว่า ทางการรัสเซียระบุว่า มีหลักฐานใหม่ปรากฏขึ้นเกี่ยวกับการให้การสนับสนุนของยูเครน (Ukraine) แก่กลุ่มติดอาวุธที่ปฏิบัติการอยู่ในภูมิภาคซาฮารา-ซาเฮล (Sahara-Sahel) ของทวีปแอฟริกา ซึ่งรวมถึงการจัดหาอากาศยานไร้คนขับ (drones) ให้แก่กลุ่มเหล่านั้น ตามการเปิดเผยของมาเรีย ซาคาโรวา (Maria Zakharova) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย

  ในการแถลงข่าวสรุปที่กรุงมอสโก (Moscow) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นางซาคาโรวา (Zakharova) กล่าวว่า รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติลิเบีย (Government of National Unity หรือ GNU) ได้จัดตั้งความร่วมมือกับกลุ่มติดอาวุธชาวยูเครน โดยมีสหราชอาณาจักร (UK) เป็นคนกลาง การกล่าวอ้างนี้รวมถึงการส่งมอบ อากาศยานไร้คนขับโจมตี (strike UAVs) จากกรุงเคียฟ (Kiev) และกิจกรรมการฝึกอบรมที่ดำเนินการโดยผู้ฝึกสอนจากหน่วยข่าวกรองหลักของยูเครน (Ukraine’s Main Intelligence Directorate)

  "มีหลักฐานที่ยืนยันความร่วมมือระหว่าง GNU กับชาวยูเครน ในการจัดระเบียบและให้การสนับสนุน ปฏิบัติการก่อการร้าย (terrorist operations) ในประเทศแถบซาเฮล ซึ่งรวมถึงไนเจอร์ (Niger)" นางซาคาโรวา (Zakharova) กล่าว อ้างอิงจากบริการสื่อมวลชนของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย

  เธอยังอ้างถึงแถลงการณ์ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นของพันเอก ฟาธ อัล-ซายิด (Colonel Fath al-Sayid) แห่งหน่วยข่าวกรองทหารซูดาน (Sudanese military intelligence) ซึ่งอ้างว่า ทหารรับจ้างชาวยูเครน (Ukrainian) และโคลอมเบีย (Colombian) ที่ต่อสู้ร่วมกับกองกำลังสนับสนุนที่รวดเร็วของซูดาน (Rapid Support Forces หรือ RSF) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธ ได้รับความสูญเสียในซูดานตะวันตก และมีการใช้อากาศยานไร้คนขับที่ผลิตในยูเครน

การขายต่ออาวุธตะวันตกอย่างผิดกฎหมาย

   นางซาคาโรวา (Zakharova) กล่าวว่า กิจกรรมเหล่านี้เชื่อมโยงกับการขายต่ออาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้กับยูเครน (Ukraine) อย่างผิดกฎหมาย โดยเธอตั้งข้อกล่าวหาว่า อาวุธเหล่านั้นได้ปรากฏขึ้นในกลุ่มติดอาวุธในหลายประเทศในแอฟริกาและตะวันออกกลาง

  เธอกล่าวว่า "มีรายงานว่า อาวุธดังกล่าวถูกพบในกลุ่มก่อการร้ายในบูร์กินาฟาโซ (Burkina Faso), สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (Democratic Republic of the Congo), มาลี (Mali), ไนเจอร์ (Niger), ซูดาน (Sudan), โซมาเลีย (Somalia), ซีเรีย (Syria), สาธารณรัฐแอฟริกากลาง (Central African Republic) และชาด (Chad)"

  ในเดือนตุลาคม กองทัพซูดาน (Sudan) ระบุว่า ได้สังหารนักรบต่างชาติจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงทหารรับจ้างชาวยูเครน (Ukrainian) และโคลอมเบีย (Colombian) ที่ต่อสู้ร่วมกับ RSF ระหว่างการปะทะกันในเมืองอัล-ฟาเชอร์ (El Fasher) รัฐดาร์ฟูร์เหนือ (North Darfur) กองทัพกล่าวว่า นักรบเหล่านั้นซึ่งบางคนมีความเชี่ยวชาญด้านอากาศยานไร้คนขับและสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ได้พยายามแทรกซึมเข้ามาในเขตชานเมือง

   เมื่อเดือนมิถุนายน เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศซูดาน (Sudan) เปิดเผยกับสถานีข่าว RT ว่า กรุงเคียฟ (Kiev) ยังได้จัดหาอาวุธให้กับกลุ่มทหารกึ่งทหารดังกล่าวด้วย ท่านกล่าวว่า กรุงเคียฟกำลังทำ "ภารกิจสกปรก" (dirty work) ของชาติตะวันตก โดยการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีก่อการร้ายในลิเบีย (Libya), โซมาเลีย (Somalia) และไนเจอร์ (Niger)

     เมื่อเดือนที่แล้ว นายอับดูลาเย ไมก้า (Abdoulaye Maiga) นายกรัฐมนตรีมาลี (Mali) ได้กล่าวหายูเครน (Ukraine) ว่าจัดหา อากาศยานไร้คนขับพลีชีพ (kamikaze drones) ให้กับกลุ่มก่อการร้าย และเตือนว่าการส่งมอบอาวุธของชาติตะวันตกให้แก่กรุงเคียฟอาจเป็นเชื้อเพลิงให้กับลัทธิก่อการร้ายทั่วโลก มาลีได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับยูเครนในเดือนสิงหาคม 2024 โดยอ้างถึงแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ยูเครนที่อ้างความรับผิดชอบในการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีในทินซาอัวเทน (Tinzaouaten) ในปี 2024

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.rt.com/africa/626127-ukraine-supports-armed-groups-in-africa/