ขอบคุณภาพจาก thesun.my

22/10/2024

นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซีย กล่าวหลังนายพลปราโบโว ซูเบียนโต สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนล่าสุดของอินโดนีเซียว่า มาเลเซียจะยังคงเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของอินโดนีเซีย และจะเสริมสร้างสายสัมพันธ์มิตรภาพกับอินโดนีเซียต่อไป

ขณะเดียวกัน จากโพสต์บน Facebook อันวาร์ยังได้แสดงความเชื่อมั่นว่าการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซียของปราโบโวจะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือกับมาเลเซีย และยกระดับภูมิภาคนี้บนเวทีโลก หลังเป็นหนึ่งในผู้นำโลกหลายคนที่เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซียคนที่ 8 ของปราโบโวที่กรุงจาการ์ตา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ต.ค.) ซึ่ง “นับเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของอินโดนีเซียและการพัฒนาทางการเมืองในภูมิภาค”

“ด้วยการเดินทางทางการเมืองที่ยาวนานของปราโบโว ซูเบียนโต ที่เผชิญกับความท้าทายและการทดสอบมากมาย ผมมั่นใจว่าเขาจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และร่วมกับมาเลเซียในการส่งเสริมความสามัคคี รวมถึงยกระดับสถานะของภูมิภาคนี้ให้สูงขึ้น” อันวาร์กล่าว

นายพลปราโบโว ซูเบียนโต วัย 73 ปี และกิบราน รากาบูมิง รากา รองประธานาธิบดีวัย 37 ปี บุตรชายของโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียคนก่อนหน้า จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีอินโดนีเซียในวาระปี 2024–2029 หลังได้รับการรับรองจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งประชาชนอินโดนีเซีย

ขณะเดียวกัน อันวาร์เป็นหนึ่งในผู้นำและหัวหน้ารัฐต่างประเทศ 19 คนที่ได้รับเชิญเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง รวมถึงสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์แห่งบรูไนดารุสซาลาม ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์แห่งฟิลิปปินส์ นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่องแห่งสิงคโปร์ นายกรัฐมนตรีมิลอส วูเชวิชแห่งเซอร์เบีย และนายกรัฐมนตรีซานานา กุสเมาแห่งติมอร์-เลสเต ตามรายงานของ Bernama

พร้อมกันนี้ อันวาร์ยังแสดงความขอบคุณต่อโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียคนที่ 7 สำหรับการสนับสนุนและความร่วมมือกับมาเลเซียในช่วงดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2014

ขณะที่สุนทรพจน์ที่ครอบคลุมหลากหลายหลังพิธีสาบานตน ปราโบโวย้ำว่า เขาและรองประธานาธิบดีจะรับใช้ชาวอินโดนีเซียทุกคน

สำหรับนายพลปราโบโว ซูเบียนโต ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกตามจำนวนประชากร หลังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (2024) โดยได้รับคะแนนเสียง 59% ซึ่งนอกจากกิบรานแล้ว ปราโบโวยังเอาชนะผู้ท้าชิงอย่างอานีส บาสเวดาน และกันจาร์ ปราโนโว ซึ่งได้รับคะแนนเสียงประมาณ 25% และ 16% ตามลำดับ

IMCT News

ที่มา https://asianews.network/malaysian-pm-anwar-looks-forward-to-strengthening-ties-with-indonesia/