รัฐสภาฝรั่งเศสลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี

ขอบคุณภาพจาก RT

5-12-2024

มิเชล บาร์นิเยร์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส แพ้การลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภา เนื่องจากสมาชิกรัฐสภาทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาต่างเห็นพ้องต้องกันที่จะขับเขาออก โดยการลงมติไม่ไว้วางใจต้องได้รับคะแนนเสียง 288 เสียงในรัฐสภา ซึ่งมติเมื่อเย็นวานนี้ (4 ธ.ค.) ได้รับคะแนนเสียง 331 เสียง โดยฝ่ายซ้ายจัด New Popular Front (NPF) และฝ่ายขวาจัด National Rally (RN) ร่วมมือกันต่อต้านคณะรัฐมนตรีเสียงข้างน้อยที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแต่งตั้ง

“ฉันไม่ถือว่าเป็นชัยชนะ” มารีน เลอเปน จากพรรค RN กล่าวกับ TF1 หลังจากการลงมติ เพราะ “เราเลือกที่จะปกป้องประชาชนชาวฝรั่งเศส”

ด้านฌอง-ลุค เมล็องชง หัวหน้าพรรค NPF ซึ่งเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุด กล่าวว่าผลลัพธ์นั้น “หลีกเลี่ยงไม่ได้” และเรียกร้องให้มาครงลาออก

“แม้จะมีบาร์นิเยร์ทุกสามเดือน มาครงก็อยู่ได้ไม่ถึงสามปี” เขากล่าวผ่าน X แต่อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีฝรั่งเศสก็ตัดสินใจไม่ลาออก

มาครงแต่งตั้งบาร์นิเยร์ในเดือนกันยายน ซึ่งทำให้ NPF ไม่พอใจอย่างยิ่ง ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายซ้ายชนะที่นั่งในรัฐสภามากที่สุดในการเลือกตั้งกะทันหันเมื่อฤดูร้อนนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงกับประธานาธิบดีที่จะกีดกัน RN แต่หลังจากนั้น มาครงก็เปลี่ยนใจและปฏิเสธ NPF และเลือกใช้คณะรัฐมนตรีเสียงข้างน้อยที่พึ่งพาการสนับสนุนโดยปริยายของ RN

สถานการณ์มาถึงจุดแตกหักจากข้อเสนอเกี่ยวกับงบประมาณประกันสังคม ซึ่งบาร์นิเยร์พยายามลดรายจ่าย 40,000 ล้านยูโร (41,870 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และจัดเก็บภาษี 20,000 ล้านยูโรเพื่อจัดการกับการขาดดุลจำนวนมหาศาล ทำให้พรรครีพับลิกันขู่ว่าจะลงมติไม่ไว้วางใจ เว้นแต่คณะรัฐมนตรีจะยอมผ่อนปรนเงื่อนไขบางอย่าง

เลอเปนกล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีมี "ความคิดคับแคบและแบ่งแยก" ในการเจรจางบประมาณ และให้กำหนดเส้นตายแก่บาร์นิเยร์ในการตอบสนองความต้องการของพรรครีพับลิกัน หลังโลรองต์ แซ็งต์-มาร์ติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงงบประมาณปฏิเสธ

สำหรับฝรั่งเศส มีการลงมติไม่ไว้วางใจเกือบ 150 ฉบับนับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐที่ 5 ในปี 2501 โดยก่อนวันพุธที่ผ่านมา มีเพียงรัฐบาลเดียวเท่านั้นที่ถูกโค่นอำนาจ นั่นคือ รัฐบาลของจอร์จ ปงปิดู ในเดือนตุลาคมปี 2505

มีแนวโน้มว่า บาร์นิเยร์น่าจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการต่อไปจนกว่ามาครงจะแต่งตั้งผู้มาแทนที่ได้ ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสต้องใช้เวลาเกือบสองเดือนจึงจะทำเช่นนั้นได้ หลังจากการเลือกตั้งรัฐสภาในเดือนกรกฎาคม แต่การลงมติอีกครั้งไม่ใช่ทางเลือก เนื่องจากรัฐธรรมนูญของฝรั่งเศสห้ามไว้จนกว่าจะผ่านไปอย่างน้อยหนึ่งปี

IMCT News

ที่มา https://www.rt.com/news/608739-france-confidence-vote-barnier/