.

วิกฤตนิวเคลียร์อิหร่านบานปลาย ทรัมป์สิ้นหวังบรรลุข้อตกลง เตหะรานเตรียมพร้อมโจมตีฐานทัพสหรัฐ
12-6-2025
SCMP-อิหร่านออกมาขู่เมื่อวันพุธว่าพร้อมโจมตีฐานทัพทหารสหรัฐในภูมิภาคหากเกิดความขัดแย้งขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าเขา "มั่นใจน้อยลง" ที่จะบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ เตหะรานและวอชิงตันได้เจรจากันไปแล้ว 5 รอบตั้งแต่เดือนเมษายน เพื่อหารือข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ทดแทนข้อตกลงปี 2015 ที่ทรัมป์ถอนตัวออกในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรกเมื่อปี 2018
ตั้งแต่กลับเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ทรัมป์ได้ฟื้นคืนนโยบาย "กดดันสูงสุด" ต่อเตหะราน โดยสนับสนุนการทูตเพื่อแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ แต่ขณะเดียวกันก็เตือนว่าอาจใช้มาตรการทางทหารหากการเจรจาล้มเหลว
"ฐานทัพทั้งหมดของสหรัฐอยู่ในรัศมีการโจมตีของเรา เราเข้าถึงได้ และเราจะโจมตีฐานทัพทั้งหมดในประเทศเจ้าภาพโดยไม่ลังเล" อาซิส นาซีร์ซาเดห์ รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าน กล่าวตอบโต้คำขู่ของสหรัฐฯ ว่าจะใช้กำลังทหารหากการเจรจาล้มเหลว
"หากพระเจ้าประสงค์ สถานการณ์จะไม่ลุกลามถึงขั้นนั้น และการเจรจาจะประสบความสำเร็จ" รัฐมนตรีกล่าวเสริม พร้อมย้ำว่าฝ่ายสหรัฐฯ "จะได้รับความเสียหายมากกว่า" หากเกิดความขัดแย้ง
สหรัฐฯ มีฐานทัพหลายแห่งในตะวันออกกลาง โดยฐานทัพที่ใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ในกาตาร์
ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ ปะทุขึ้นจากความขัดแย้งทางการทูตเกี่ยวกับการเพิ่มความเข้มข้นยูเรเนียมของอิหร่าน ซึ่งเตหะรานยืนยันว่าเป็นสิทธิที่ "ไม่สามารถต่อรองได้" ขณะที่วอชิงตันประกาศเป็น "เส้นแดง" ที่ไม่อาจยอมรับได้
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์แสดงความหวังต่อการเจรจา โดยกล่าวระหว่างการเยือนภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียเมื่อเดือนที่แล้วว่า วอชิงตัน "ใกล้" จะบรรลุข้อตกลงแล้ว อย่างไรก็ตาม ในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ ทรัมป์กลับกล่าวว่าเขา "มั่นใจน้อยลง" ว่าสหรัฐฯ และอิหร่านจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้
ปัจจุบันอิหร่านเพิ่มความเข้มข้นยูเรเนียมถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าขีดจำกัด 3.67 เปอร์เซ็นต์ที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปี 2015 และใกล้ถึงระดับ 90 เปอร์เซ็นต์ที่จำเป็นสำหรับการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แม้จะยังไม่ถึงระดับดังกล่าวก็ตาม ประเทศตะวันตก รวมถึงสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรอย่างอิสราเอล กล่าวหาอิหร่านมาอย่างยาวนานว่าพยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่เตหะรานยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนมีวัตถุประสงค์เพื่อสันติเท่านั้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านประกาศว่าการเพิ่มความเข้มข้นยูเรเนียมเป็น "กุญแจสำคัญ" ของโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน และวอชิงตัน "ไม่มีสิทธิ์ออกความเห็น" ในประเด็นนี้
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับพอดแคสต์ "Pod Force One" ของนิวยอร์กโพสต์ ซึ่งบันทึกไว้เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์แสดงความไม่มั่นใจว่าจะบรรลุข้อตกลงได้ โดยกล่าวว่า "ผมไม่รู้ ผมเคยคิดว่าเป็นไปได้ แต่ตอนนี้ผมเริ่มมั่นใจน้อยลงเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะประวิงเวลา และผมคิดว่ามันน่าเสียดาย ตอนนี้ผมมั่นใจน้อยลงกว่าเมื่อสองสามเดือนก่อน"
"มีบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขา แต่ผมมั่นใจน้อยลงมากว่าข้อตกลงจะเกิดขึ้น... บางทีพวกเขาอาจไม่ต้องการทำข้อตกลง ผมพูดอะไรได้ล่ะ? และบางทีพวกเขาอาจต้องการ ไม่มีอะไรแน่นอน" ทรัมป์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยืนยันว่าวอชิงตันจะไม่ยอมให้เตหะรานครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ โดยกล่าวว่า "จะดีกว่าถ้าแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องมีสงคราม โดยไม่มีผู้เสียชีวิต"
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม หลังจากการเจรจารอบที่ห้า อิหร่านประกาศว่าได้รับ "องค์ประกอบ" ของข้อเสนอจากสหรัฐฯ สำหรับข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ แต่อับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ระบุว่าเนื้อหาในข้อเสนอดังกล่าวยัง "คลุมเครือ"
อิหร่านแจ้งว่าจะยื่นข้อเสนอตอบกลับต่อร่างข้อตกลงฉบับล่าสุดจากวอชิงตัน หลังจากที่ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าข้อเสนอดังกล่าวล้มเหลวในการเสนอมาตรการยกเลิกการคว่ำบาตร ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องสำคัญของเตหะรานที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจจากมาตรการคว่ำบาตรมาหลายปี
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ได้เริ่มการประชุมคณะผู้บริหารในกรุงเวียนนา ซึ่งจะดำเนินไปจนถึงวันศุกร์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านและประเด็นอื่นๆ
IAEA ได้จัดการประชุมหลังจากออกรายงานที่วิพากษ์วิจารณ์ความร่วมมือที่ "ไม่น่าพอใจ" จากเตหะราน โดยเฉพาะในการจัดการกับกรณีที่พบวัสดุนิวเคลียร์ในสถานที่ที่ไม่ได้แจ้งไว้ในอดีต อิหร่านโต้กลับว่ารายงานของ IAEA ขาดความสมดุล โดยอ้างว่ารายงานดังกล่าวใช้ "เอกสารปลอม" ที่จัดทำโดยอิสราเอล ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของอิหร่าน
----
IMCT NEWS
ที่มา https://sc.mp/bb4is?utm_source=copy-link&utm_campaign=3314063&utm_medium=share_widget
Photo: Iran International English