ทองคำทะยานผ่าน $4,000 สัญญาณเงินเฟียตเสื่อมค่าทองคำพุ่ง 50%  ชี้เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในการบริหารทุนสำรองโลก

9-10-2025

   Money Metals รายงานว่า ราคาทองคำ (Gold) ได้ทะยานสูงเกิน 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เป็นครั้งแรกเมื่อเช้าวันพุธ ตอกย้ำบทบาทสำคัญของสินทรัพย์ดังกล่าวในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง (hedge) ต่อ "การทำลายมูลค่าของสกุลเงินคำสั่งที่เร่งตัวขึ้น" (accelerating fiat destruction) และความไม่มั่นคงทางการคลังทั่วโลก

   โลหะสีทอง นี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในปี 2025 โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ การลดค่าของสกุลเงิน (currency debasement), ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ (geopolitical tensions), การเข้าซื้ออย่างต่อเนื่องของธนาคารกลาง (central bank buying), และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ในตลาดการเงิน Wall Street เมื่อบรรดาบริษัทลงทุนขนาดใหญ่ทำการ สลับการถือครองจากพันธบัตรเป็นทองคำ

ขณะเดียวกัน ราคาแร่เงิน (Silver) ก็เพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งดอลลาร์ โดยปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ราคาต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐ เพียงไม่ถึงหนึ่งดอลลาร์

แรงขับเคลื่อนจากนโยบายการเงินและการไหลเข้าของเงินทุน

  การพุ่งขึ้นของตลาดโลหะมีค่านี้ได้เร่งตัวขึ้นจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve หรือ Fed) ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (real yields) ลดลง และกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย (safe-haven assets)

  ในขณะเดียวกัน กองทุน ETF ที่มีทองคำแท่งหนุนหลัง (bullion-backed ETFs) เพิ่งมีการไหลเข้าของเงินทุนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าสามปี ซึ่งสะท้อนถึงการมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งจากนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน นอกจากนี้ ปริมาณการขายของบริษัท Money Metals ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

การทะลุระดับราคาครั้งสำคัญของทองคำ—เช่น ทะลุ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังวิกฤตปี 2008, ทะลุ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงวิกฤต COVID และทะลุ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้า—ล้วนเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกิดความเครียดระดับโลก (global stress)

การคาดการณ์จาก Goldman Sachs และการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง

   นักวิเคราะห์ระบุว่า การพุ่งขึ้นล่าสุดนี้สะท้อนถึงการจัดสรรสินทรัพย์ใหม่ในวงกว้าง โดยเป็นการถอยห่างจากตลาดหุ้นที่มีมูลค่าสูงเกินจริง (overvalued equities) และเป็นการแสวงหาเสถียรภาพทางการเงิน (monetary stability)

  ล่าสุด Goldman Sachs ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ราคาทองคำสำหรับปี 2026 ขึ้นเป็น 4,900 ดอลลาร์สหรัฐ โดยอ้างถึงการสะสมทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลาง, การผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed easing), และความต้องการ กองทุน ETF ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง" (structural shift) ในการบริหารเงินสำรองทั่วโลก ซึ่งมีแนวโน้มจะคงอยู่ต่อไปอีกหลายปี

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/10/08/gold-surges-past-4000-on-structural-shift-global-rebalancing-004390