โคลัมเบียกล่าวหาสหรัฐก่อสงครามในคาริบเบียน โดยอ้างการปราบปรามยาเสพติด

10-10-2025

   ประธานาธิบดีโคลอมเบีย กุสตาโว เปโตร กล่าวหาสหรัฐฯ พยายามก่อสงครามในแคริบเบียน ภายใต้ข้ออ้างการปราบปรามยาเสพติด โดยอ้างว่ามีพลเมืองโคลอมเบียเสียชีวิตจากการโจมตีล่าสุดนอกชายฝั่งเวเนซุเอลา ในโพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันพุธ เปโตรอ้างว่า แคมเปญของสหรัฐฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เป็นเรื่องของทรัพยากรในภูมิภาค ทางทำเนียบขาวได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยระบุว่า “ไร้หลักฐาน” ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

   สหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศต่อเรือที่ต้องสงสัยว่าลักลอบขนยาเสพติดใกล้เวเนซุเอลา โดยอ้างว่าเป็นความพยายามในการควบคุมการค้ายาเสพติดในแคริบเบียน วอชิงตันกล่าวหามายาวนานว่าประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโรของเวเนซุเอลามีความเชื่อมโยงกับแก๊งค้ายาเสพติด แต่มาดูโรได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา และยืนยันว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นความพยายามในการโค่นล้มรัฐบาลของเขา

   ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้จมเรืออย่างน้อย 4 ลำที่อ้างว่าเป็นเรือขนยาเสพติดนอกชายฝั่งเวเนซุเอลา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 คน ความเห็นทางกฎหมายที่เป็นความลับชี้ว่าการโจมตีของสหรัฐฯ ต่อแก๊งค้ายาเสพติดมีความชอบธรรม – ซีเอ็นเอ็น

“หลักฐานแสดงให้เห็นว่าเรือลำสุดท้ายที่ถูกโจมตีเป็นเรือของโคลอมเบีย และมีพลเมืองโคลอมเบียอยู่บนเรือ” เปโตรเขียน

   ประธานาธิบดีโคลอมเบียกล่าวว่า แคมเปญของสหรัฐฯ ไม่ใช่สงครามกับยาเสพติด แต่เป็นสงครามเพื่อควบคุมทรัพยากรธรรมชาติ “ไม่มีสงครามกับการลักลอบค้า มีแต่สงครามเพื่อน้ำมัน” เขาเขียน พร้อมระบุว่าการโจมตีดังกล่าวเป็น “การรุกรานต่อทั้งลาตินอเมริกาและแคริบเบียน”

   เป็นเวลาหลายปีที่โคลอมเบียถือเป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐฯ ในอเมริกาใต้ ผ่านโครงการ “แผนโคลอมเบีย” ซึ่งเป็นโครงการให้ความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่เริ่มต้นในปี 2000 รัฐบาลโคลอมเบียหลายสมัยได้อนุญาตให้กองกำลังสหรัฐฯ ใช้ฐานทัพในประเทศ และสนับสนุนความพยายามของสหรัฐฯ ในการโดดเดี่ยวเวเนซุเอลา

   นโยบายนี้เปลี่ยนแปลงไปหลังจากเปโตรได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในปี 2022 เขาได้ดำเนินการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลคารากัส และเรียกร้องให้มีนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระมากขึ้น รวมถึงการร่วมมือระดับภูมิภาค

IMCT News