ปริมาณเงินโลกแตะ $142 ล้านล้าน ดอลลาร์อ่อน–จีนขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง $47 ล้านล้าน นำหน้าสหรัฐฯและ EU

7-11-2025

    Ehsan Soltani Economist and Data Visualizer นำเสนอรายงานเชิงวิเคราะห์ว่า ปริมาณเงินทั่วโลกพุ่งทำสถิติ 142 ล้านล้านดอลลาร์ฯ เร่งตัวแรงจากผลกระทบเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า

 – รายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดเปิดเผยว่า ปริมาณเงินในความหมายกว้างทั่วโลก (Global Broad Money Supply) ได้ทะยานขึ้นสู่ระดับ 142 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนกันยายน ปี 2025 นับเป็นการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญจากระดับ 26 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2000 โดยสะท้อนอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (Compound Annual Growth Rate: CAGR) ตลอด 25 ปีที่ผ่านมาที่ระดับสูงถึงร้อยละ 7.0

   การเติบโตของปริมาณเงินทั่วโลกได้เร่งตัวขึ้นอย่างเด่นชัดในช่วงปี 2025 โดยมีการเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (Year-to-Date) และขยายตัวร้อยละ 6.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (Year-on-Year) ในเดือนกันยายน ปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนการเติบโตนี้คือ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (U.S. dollar) ซึ่งลดลงถึงร้อยละ 9.9 อันเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ตัวเลขปริมาณเงินเมื่อแปลงเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีมูลค่าสูงขึ้น

   ในแง่ของสัดส่วน ปรากฏว่า ประเทศจีน (China) ยังคงเป็นผู้เล่นหลักในระบบสภาพคล่องทั่วโลก โดยครองสัดส่วนใหญ่ที่สุดที่ 47.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 33.1 ของปริมาณเงินทั่วโลก ตามมาด้วยกลุ่มประเทศและเขตปกครองสำคัญ ซึ่งเรียงตามลำดับคือ สหภาพยุโรป (European Union) ที่ 22.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ร้อยละ 15.7), สหรัฐอเมริกา (United States) ที่ 22.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ร้อยละ 15.6), ญี่ปุ่น (Japan) ที่ 11.0 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ร้อยละ 7.7) และ สหราชอาณาจักร (United Kingdom) ที่ 5.0 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ร้อยละ 3.5) ซึ่งเมื่อรวมสัดส่วนของห้าพื้นที่หลักนี้เข้าด้วยกัน จะครอบคลุมถึงสามในสี่ของสภาพคล่องทางการเงินทั่วโลกทั้งหมด

   ทั้งนี้ รายงานยังได้ให้บริบททางประวัติศาสตร์ โดยชี้ว่าระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 ปริมาณเงินทั่วโลกได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงถึงร้อยละ 25 ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการตอบสนองต่อการระบาดของโควิด-19 ก่อนที่ตัวเลขจะทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 125 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดช่วงปี 2022 และ 2023 อย่างไรก็ตาม ในช่วงสามปีถัดมาระหว่างปี 2021 ถึงปี 2024 อัตราการเติบโตได้ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยมีอัตรา CAGR เพียงร้อยละ 1.4 เท่านั้น ซึ่งเป็นปัจจัยฉุดรั้งให้อัตราการเติบโตโดยรวมในช่วงปี 2019–2024 ลดลงเหลือร้อยละ 5.3 ซึ่งต่ำกว่าแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว

หมายเหตุ: ข้อมูลปริมาณเงินในความหมายกว้างนี้ ครอบคลุม 169 ประเทศและเขตปกครอง คิดเป็นร้อยละ 99 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศทั่วโลก (Global GDP) โดยตัวเลขทั้งหมดได้ถูกแปลงค่าเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบกันได้

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.voronoiapp.com/money/-Global-Broad-Money-Supply-20002025-6858