จีน-รัสเซีย เร่งสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์

จีน-รัสเซีย เร่งสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์บนดวงจันทร์ รองรับสถานีวิจัย เข้าถึงแหล่งแร่ ฮีเลียม-3 และโลหะมีค่า
12-5-2025
จีนและรัสเซียกำลังวางแผนสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บนดวงจันทร์เพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้กับสถานีวิจัยดวงจันทร์นานาชาติ (International Lunar Research Station - ILRS) ซึ่งเป็นโครงการที่จีนพัฒนาร่วมกับรัสเซีย โดยจะเริ่มต้นจากภารกิจฉางเอ๋อ-8 แผนดังกล่าวได้รับการเปิดเผยโดย เผย เจ้าหยู่ หัวหน้าวิศวกรของภารกิจฉางเอ๋อ-8 เมื่อเดือนเมษายน 2568
ภารกิจฉางเอ๋อ-8 ซึ่งมีกำหนดปล่อยในปี 2571 จะเป็นส่วนสำคัญในการเตรียมความพร้อมสำหรับการสร้างฐานถาวรบนดวงจันทร์ที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการภายในปี 2573 และเพื่อศึกษาวิธีการผลิตพลังงานบนดวงจันทร์ แม้ว่าพลังงานนิวเคลียร์จะเป็นตัวเลือกหลักที่มีศักยภาพสูง แต่แหล่งพลังงานทางเลือกอื่นๆ ก็กำลังได้รับการพิจารณาควบคู่กันไปด้วย
หวู่ เหวยเหริน หัวหน้าผู้ออกแบบโครงการสำรวจดวงจันทร์ของจีนกล่าวว่า "คำถามสำคัญสำหรับ ILRS คือแหล่งพลังงาน ในด้านนี้ รัสเซียมีความได้เปรียบโดยธรรมชาติ เมื่อพูดถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยเฉพาะการส่งโรงไฟฟ้าเหล่านี้ขึ้นสู่อวกาศ รัสเซียเป็นผู้นำของโลกและล้ำหน้าสหรัฐอเมริกา"
พลังงานถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการสร้างฐานถาวรบนดวงจันทร์ เนื่องจาก ILRS จำเป็นต้องมีแหล่งพลังงานที่เชื่อถือได้และมีเสถียรภาพในระยะยาวเพื่อให้สามารถทนต่อสภาวะแวดล้อมที่รุนแรงบนดวงจันทร์ ซึ่งความเชี่ยวชาญของรัสเซียในด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในอวกาศจะมีบทบาทสำคัญในการวางแผนและพัฒนา
ในปี 2567 องค์การอวกาศรัสเซีย (Roscosmos) ประกาศเป้าหมายที่จะร่วมมือกับจีนในการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์บนดวงจันทร์ให้สำเร็จภายในปี 2578 ความร่วมมือนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาพลังงานที่มีเสถียรภาพให้กับ ILRS และเพื่อสนับสนุนภารกิจสำรวจดวงจันทร์ในระยะยาว
แม้ว่าจีนยังไม่ได้ประกาศอนุมัติแผนดังกล่าวอย่างเป็นทางการ แต่การที่เผย เจ้าหยู่ ได้กล่าวถึงทางเลือกด้านพลังงานนิวเคลียร์ในการประชุมกับเจ้าหน้าที่จาก 17 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศที่สนับสนุน ILRS บ่งชี้ว่าแผนนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากรัฐบาลจีน
ในขณะที่จีนและรัสเซียกำลังเดินหน้าโครงการ ILRS สหรัฐอเมริกาก็กำลังวางแผนกลับไปยังดวงจันทร์ผ่านโครงการอาร์เทมิส (Artemis) ขององค์การนาซา สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเดียวที่เคยส่งนักบินอวกาศไปลงจอดบนดวงจันทร์ แต่ไม่ได้กลับไปอีกเลยนับตั้งแต่ภารกิจอพอลโลครั้งสุดท้ายในปี 2515 ปัจจุบันนาซาตั้งเป้าจะส่งนักบินอวกาศสองคนลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์อีกครั้งในปี 2570 และสร้างฐานถาวรตามมา
แผนด้านพลังงานของนาซาสำหรับฐานดวงจันทร์ประกอบด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่บนพื้นผิวดวงจันทร์ โดยพลังงานจะถูกกระจายไปทั่วฐานผ่านเครือข่ายท่อและสายเคเบิล อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ก็กำลังพิจารณาการใช้พลังงานนิวเคลียร์ด้วยเช่นกัน ท่ามกลางการแข่งขันระดับโลกเพื่อความเป็นอิสระด้านพลังงานในอวกาศ
กำหนดการของจีนในการสร้างฐานบนดวงจันทร์บริเวณขั้วใต้ของดวงจันทร์มีกรอบเวลาใกล้เคียงกับโครงการของนาซา โดยเมื่อปีที่แล้ว หวู่ เหวยเหริน ระบุว่า "รูปแบบพื้นฐาน" ของ ILRS ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ขั้วใต้ของดวงจันทร์ จะแล้วเสร็จภายในปี 2578
นอกจากภารกิจฉางเอ๋อ-8 และภารกิจที่เกี่ยวข้องแล้ว จีนยังมีแผนจะเปิดตัว "โครงการ 555" ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่จะเชิญ 50 ประเทศ 500 สถาบันวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ และนักวิจัยต่างประเทศ 5,000 คน ให้เข้าร่วมในโครงการ ILRS เพื่อสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติ
โครงการอวกาศของจีนได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่จีนกลายเป็นประเทศที่สามที่ส่งมนุษย์ขึ้นสู่อวกาศในปี 2546 ด้วยภารกิจเสินโจว 5 จีนก็ได้ส่งยานสำรวจฉางเอ๋อ 3 ลงจอดบนดวงจันทร์อีก 10 ปีต่อมา นอกจากนี้ จีนยังเป็นประเทศที่สองที่สามารถส่งยานสำรวจลงจอดบนดาวอังคาร และมีแผนที่จะส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคารภายในปี 2576
ความสำเร็จในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บนดวงจันทร์อาจเปลี่ยนแปลงอนาคตของการสำรวจอวกาศอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะเปิดโอกาสสำหรับการปฏิบัติการในอวกาศขนาดใหญ่ รวมถึงการผลิตพลังงานและการขนส่งในอวกาศ
การแข่งขันเพื่อสร้างฐานที่มั่นบนดวงจันทร์ยังมีสาเหตุมาจากทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่าบนดวงจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าดวงจันทร์มีแร่ออกไซด์ของโลหะมีค่า ซิลิกอน ไทเทเนียม โลหะหายาก และแหล่งอะลูมิเนียม แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือการมีอยู่ของฮีเลียม-3 ซึ่งเป็นไอโซโทปหายากที่แทบไม่มีบนโลก ตามที่นักวิทยาศาสตร์จีน หวาง จียวน กล่าวว่า ฮีเลียม-3 อาจ "แก้ปัญหาความต้องการพลังงานของมนุษยชาติได้นานประมาณ 10,000 ปี"
---
IMCT NEWS
ที่มา https://russiaspivottoasia.com/china-russia-nuclear-reactor-for-moon-base/