อาหรับหวังข้อตกลงธุรกิจใหญ่จากสหรัฐฯ

อาหรับหวังข้อตกลงธุรกิจใหญ่จากสหรัฐฯ ขณะทรัมป์เยือนตะวันออกกลางท่ามกลางไฟสงครามกาซา
12-5-2025
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เตรียมเยือนซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ระหว่างวันที่ 13–16 พฤษภาคมนี้ ท่ามกลางความหวังของผู้นำภูมิภาคในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง แม้จะต้องเดินบนเส้นด้ายระหว่างสงครามในกาซา ความสัมพันธ์กับอิสราเอล และปัญหากับอิหร่าน
ก่อนเริ่มการเยือน ทรัมป์เตรียม “ของขวัญเชิงสัญลักษณ์” ให้เจ้าภาพทั้งสาม โดยจะเปลี่ยนคำเรียก “Persian Gulf” (อ่าวเปอร์เซีย) ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับอิหร่าน มาใช้คำว่า “Arabian Gulf” (อ่าวอาหรับ) แทน แม้จะไม่มีอำนาจเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการ แต่การเลือกถ้อยคำเช่นนี้ถือว่ามีนัยทางการทูตสูง ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า เตรียมจะประกาศ “ข่าวสำคัญที่สุดในรอบหลายปี” ระหว่างการเยือนครั้งนี้ โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม
ซาอุฯ ชูเศรษฐกิจเหนืออิสราเอลในการเจรจา
เบื้องหลังการเยือนของทรัมป์ แต่ละประเทศมีวาระของตนเอง
“ซาอุดีอาระเบียต้องการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการปฏิรูป Vision 2030 และไม่ต้องการเสียโอกาสให้กับยูเออีที่ร่วมข้อตกลงอับราฮัม (Abraham Accords) กับอิสราเอลไปก่อนหน้า”
ดร.เบอร์กู ออซเจลิก นักวิจัยอาวุโสด้านความมั่นคงตะวันออกกลางจากสถาบัน RUSI กรุงลอนดอน กล่าวกับ DW
ก่อนเหตุโจมตีอิสราเอลโดยฮามาสเมื่อ 7 ตุลาคม 2023 อิสราเอลและซาอุฯ ใกล้จะลงนามในข้อตกลงสันติภาพ โดยมีสหรัฐฯ เป็นผู้ไกล่เกลี่ย ซึ่งจะมอบหลักประกันความมั่นคงแบบ “นาโตฉบับย่อ” และอนุญาตให้ซาอุฯ เดินหน้าโครงการนิวเคลียร์พลเรือน
อย่างไรก็ตาม โอกาสของข้อตกลงระหว่างซาอุฯ กับอิสราเอลในตอนนี้ “แทบจะเป็นไปไม่ได้” เพราะซาอุฯ ยืนยันใน “เส้นแดง” ที่ต้องมี “แนวทางสู่รัฐปาเลสไตน์อย่างจริงจัง”
เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ ได้แจ้งทำเนียบขาวในเดือนเมษายนว่า ไม่ต้องการให้มีวาระเกี่ยวกับอิสราเอลในระหว่างการเยือนของทรัมป์
“ฝ่ายซาอุฯ ต้องการให้การเยือนครั้งนี้เน้นเรื่องธุรกิจ เพื่อหลีกเลี่ยงประเด็นที่อาจก่อให้เกิดความไม่สบายใจ”
— เอมิลี ทาซินาโต นักวิจัยจากสภายุโรปด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (ECFR)
ซาอุฯ และสหรัฐฯ จึงเร่งเดินหน้าข้อตกลงในส่วนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับอิสราเอล เช่น ความร่วมมือโครงการนิวเคลียร์ และการเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาคโดยไม่ต้องมีสนธิสัญญาแบบผูกพัน
เบื้องหลัง “เวทีความมั่นคง” และธุรกิจอาวุธ
ซานัม วาคิล ผู้อำนวยการโครงการตะวันออกกลางจาก Chatham House มองว่า สงครามกาซา-อิสราเอลจะถูก “ผลักออกจากเวที” และประเด็นหลักของการเยือนคือเศรษฐกิจและความมั่นคง
“ประเทศอาหรับคาดหวังให้การเยือนของทรัมป์ช่วยผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ พร้อมจัดการประชุมร่วมกับคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าว (GCC)” วาคิลระบุ
แต่เธอก็กล่าวเพิ่มเติมว่า “เวทีนี้จะกลายเป็นฉากบังหน้าที่ไม่สามารถผลักดันความคืบหน้าใดๆ ในกาซาได้จริง”
ทรัมป์ไม่มีแผนพบปะกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮูระหว่างการเยือน แม้จะอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน
“ธุรกิจคือหัวใจสำคัญของการประเมินผลการเยือนตะวันออกกลางของทรัมป์” — ทาซินาโต กล่าว
มีรายงานว่าผู้บริหารจากบริษัทด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ จะร่วมคณะเดินทางไปยังซาอุฯ ด้วย โดยทั้งริยาด โดฮา และอาบูดาบีต่างประกาศแผนลงทุนกับบริษัทสหรัฐฯ ล่วงหน้าแล้ว
ซาอุฯ เสนอกรอบการค้าและการลงทุนกับสหรัฐฯ มูลค่า 600,000 ล้านดอลลาร์ใน 4 ปี
ยูเออีก็มีแผนลงทุนในสหรัฐฯ สูงถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า โดยเน้นโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และเซมิคอนดักเตอร์
ข้อตกลงซื้อขายเครื่องบินและขีปนาวุธระหว่างสหรัฐฯ กับกลุ่ม GCC ก็ถูกประกาศก่อนการเยือนเช่นกัน
เวที Saudi-US Investment Forum ที่จะจัดขึ้นในกรุงริยาดระหว่างการเยือนของทรัมป์ เป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่ริยาดใช้เป็นจุดเชื่อมต่อด้านเทคโนโลยี ดาต้าเซ็นเตอร์ คลาวด์ และ AI
“ประกาศใหญ่” ที่ยังปริศนา
นักวิเคราะห์คาดว่า คำว่า “ประกาศใหญ่” ของทรัมป์ อาจเกี่ยวข้องกับ 3 ประเด็นหลัก:
การเจรจาเพื่อปล่อยตัวตัวประกันชาวอเมริกันในกาซา
ข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน
หรือข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮูตีในเยเมน
“หากสามารถตกลงกับฮามาสให้ปล่อยตัวประกันได้ระหว่างการเยือน จะถือเป็นชัยชนะเชิงศีลธรรมและการทูตของทรัมป์”
— ดร.ออซเจลิก จาก RUSI
ทาซินาโตเชื่อว่า มีแนวโน้มสูงที่ “ข่าวใหญ่” จะเกี่ยวข้องกับอิหร่าน โดยเฉพาะบทบาทของอิหร่านในข้อตกลงหยุดยิงกับฮูตี ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าเตหะรานเปิดช่องเจรจาด้านนิวเคลียร์
หากการเจรจาเดินหน้า อาจนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน และลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางทหารของอิสราเอล
“ซาอุฯ และสหรัฐฯ กำลังปรับแนวร่วมให้รวมประเด็นเยเมนไว้ในกรอบการเจรจานิวเคลียร์กับอิหร่าน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการลดความตึงเครียดในภูมิภาค”
— ทาซินาโต กล่าว
ท้ายที่สุด ไม่ว่า “ข่าวใหญ่” ของทรัมป์จะเป็นอะไร มันย่อมต้องเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างแน่นอน
“ทรัมป์รู้ดีว่าตะวันออกกลางคือแหล่งโอกาสด้านการค้าและการลงทุน ก่อนที่สหรัฐฯ จะหันเหความสนใจไปยังจีนอย่างจริงจัง”
— ดร.ออซเจลิก กล่าว
“การสร้างสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับซาอุฯ กาตาร์ และยูเออี ซึ่งแม้จะไม่ได้เห็นพ้องกันทุกเรื่อง แต่ล้วนต้องการบทบาทผู้นำในภูมิภาค จะช่วยให้สหรัฐฯ มอบความไว้วางใจในการจัดระเบียบภูมิภาคให้แก่พันธมิตรเหล่านี้ได้มากขึ้น”
IMCT News
ที่มา https://www.dw.com/en/arab-countries-hope-for-big-us-business-amid-gaza-war/a-72489255
--------------------------------------
ทรัมป์ อาจประกาศรับรองปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ
12-5-2025
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจประกาศรับรองปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการในการประชุมสุดยอดอ่าวอาหรับ-สหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในซาอุดีอาระเบีย ตามรายงานของสื่อ Media Line ซึ่งอ้างแหล่งข่าวทางการทูตที่ไม่เปิดเผยชื่อ
รัฐปาเลสไตน์ได้รับการรับรองว่าเป็นประเทศเอกราชโดย 147 ประเทศ รวมถึงรัสเซียและประเทศส่วนใหญ่ในตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชีย อย่างไรก็ตาม ประเทศในยุโรปตะวันตกส่วนใหญ่ อิสราเอล และสหรัฐฯ ยังไม่ถือว่าปาเลสไตน์เป็นรัฐเอกราชอย่างเป็นทางการ หลายประเทศเรียกร้องให้มีการรับรองปาเลสไตน์ เพื่อเป็นทางออกเดียวในการยุติความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นในปี 2023 หลังจากที่อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการทางทหารในกาซ่า ภายหลังการโจมตีแบบสายฟ้าแลบโดยฮามาสที่ทำให้ชาวอิสราเอลเสียชีวิตประมาณ 1,200 คน และมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันอีก 250 คน
"ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะออกแถลงการณ์เกี่ยวกับรัฐปาเลสไตน์และการรับรองจากสหรัฐฯ โดยจะมีการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์โดยปราศจากฮามาส" แหล่งข่าวทางการทูตในกลุ่มประเทศอ่าว ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อและตำแหน่ง ให้สัมภาษณ์กับสื่อดังกล่าว พร้อมเสริมว่า การประกาศนี้ "จะเป็นแถลงการณ์ที่สำคัญที่สุด ซึ่งจะเปลี่ยนดุลอำนาจในตะวันออกกลาง"
รายงานดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับคำพูดของทรัมป์เมื่อต้นเดือนนี้ ระหว่างการพบกับนายกรัฐมนตรีแคนาดา มาร์ก คาร์นีย์ โดยเขาได้กล่าวเป็นนัยถึง “การประกาศครั้งใหญ่มากในเรื่องหนึ่ง” ซึ่งเขาวางแผนจะเปิดเผยก่อนหรือระหว่างการเดินทางไปยังตะวันออกกลาง แม้เขาไม่ได้ระบุว่าเป็นเรื่องอะไร แต่บอกเพียงว่าจะเป็นข่าวที่ “เป็นบวกมาก” นักวิเคราะห์บางคนคาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์
ไมค์ ฮัคคาบี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอล ได้ปฏิเสธว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีแผนจะรับรองปาเลสไตน์ โดยได้วิจารณ์สื่อ Jerusalem Post ที่นำรายงานของ Media Line ไปเผยแพร่โดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า “Jerusalem Post ควรหาข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้กว่านี้… รายงานนี้ไร้สาระ @Israel ไม่มีมิตรแท้ที่ดีกว่า @POTUS!” เขาเขียนในแพลตฟอร์ม X เมื่อวันเสาร์
ทรัมป์ไม่เคยแสดงความตั้งใจที่จะรับรองปาเลสไตน์มาก่อน ในช่วงวาระแรกของเขา เขาได้รับรองเยรูซาเล็มว่าเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล แม้ว่าชาวปาเลสไตน์จะอ้างสิทธิในเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวงของรัฐในอนาคต ตามข้อตกลงสันติภาพอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ปี 1993
อย่างไรก็ตาม ในวาระปัจจุบันของเขา ทรัมป์ได้มีส่วนในการเจรจาเพื่อหาทางออกอย่างยั่งยืนต่อความขัดแย้งดังกล่าว แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในเดือนมกราคม แต่อิสราเอลก็กลับมาเปิดฉากปฏิบัติการต่อต้านฮามาสอีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เขายังระบุว่าอาจมีการประกาศข้อเสนอการหยุดยิงใหม่ในกาซ่า โดยกล่าวว่า “มีการพูดคุยกันมากเกี่ยวกับกาซ่าในตอนนี้”
IMCT News