อิหร่านนำเข้าขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ HQ-9B

อิหร่านนำเข้าขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ HQ-9B จากจีน เสริมศักยภาพป้องกันภัยคุกคามจากอิสราเอล
9-7-2025
มีรายงานว่าอิหร่าน (Iran) ได้นำเข้าแบตเตอรี่ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ (surface-to-air missile batteries) จากจีน (China) เพื่อเสริมกำลังการป้องกันประเทศจากการคุกคามของอิสราเอล (Israeli threat) การพัฒนานี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากข้อตกลงหยุดยิงอย่างไม่เป็นทางการระหว่างอิสราเอล (Israel) และอิหร่าน (Iran) เมื่อปลายเดือน มิ.ย.
ตามรายงานของ Middle East Eye อิหร่าน (Iran) ได้รับมอบแบตเตอรี่ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศของจีน (Chinese surface-to-air missile batteries) เพื่อ 'สำรองและเสริมกำลัง' การป้องกันประเทศของตน หลังจากความขัดแย้งที่ยาวนาน 12 วัน และข้อตกลงหยุดยิงกับอิสราเอล (Israel) รายงานระบุว่าทำเนียบขาว (White House) และพันธมิตรในโลกอาหรับ (Arab world) ต่างรับทราบถึงการพัฒนานี้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยจำนวนขีปนาวุธพื้นสู่อากาศที่ถูกส่งมอบ แต่ระบุว่าอิหร่าน (Iran) ชำระค่าใช้จ่ายด้วยการส่งมอบน้ำมัน
จีน (China) เป็นหนึ่งในผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของอิหร่าน (Iranian oil) โดยเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกน้ำมันดิบและคอนเดนเสทของอิหร่าน (Iran's crude and condensate export) ไหลไปยังกรุงปักกิ่ง (Beijing) "ชาวอิหร่าน (Iranians) มีวิธีสร้างสรรค์ในการค้าขาย" เจ้าหน้าที่อาหรับรายหนึ่งกล่าว
การส่งมอบครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างอิหร่าน (Iran) และจีน (China) แม้จะมีการคาดการณ์ว่ารัสเซีย (Russia) และจีน (China) รักษาระยะห่างจากสหรัฐฯ (US) ในระหว่างการโจมตีของอิสราเอล (Israel) – อิหร่าน (Iran) อิสราเอล (Israel) ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อขีดความสามารถในการป้องกันประเทศของอิหร่าน (Iranian defence capabilities) ด้วยการโจมตีฐานปล่อยขีปนาวุธ ฐานทัพทหาร และการลอบสังหารนายพลและนักวิทยาศาสตร์ชาวอิหร่าน (Iranian generals and scientists) แต่อิหร่าน (Iran) ก็แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น โดยได้โจมตีเมืองเทลอาวีฟ (Tel Aviv) และไฮฟา (Haifa) สร้างความเสียหายต่อสถานที่ทางทหารที่สำคัญหลายแห่ง
ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 อิหร่าน (Iran) ได้รับขีปนาวุธ HY-2 Silkworm (HY-2 Silkworm) จากจีน (China) สาธารณรัฐอิสลาม (Islamic Republic) ได้ใช้ขีปนาวุธเหล่านี้ในการโจมตีคูเวต (Kuwait) และเรือบรรทุกน้ำมันของสหรัฐฯ (US oil tankers) ในสงครามเรือบรรทุกน้ำมัน (tanker war) อิหร่าน (Iran) ยังครอบครองขีปนาวุธ S-300 (S-300) ของรัสเซีย (Russian) ซึ่งสามารถสกัดกั้นอากาศยานไร้คนขับ (UAVs) และให้การป้องกันขีปนาวุธ (ballistic and cruise missiles) ได้ พวกเขายังมีแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นเองในซีรีส์ Khordad (Khordad series) และ Bavar-373 (Bavar-373)
ในปี 2010 มีรายงานว่าอิหร่าน (Iran) ได้รับขีปนาวุธ HQ-9B (HQ-9B missiles) ขีปนาวุธเหล่านี้พัฒนาโดย China Precision Machinery Import (China Precision Machinery Import) เป็นขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ (surface-to-air missile - SAM) ระยะไกลแบบ semi-active radar homing (SARH) ที่พัฒนาโดยสาธารณรัฐประชาชนจีน (People's Republic of China) ขีปนาวุธเหล่านี้เป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก S-300 (S-300) ของรัสเซีย (Russian)
อย่างไรก็ตาม ระบบเหล่านี้ไม่มีขีดความสามารถในการต่อต้านเครื่องบินล่องหน (stealth aircraft) เช่น เครื่องบิน F-35 (F-35) ของสหรัฐฯ (US)
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.middleeasteye.net/news/iran-receives-chinese-surface-air-missile-batteries-after-israel-ceasefire-say-sources