.

รัสเซีย-อินเดีย สร้างอนาคตร่วมกันท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลง
12-7-2025
ก่อนการเยือนอินเดียของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในปลายปีนี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดรัสเซีย-อินเดียครั้งที่ 23 ผู้เชี่ยวชาญจากทั้งสองประเทศต่างเร่งจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อเสริมความร่วมมือในทุกมิติ โดยต่างยืนยันว่า "ความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน" คือรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ที่มั่นคงยาวนานระหว่างสองประเทศ
ในบริบทภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบัน ความสัมพันธ์มอสโก-นิวเดลีขยายตัวเกินกว่าความร่วมมือทวิภาคีทั่วไป และกลายเป็นเสาหลักแห่งเสถียรภาพในเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ
นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญจากรัสเซียและอินเดียได้ร่วมจัดทำหนังสือเล่มใหม่ภายใต้ชื่อ India and Russia: Enduring Trust in a Transformational Era ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Har-Anand ของอินเดีย นำเสนอการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับพัฒนาการของความสัมพันธ์ตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียตถึงปี 2024 ที่ความสัมพันธ์พุ่งขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ดร. ลิเดีย คูลิก หัวหน้าภาควิชาอินเดียศึกษาแห่ง Moscow School of Management SKOLKOVO เป็นบรรณาธิการหนังสือเล่มนี้ พร้อมการสนับสนุนจาก Dipanjan Roy Chaudhury บรรณาธิการด้านการทูตของ The Economic Times
“นี่คือบทสะท้อนแนวคิดร่วมจากผู้เชี่ยวชาญทั้งสองประเทศที่นำเสนอภาพใหม่ของความสัมพันธ์ ซึ่งมีความสำคัญต่อทั้งสองชาติและโลกที่กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” คูลิกกล่าว
หนังสือครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่ความร่วมมือดั้งเดิม ไปจนถึงการพัฒนาความร่วมมือใหม่ ๆ ทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ความมั่นคง พลังงาน และการเงิน โดยเน้นทั้งข้อดีและจุดอ่อน เช่น การขาดกรอบระบบที่เป็นรูปธรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
พันกัช สารัน อดีตเอกอัครราชทูตอินเดียประจำรัสเซีย วิเคราะห์ว่าความสัมพันธ์จะดำรงอยู่ต่อไปแม้ต้องเผชิญแรงกดดันจากตะวันตกและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างรัสเซียกับจีน
ทัตยานา เชามยาน ผู้เชี่ยวชาญด้านอินเดียศึกษาแห่ง Russian Academy of Sciences ระบุว่า รัสเซียชื่นชมจุดยืน “อธิปไตยเชิงยุทธศาสตร์” ของอินเดีย โดยแม้จะเรียกร้องให้รัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครน แต่อินเดียก็หลีกเลี่ยงการลงมติในมติประณามรัสเซียหลายครั้งในสหประชาชาติ
เธอเน้นว่า อินเดียกำลังยกระดับบทบาทจากภูมิภาคเอเชียใต้สู่เวทีโลก โดยใช้พลังเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และกำลังทหารเป็นฐาน
ในการเยือนมอสโกของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 ซึ่งเป็นครั้งแรกหลังสงครามยูเครน และเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกหลังการเลือกตั้งซ้ำในปีเดียวกัน ถือเป็นสัญญาณสำคัญของความสัมพันธ์ที่ยังแน่นแฟ้น
นักวิจัย Leyla Turayanova ชี้ว่า อินเดีย-รัสเซียสามารถผ่านบททดสอบจากสงครามยูเครนมาได้ และความร่วมมือทางเศรษฐกิจยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมแสดงให้เห็นจุดยืนของอินเดียในการรักษาสมดุลเชิงยุทธศาสตร์ แม้จะมีความสัมพันธ์เพิ่มขึ้นกับตะวันตก
ในมิติการเชื่อมต่อ ผู้เขียนหลายรายระบุว่า อินเดียมีบทบาทสำคัญในโครงการเชื่อมโยงของรัสเซีย เช่น โครงการ International North-South Transport Corridor และเส้นทางเดินเรือในอาร์กติก
เซอร์เกย์ โคเมย์ชาน แห่ง SIBUR ยกตัวอย่างความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่าง Reliance และ Sibur รวมถึงแนวทางใหม่ในการผนวกระบบชำระเงิน การค้าคาร์บอน และการรีไซเคิลน้ำ
ในด้านเทคโนโลยี อารยมัน นิชฮาวัน เสนอว่าประสบการณ์จากสงครามยูเครนชี้ให้เห็นถึงโอกาสใหม่ เช่น การพัฒนาโดรนร่วมกัน ระบบต่อต้านโดรน และการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
โอลกา อุสตยูซานเซวา และอีวาน ดานิลิน ระบุว่า อินเดียเติบโตในภาคไฮเทคอย่างรวดเร็ว แต่ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ยังติดปัญหา เช่น การลงทุนจำกัดและการแยกระหว่างธุรกิจกับนวัตกรรม พวกเขาเสนอให้เปลี่ยนจากรัฐนำไปสู่ภาคเอกชน โดยเฉพาะสตาร์ตอัปและ SME
ด้านการเงิน เซอร์เกย์ สตอร์ชัค อดีตรองรมว.คลังของรัสเซีย เสนอให้เพิ่มการค้าสกุลเงินท้องถิ่น การโอนเงินข้ามพรมแดนแบบปลอดภัย และเชื่อมโยงระบบการเงินร่วมกัน เพื่อลดผลกระทบจากการคว่ำบาตรตะวันตก
อันนา คิรีวา นักวิชาการจาก MGIMO เสนอให้ขยายความร่วมมือรัสเซีย-อินเดียในบริบทอาเซียน โดยตั้งกลไกเจรจายุทธศาสตร์ ผลิตอาวุธร่วมกัน ความมั่นคงทางทะเล และพันธมิตรด้านเทคโนโลยี
อเล็กเซย์ ซาคารอฟ นักวิจัยจาก Russian Academy of Sciences ชี้ว่า รัสเซียกำลังขยายกรอบมองจากอินเดียเป็นศูนย์กลางไปสู่เอเชียใต้ทั้งภูมิภาค โดยอินเดียยังคงเป็นแกนกลาง แต่ภูมิภาคนี้กลายเป็นพื้นที่ที่รัสเซียให้ความสนใจมากขึ้นในเชิงการทูตและเศรษฐกิจ
การเยือนอินเดียของประธานาธิบดีปูตินที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงสะท้อนถึงพลวัตใหม่ของความสัมพันธ์ที่ฝ่าคลื่นวิกฤตและกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างเป็นระบบและมีเป้าหมาย
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.rt.com/india/621224-why-india-russia-ties-still-matter/