จีนตั้งเป้าเสริมอำนาจครองตลาด “แร่หายาก” ผ่านแผนพัฒนา 10 ปีมองโกเลียใน

14-11-2025

   SCMP รายงานว่า จีนประกาศแผน 10 ปี: พัฒนา 'เปาโถว' สู่ศูนย์กลางธาตุหายากโลก หวังคุมห่วงโซ่อุปทาน EV และพลังงานใหม่

- ภูมิภาคทางตอนเหนือของจีนซึ่งเป็นที่ตั้งของเหมืองธาตุหายาก (REE) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมผลักดันให้เมือง เปาโถว (Baotou) กลายเป็นศูนย์กลางชั้นนำระดับโลกสำหรับ วัสดุวิกฤต (critical materials) ภายใต้แผนพัฒนา 10 ปีที่มุ่งเน้นการขยายขีดความสามารถในการทำเหมือง การกลั่น และการผลิตแม่เหล็ก

  นักวิเคราะห์ระบุว่า โครงการริเริ่มเชิงกลยุทธ์นี้จะช่วย เสริมสร้างตำแหน่งผู้นำของจีนในห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ (New-Energy Industry) ท่ามกลางความพยายามของนานาชาติและบริษัทต่าง ๆ ในการลดการพึ่งพาจีนและกระจายแหล่งอุปทาน

แผนเร่งรัดสู่การผลิตระดับไฮเอนด์

   ในแผนพัฒนาที่ออกเมื่อวันพุธและครอบคลุมถึงปี 2035 เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน (Inner Mongolia) กล่าวว่า โครงการริเริ่มจะรวมถึงการเปิดตัว การสำรวจเหมืองเชิงกลยุทธ์รอบใหม่ และการเร่งการพัฒนา วัสดุเชิงฟังก์ชันธาตุหายากระดับไฮเอนด์ (high-end rare earth functional materials) ซึ่งมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง

ภูมิภาคนี้เป็นที่ตั้งของ เหมืองปายอวิ้นเอ้อป๋อ (Bayan Obo mine) ซึ่งตามข้อมูลของ NS Energy Business ระบุว่า คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณสำรองธาตุหายากที่ทราบทั่วโลก และเกือบครึ่งหนึ่งของการผลิตทั่วโลก

ราจีฟ บิสวาส (Rajiv Biswas) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทวิจัย Asia-Pacific Economics ให้ความเห็นว่า “การลงทุนใหม่ขนาดใหญ่ในการผลิตแม่เหล็กที่ใช้วัสดุธาตุหายากที่เปาโถว จะเสริมสร้างความเป็นผู้นำระดับโลกของจีนในการผลิตแม่เหล็กสำหรับ ยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ (EVs) และกังหันลมสำหรับ พลังงานหมุนเวียน”

การครอบงำห่วงโซ่คุณค่า

  รายงานล่าสุดจาก Morgan Stanley ยืนยันถึงการครอบงำของจีน โดยระบุว่า จีนครองส่วนแบ่งการผลิตจากเหมืองทั่วโลกในห่วงโซ่คุณค่าธาตุหายากถึง 69 เปอร์เซ็นต์ และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น นักวิเคราะห์ประเมินว่า จีนควบคุมส่วนแบ่งตลาดโลกในการจัดหา แม่เหล็กธาตุหายาก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของมอเตอร์ EV และกังหันลม ได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์

ธาตุหายากจึงกลายเป็น จุดที่มีอำนาจต่อรองที่สำคัญ สำหรับ ปักกิ่ง ในการตอบโต้มาตรการต่าง ๆ เช่น การควบคุมการส่งออกชิปโดย สหรัฐฯ

จุดยืนของจีนและแนวโน้มในอนาคต

  เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการควบคุมการส่งออกธาตุหายาก เหอ ย่าตง (He Yadong) โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จีนดำเนินการตามกฎหมายเพื่อ “ปกป้องความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ” พร้อมเสริมว่า มีความพยายาม “เพื่อรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานโลก”

  คอรี คอมส์ (Cory Combs) หัวหน้าฝ่ายวิจัยวัสดุวิกฤตของ Trivium China ตั้งข้อสังเกตว่า แม้จะมีความวุ่นวาย แต่ “ภาคเอกชนได้ค้นพบวิธีที่จะอยู่รอดผ่านการสำรองสินค้าที่หลากหลายกับประเทศอื่น ๆ”

แม้จะมีสัญญาณของการกระจายอุปทานทั่วโลก แต่ บิสวาส (Biswas) คาดการณ์ว่า “จีนจะยังคงมี บทบาทที่โดดเด่น ในห่วงโซ่อุปทานธาตุหายากทั่วโลกในระยะกลาง จนถึงปี 2030” โดยศูนย์กลางที่เปาโถวจะมีบทบาทสำคัญในการจัดหาวัสดุแปรรูป เนื่องจากประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่ของโลกกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.scmp.com/economy/global-economy/article/3332645/baotou-set-become-chinas-rare-earth-hub-under-inner-mongolias-10-year-plan?module=top_story&pgtype=section