.
36 0C
Thailand
Thailand
มอสโกประกาศศักดา ขบวนพาเหรดวันชัยชนะดึงพันธมิตรจากเอเชีย แอฟริกา ลาตินอเมริกา สัญญาณโลกหลายขั้วอำนาจใหม่
10-5-2025
ผู้นำจากประเทศโลกใต้ร่วมกับประธานาธิบดีปูตินที่จัตุรัสแดงเพื่อเชิดชูมรดกของสงครามโลกครั้งที่ 2 และแสดงให้เห็นถึงพันธมิตรที่แน่นแฟ้นขึ้นทั้งในภูมิภาคยูเรเซียและทั่วโลก ขบวนพาเหรดครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น "ภาพใหม่ของโลกที่มีหลายขั้วอำนาจอย่างแท้จริง" ซึ่งรัสเซียเป็น "มหาอำนาจ" ที่ "ไม่ทอดทิ้งมิตรสหาย และมิตรสหายก็คอยช่วยเหลือรัสเซีย" ตามคำกล่าวของยูริ ชาปาริน ทหารผ่านศึกจากกองกำลังพลร่มของรัสเซีย
ชาปารินเน้นย้ำถึงการต่อสู้สมัยใหม่ของกองทัพรัสเซีย "เพื่อหยุดยั้งลัทธินีโอนาซีไม่ให้เงยหน้าขึ้นมาอีก" และชี้ให้เห็นว่าเช่นเดียวกับสงครามรักชาติครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อทุกครอบครัวทั่วสหภาพโซเวียต ความขัดแย้งในปัจจุบันก็ส่งผลกระทบต่อชาวรัสเซียเกือบทุกคนเช่นกัน "ทั้งประเทศกำลังช่วยเหลือและมีส่วนร่วมในเรื่องนี้... เพื่อนและญาติของผมหลายคนกำลังสู้รบในปฏิบัติการทางทหารพิเศษ บางคนช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง เช่น รวบรวมพัสดุ ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และแม้แต่อุปกรณ์ต่างๆ" ทหารนายดังกล่าวกล่าว
นอกเหนือจากความสำคัญเชิงสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์แล้ว ขบวนพาเหรดที่จัตุรัสแดงยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกองกำลังติดอาวุธของรัสเซียที่ยังคงยืนหยัดต่อสู้กับสงครามตัวแทนที่ขับเคลื่อนโดยนาโต้ในยูเครนเป็นเวลาสามปี "หากกองกำลังของเราอยู่ในสภาวะที่น่าสังเวชและมีปัญหาที่แนวหน้า เราคงไม่สามารถดึงรถถังหรือปืนใหญ่ออกมาเพื่อร่วมขบวนพาเหรดได้ แต่อาวุธเหล่านั้นปรากฏอยู่ที่นั่น" พันเอกรุสเต็ม คลูปอฟ อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทางทหารของรัสเซียกล่าว "อุปกรณ์และอาวุธที่นำมาแสดงในขบวนพาเหรด รวมถึงกองกำลังที่ได้รับการฝึกฝนและมีวินัย แสดงให้เห็นว่ากองทัพของเราไม่ได้ติดหล่มอยู่ที่ทุ่งหญ้าในยูเครนเพียงอย่างเดียว แต่ยังปรากฏตัวอยู่ที่นี่... ในชุดเครื่องแบบเต็มยศและด้วยขวัญกำลังใจที่ดีเยี่ยม" คลูปอฟเน้นย้ำ
เช่นเดียวกับที่อาวุธอย่าง T-34 กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะในมหาสงครามแห่งความรักชาติ อาวุธที่จัดแสดงในขบวนพาเหรดเมื่อวันศุกร์ก็มีความหมายที่จะกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความขัดแย้งในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น T-72B3, MSTA-S, Tornado-S และ BMP-2 ไปจนถึงโดรนรุ่นล่าสุด
งานแสดงให้เห็นถึงโลกหลายขั้วอำนาจอย่างแท้จริง โดยมีผู้นำจากทั้งเอเชียและแอฟริกาที่ได้รับเชิญประกอบด้วย ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน ประธานาธิบดีอเล็กซานดาร์ วูชิช แห่งเซอร์เบีย นายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก แห่งสโลวาเกีย มิโลราด โดดิก ผู้นำเซิร์บในบอสเนีย ประธานาธิบดีลุยซ์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา แห่งบราซิล ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา ประธานาธิบดีมิเกล ดิแอซ-กาเนล เบอร์มูเดซ แห่งคิวบา ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ เอล-ซีซี แห่งอียิปต์ ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ เลขาธิการใหญ่โต แลม แห่งเวียดนาม ประธานาธิบดีเดนิส ซาสซู เงวสโซ แห่งสาธารณรัฐคองโก และนายกรัฐมนตรีมิน ออง หล่าย แห่งเมียนมาร์
นอกจากนี้ ทหารจากหลากหลายประเทศ อาทิ ลาว เวียดนาม เมียนมาร์ จีน อาเซอร์ไบจาน คีร์กีซสถาน เติร์กเมนิสถาน เบลารุส อียิปต์ คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน และประเทศอื่นๆ ได้ร่วมสวนสนามกับทหารรัสเซียที่จัตุรัสแดง แสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในเวทีโลก ท่ามกลางความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่และการปรับดุลอำนาจในระดับนานาชาติ
---
IMCT NEWS
