.

สหรัฐฯเสริมแสนยานุภาพในอินโด-แปซิฟิก ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52H ประจำการที่กวม เพิ่มแรงกดดันจีน
28-5-2025
Newsweek รายงานว่า สหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการหมุนเวียนฝูงบินทิ้งระเบิดไปยังมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก โดยส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52H Stratofortress ไปประจำการที่เกาะกวม ซึ่งเป็นฐานทัพยุทธศาสตร์สำคัญที่ใช้เป็นพื้นที่เตรียมการสำหรับการแสดงแสนยานุภาพในภูมิภาค
กองบินทิ้งระเบิดที่ 2 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งมีฐานปฏิบัติการหลักอยู่ที่ฐานทัพอากาศบาร์กส์เดลในรัฐลุยเซียนา ได้เผยแพร่วิดีโอเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นเครื่องบินทิ้งระเบิดกำลังเข้ารับการบำรุงรักษาและตรวจสอบหลังการบินที่ฐานทัพอากาศแอนเดอร์เซนในกวม เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม โดยไม่ได้ระบุจำนวนเครื่องบินที่ส่งไปประจำการในครั้งนี้
เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52H นับเป็นอาวุธยุทธศาสตร์ชั้นนำของกองทัพสหรัฐฯ ที่สามารถบรรทุกอาวุธได้ทั้งนิวเคลียร์และอาวุธธรรมดาน้ำหนักรวมสูงถึง 70,000 ปอนด์ (ประมาณ 31.75 ตัน) มีความสามารถในการนำทางที่แม่นยำสูง พิสัยบินไกล 8,800 ไมล์ (ประมาณ 14,160 กิโลเมตร) และทำความเร็วสูงสุดได้ 650 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 1,046 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ตามข้อมูลจากเอกสารทางการของกองทัพอากาศสหรัฐฯ
การส่งเครื่องบินในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจหน่วยปฏิบัติการทิ้งระเบิด (Bomber Task Force หรือ BTF) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความน่าเชื่อถือของกองกำลังสหรัฐฯ ในการรับมือกับสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงระดับโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง รวมถึงเปิดโอกาสให้มีการฝึกซ้อมและทำงานร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วนในภูมิภาค
ตามข้อมูลจากแผนที่ที่จัดทำโดยนิตยสาร Newsweek นี่นับเป็นการส่งกำลังทางอากาศครั้งที่ 3 ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกของสหรัฐฯ ในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B Lancer จำนวน 4 ลำไปประจำการที่ฐานทัพอากาศมิซาวะในประเทศญี่ปุ่นช่วงกลางเดือนเมษายน ซึ่งได้เดินทางกลับสหรัฐฯ เป็นสองเที่ยวบินในวันที่ 9 และ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ฐานทัพอากาศแอนเดอร์เซนในกวมยังเคยเป็นที่ตั้งของการส่งกำลัง BTF อีกครั้งระหว่างกลางเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคม โดยมีเครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B จำนวน 4 ลำเข้าร่วมปฏิบัติการ
เกาะกวมมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่งต่อสหรัฐฯ โดยเป็นศูนย์กลางของแนวเกาะที่สอง (Second Island Chain) ภายใต้ยุทธศาสตร์การสกัดกั้นของสหรัฐฯ ซึ่งมุ่งควบคุมการเคลื่อนไหวของกองกำลังฝ่ายปรปักษ์ในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของฐานทัพกองทัพอากาศ กองทัพเรือ และนาวิกโยธินของสหรัฐฯ ที่ช่วยรักษาการประจำการทางทหารของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้
กองบัญชาการโจมตีทางอากาศทั่วโลกของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งรับผิดชอบกองกำลังทิ้งระเบิดของประเทศ เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Newsweek ว่า "กองบัญชาการของเรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วนของสหรัฐฯ เพื่อยับยั้งการรุกรานในอินโด-แปซิฟิก พันธมิตรและหุ้นส่วนเหล่านี้มอบความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ที่ศัตรูของเราไม่มีทางเทียบได้" พร้อมย้ำว่าพร้อมปฏิบัติภารกิจ BTF "ทุกที่ ทุกเวลา และในระยะเวลาใดก็ตามที่จำเป็น"
ในขณะที่กองทัพอากาศสหรัฐฯ ในแปซิฟิกเคยชี้แจงว่า "กองทัพอากาศสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินและหน่วยปฏิบัติการหลากหลายประเภทไปยังพื้นที่ปฏิบัติการอินโด-แปซิฟิกเป็นประจำ เพื่อสนับสนุนวัตถุประสงค์และการฝึกของกองบัญชาการรบทางภูมิศาสตร์" ยังไม่มีความชัดเจนว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52H ที่ประจำการที่กวมจะปฏิบัติภารกิจแรกเมื่อใด หลังจากมาถึงเกาะในแปซิฟิกตะวันตก ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ในภูมิภาคยังคงตึงเครียดสูงทั้งในทะเลจีนใต้ ช่องแคบไต้หวัน และคาบสมุทรเกาหลี
การเสริมกำลังทางอากาศครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีรายงานเกี่ยวกับการประจำการของเรือบรรทุกเครื่องบินทั้งของสหรัฐฯ และจีนในน่านน้ำแปซิฟิก รวมถึงมีการฝึกการสกัดกั้นขีปนาวุธพิสัยไกลของเรือพิฆาตสหรัฐฯ และข่าวที่ว่าสหรัฐฯ อาจพิจารณาลดจำนวนทหารที่ประจำการใกล้กับเกาหลีเหนือตามรายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัล
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.newsweek.com/us-news-bomber-deployment-guam-andersen-air-base-2076953