ทองคำ VS เงินเฟียต เหตุใดทองคำยังมีความสำคัญในโลกเงินกระดาษ?

26-5-2025

    Money Metals รายงานจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างเงินตราที่รัฐบาลออกให้กับทองคำในฐานะเครื่องเก็บมูลค่า โดยเน้นว่าทองคำยังคงเป็นทางเลือกที่เหนือกว่าในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความผันผวนของระบบการเงินปัจจุบัน

## นิยามของเงินที่แท้จริง

ในรายการ Money Metals Midweek Memo ประจำสัปดาห์นี้ ไมค์ มาฮาร์เรย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้นำเสนอมุมมองตามหลักการของ Austrian School of Economics เกี่ยวกับความหมายที่แท้จริงของเงิน โดยระบุว่าเงินที่แท้จริงควรเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติผ่านกลไกตลาด ไม่ใช่การกำหนดโดยรัฐบาล

คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าธนบัตรหรือตัวเลขในบัญชีธนาคารคือเงินที่แท้จริง แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการแสดงรูปแบบใหม่เท่านั้น เงินที่มั่นคงและแท้จริง ซึ่งโดยปกติคือทองคำและเงิน จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเนื่องจากคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ ความมีประโยชน์ ความหายาก และการยอมรับในประวัติศาสตร์

## ข้อจำกัดของระบบแลกเปลี่ยนสินค้า

มาฮาร์เรย์ชี้ให้เห็นถึงปัญหาของระบบแลกเปลี่ยนสินค้าที่เรียกว่า "ปัญหาความต้องการที่สอดคล้องกันสองทาง" หากบุคคลหนึ่งผลิตเรือแต่ต้องการขนมปัง เขาจะต้องค้นหาช่างทำขนมปังที่ต้องการเรือ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ขาดประสิทธิภาพ

เงินตราได้แก้ไขปัญหานี้โดยทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางอ้อม แทนที่จะแลกเปลี่ยนสินค้าโดยตรง ผู้คนสามารถแลกเปลี่ยนสินค้าเป็นเงิน จากนั้นนำเงินไปแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ต้องการ ในอดีต สังคมต่างๆ จึงหันไปใช้สินค้าโภคภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ได้แก่ ความทนทาน ความสามารถในการพกพา การแบ่งส่วนได้ และความหายาก ทองคำและเงินจึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดตามธรรมชาติ

## วิวัฒนาการของระบบเงินเฟียต

ต่างจากทองคำและเงินที่เกิดขึ้นจากกลไกตลาด สกุลเงินเฟียตเป็นผลมาจากการประกาศของรัฐ คำว่า "เฟียต" มาจากภาษาละตินที่แปลว่า "ให้เป็นไปตาม" ในระยะแรก ธนบัตรสามารถแลกเปลี่ยนเป็นทองคำหรือเงินได้ แต่รัฐบาลต่างๆ ได้ยกเลิกการแลกเปลี่ยนนี้เมื่อเวลาผ่านไป

ปัจจุบัน สกุลเงินเฟียตอย่างดอลลาร์สหรัฐ ยูโร เยน และหยวน ได้รับการสนับสนุนเพียงแค่คำสัญญาทางการเมืองเท่านั้น สถานการณ์นี้สร้างความไม่มั่นคงเนื่องจากรัฐบาลที่ขาดการควบคุมจะเลือกขยายปริมาณเงินในระบบเพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายของตนเองโดยไม่มีข้อจำกัดตามธรรมชาติที่เงินมั่นคงกำหนดไว้

## ปัญหาเงินเฟ้อที่ฝังแน่นในระบบ

ระบบเงินเฟียตอนุญาตให้มีการสร้างสกุลเงินได้อย่างไม่จำกัด ในปี 2020 ปริมาณเงินในระบบของสหรัฐอเมริกาเติบโตขึ้นถึง 19.1% เมื่อเปรียบเทียบกับอุปทานทองคำทั่วโลกที่เติบโตในอัตราคงที่เพียง 1.4% ถึง 2.2% ต่อปี

ความแตกต่างนี้ส่งผลให้กำลังซื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ประธานาธิบดีนิกสันตัดความเชื่อมโยงสุดท้ายระหว่างดอลลาร์กับทองคำในปี 1971 ดอลลาร์ได้สูญเสียมูลค่าไปมากกว่า 85% สิ่งที่ซื้อได้ด้วยหนึ่งดอลลาร์ในอดีต ปัจจุบันต้องใช้เงินมากกว่าเจ็ดดอลลาร์ ในขณะเดียวกัน ราคาทองคำได้เพิ่มขึ้นจาก 35 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นมากกว่า 3,300 ดอลลาร์

มาฮาร์เรย์เน้นย้ำว่าเงินเฟ้อไม่ใช่ข้อบกพร่องของระบบเงินเฟียต แต่เป็นนโยบายที่ตั้งใจไว้ แม้ธนาคารกลางจะอ้างว่ามีเป้าหมายในการควบคุมเงินเฟ้อ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาต้องการให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำพอที่ประชาชนจะไม่ก่อความไม่พอใจ แต่สูงพอที่จะสนับสนุนการขยายตัวของรัฐบาลต่อไป

## คุณสมบัติเหนือกว่าของทองคำและเงิน

อริสโตเติลได้กำหนดคุณลักษณะสำคัญสามประการของเงินที่ดี ได้แก่ ความทนทาน ความสามารถในการพกพา และการแบ่งส่วนได้ มาฮาร์เรย์เพิ่มคุณสมบัติที่สี่คือความหายาก ทองคำและเงินตรงตามเกณฑ์ทุกประการ

ทองคำและเงินทนทานต่อการผุพัง สามารถพกพาได้ง่าย แบ่งเป็นหน่วยเล็กได้ และได้รับการยอมรับมาหลายพันปีไม่เพียงในฐานะเงินตรา แต่ยังเป็นเครื่องประดับ ของตกแต่ง และวัสดุอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญเพิ่มขึ้น

โรงกษาปณ์เพิร์ธได้สาธิตความทนทานของทองคำโดยการหลอมและหล่อแท่งทองคำหนัก 14 ปอนด์แท่งเดียวกันมากกว่า 65,000 ครั้ง ทองคำสามารถปรับรูปเป็นแท่ง เหรียญ หรือแผ่นบางที่มีน้ำหนักเพียง 1/1,000 ออนซ์ทรอย นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การแพทย์ เทคโนโลยีอวกาศ และโทรคมนาคม ในไตรมาสแรกของปี 2025 เพียงไตรมาสเดียว มีการใช้ทองคำในงานอุตสาหกรรมถึง 80.5 ตัน

## เหตุผลที่รัฐบาลนิยมระบบเงินเฟียต

เงินมั่นคงจำกัดอำนาจของรัฐบาล หากสกุลเงินได้รับการสนับสนุนด้วยทองคำ รัฐบาลจะต้องหาทองคำเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการใช้จ่าย สิ่งนี้เป็นปัญหาสำหรับนักการเมืองที่ต้องการใช้จ่ายในปัจจุบันและเลื่อนการกังวลไปในภายหลัง

ระบบเงินเฟียตช่วยให้รัฐบาลสามารถจัดหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณ การทำสงคราม และการขยายโครงการสวัสดิการโดยไม่ต้องเผชิญผลกระทบทันที ธนาคารกลางสนับสนุนพฤติกรรมนี้ผ่านการกดอัตราดอกเบี้ยและการสร้างสกุลเงิน

มาฮาร์เรย์เน้นว่าธนาคารกลางสหรัฐเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ แม้รัฐบาลจะอ้างว่าต่อสู้กับเงินเฟ้อ แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขากลับส่งเสริมเงินเฟ้อในฐานะเครื่องมือสำหรับการขยายตัวอย่างไม่มีขีดจำกัด

## ประวัติศาสตร์และอนาคตของระบบเงินตรา

สกุลเงินเฟียตทุกสกุลในประวัติศาสตร์ได้ล้มเหลวในที่สุด แม้ดอลลาร์จะครองความเป็นหลักในปัจจุบัน แต่ก็กำลังเดินตามเส้นทางเดียวกัน

นักวิจารณ์อย่างวอร์เรน บัฟเฟ็ตต์อาจดูถูกทองคำโดยเรียกว่าไม่มีประโยชน์หรือล้าสมัย แต่ข้อมูลแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น เกือบครึ่งหนึ่งของความต้องการทองคำทั่วโลกมาจากอุตสาหกรรมเครื่องประดับ ทองคำยังขาดไม่ได้ในการคำนวณ การบินและอวกาศ การวินิจฉัยทางการแพทย์ และเทคโนโลยีพลังงานสะอาด

## ข้อเสนอแนะสำหรับนักลงทุน

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่านักลงทุนไม่จำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงของระบบเงินเฟียต แม้ว่าจะอาศัยอยู่ในโลกที่ถูกครอบงำด้วยสกุลเงินที่รัฐบาลออกให้ แต่สามารถรักษาความมั่งคั่งด้วยเงินมั่นคงได้ ทองคำและเงินเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงที่ผ่านการทดสอบเวลาแล้วจากเงินเฟ้อ ความผันผวน และความล้มเหลวของสถาบันทางการเมือง

ความแตกต่างพื้นฐานระหว่างเงินเฟียตและทองคำอยู่ที่ข้อเท็จจริงที่ว่าเงินเฟียตเป็นเพียงภาพลวงตา ในขณะที่ทองคำเป็นสสาร ทองคำไม่ขึ้นอยู่กับคำสัญญาของใคร ไม่สามารถสร้างจากอากาศบางๆ ได้ และได้ผ่านการทดสอบของเวลาแล้ว ไม่ใช่เพราะรัฐบาลบังคับ แต่เพราะผู้คนเลือกมันอย่างอิสระซ้ำแล้วซ้ำเล่าข้ามวัฒนธรรมและศตวรรษต่างๆ

การวิเคราะห์นี้ชี้ให้เห็นว่าความมั่งคั่งที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องสูญหายไปพร้อมกับการพิมพ์เงินครั้งต่อไป เงินมั่นคงยังคงอยู่ในระยะที่เอื้อมถึงได้และจะเป็นเช่นนั้นต่อไป

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/05/22/fiat-vs-sound-money-why-gold-still-matters-in-a-world-of-paper-currency-004072