ปฏิบัติการจีนรอบไต้หวัน คือ 'ซ้อมรบจริง'

ผู้บัญชาการอินโด-แปซิฟิกสหรัฐฯชี้ ปฏิบัติการจีนรอบไต้หวัน คือ 'ซ้อมรบจริง' เตรียมพร้อมยึดครอง
5-6-2025
SCMP-ผู้บัญชาการระดับสูงของสหรัฐฯ ในภูมิภาคแปซิฟิกเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า ปักกิ่งกำลังเดินบน "เส้นทางอันตราย" และการปฏิบัติการทางทหารรอบไต้หวันไม่ใช่เพียงการฝึกซ้อมทั่วไป แต่เป็น "การซ้อมรบจริง" เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับปฏิบัติการในอนาคต
พลเรือเอกซามูเอล ปาปาโร ผู้บัญชาการกองบัญชาการภาคพื้นอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ กล่าวในสุนทรพจน์พิเศษที่งานนิทรรศการด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจัดโดยกลุ่มวิจัย Special Competitive Studies Project ว่า "เรากำลังเผชิญช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในอินโด-แปซิฟิก จีนกำลังอยู่บนเส้นทางที่อันตราย"
"การปฏิบัติการอย่างก้าวร้าวของจีนรอบไต้หวันไม่ใช่แค่การฝึกซ้อมธรรมดา แต่เป็นการซ้อมรบจริง" ปาปาโรกล่าวต่อ โดยไม่ได้อ้างอิงถึงความเป็นไปได้ในการยึดครองไต้หวันโดยตรง
ปักกิ่งถือว่าเกาะที่ปกครองตนเองแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของจีน และพร้อมจะรวมกลับคืนด้วยกำลังทหารหากจำเป็น ประเทศส่วนใหญ่รวมทั้งสหรัฐฯ ไม่ได้รับรองไต้หวันในฐานะรัฐอิสระ อย่างไรก็ตาม วอชิงตันคัดค้านความพยายามใดๆ ที่จะยึดครองไต้หวันด้วยกำลัง และยังคงมุ่งมั่นที่จะจัดหาอาวุธให้กับไต้หวัน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จีนแผ่นดินใหญ่จะเข้ายึดครองไต้หวัน โดยเจ้าหน้าที่และสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ มองว่าปี 2027 อาจเป็นช่วงเวลาสำคัญ และชี้ให้เห็นว่าภารกิจที่เพิ่มความถี่ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ที่บินข้ามเส้นกึ่งกลางช่องแคบไต้หวันเป็นสัญญาณของการรุกรานที่ทวีความรุนแรงขึ้น
ความตึงเครียดระหว่างไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ยังเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่วิลเลียม ไหล ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวันซึ่งปักกิ่งเรียกว่าเป็น "ผู้ทำลายสันติภาพ" เข้ารับตำแหน่ง
โดยไม่ได้ระบุชื่อประเทศใดโดยเฉพาะ ปาปาโรกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การรุกรานของจีนมีความซับซ้อนยิ่งขึ้นจาก "ความสัมพันธ์แบบพึ่งพาผลประโยชน์ต่างตอบแทนที่เพิ่มขึ้นระหว่างแกนอำนาจเผด็จการต่างๆ" ซึ่งเห็นได้จาก "การถ่ายทอดเทคโนโลยีและกิจกรรมทางทหารที่มีการประสานงานกัน" ล่าสุด เรือบรรทุกเครื่องบินซานตงของจีนได้เคลื่อนเข้าสู่เขตตอบโต้ของไต้หวันก่อนการซ้อมรบของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน
ผู้บัญชาการสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วง "จุดเปลี่ยนทางเทคโนโลยี" ที่มีความก้าวหน้าในด้านปัญญาประดิษฐ์ อาวุธความเร็วเหนือเสียง และเทคโนโลยีการผลิตแบบเพิ่มเติม (additive manufacturing) เขาเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนแนวทางเพื่อมุ่งเน้นความเร็วและนวัตกรรม
"เราต้องการการตอบสนองที่มีความเร็วเท่ากับการรบจริง ไม่ใช่แค่การตัดสินใจผ่านคณะกรรมการ" ปาปาโรกล่าว พร้อมเสริมว่าชุมชนวิทยาศาสตร์และภาคอุตสาหกรรมมีความสำคัญต่อ "การเปลี่ยนแปลงเร่งด่วน" ที่จำเป็น
ปาปาโร ซึ่งเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 ได้แสดงความคิดเห็นในลักษณะคล้ายกันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เคยเรียกจีน รัสเซีย และเกาหลีเหนือว่าเป็น "สามเหลี่ยมแห่งผู้ก่อปัญหา" คำกล่าวของเขาในวันจันทร์เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากการปิดการประชุม Shangri-La Dialogue ซึ่งในระหว่างการประชุมนั้น พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้ระบุว่าจีนเป็นภัยคุกคามและกล่าวว่าจีนต้องการ "เปลี่ยนแปลงสถานะเดิมของภูมิภาคอย่างถึงรากถึงโคน"
ปักกิ่งได้ประท้วงคำกล่าวของเฮกเซธ โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เฮกเซธจงใจเพิกเฉยต่อการเรียกร้องสันติภาพจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาค
เฮกเซธไม่ได้พบกับรัฐมนตรีกลาโหมจีน ตง จุน ซึ่งเลือกที่จะไม่เข้าร่วมการประชุมความมั่นคงประจำปีที่สิงคโปร์ สถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันได้โต้แย้งคำอธิบายของปาปาโรเกี่ยวกับการกระทำของจีนในไต้หวันเมื่อวันจันทร์ โฆษกหลิว เผิงหยู กล่าวว่า "สำหรับสถานการณ์ข้ามช่องแคบ ไม่มีปัจจัยใดที่ก่อให้เกิดความไม่มั่นคงมากไปกว่าการยั่วยุจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเพื่อ 'เอกราชของไต้หวัน' และการแทรกแซงจากกองกำลังต่างชาติ" และเสริมว่า "การฝึกซ้อมทางทหาร" ของจีนมีไว้เพื่อยับยั้ง "แผนการแบ่งแยกดินแดน"
"เราเรียกร้องให้ฝ่ายสหรัฐฯ หยุดโหมไฟในประเด็นไต้หวัน พฤติกรรมเช่นนี้จะส่งผลย้อนกลับที่เลวร้ายต่อสหรัฐฯ เอง" โฆษกสถานทูตจีนกล่าวทิ้งท้าย
---
IMCT NEWS
ที่มา https://sc.mp/8b53i?utm_source=copy-link&utm_campaign=3312807&utm_medium=share_widget