นายกรัฐมนตรีอินเดีย “โมดี” เผยสัมพันธ์จีน-อินเดียมีความก้าวหน้า บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน

20-8-2025

   นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ของอินเดีย กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับจีนมีความก้าวหน้า โดย “ยึดมั่นในหลักการเคารพผลประโยชน์และความอ่อนไหวของกันและกัน” คำกล่าวนี้มีขึ้นระหว่างที่ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน เดินทางมาเยือนกรุงนิวเดลี และเข้าพบกับผู้นำอินเดียที่บ้านพักของเขา

  ในแถลงการณ์จากรัฐบาลอินเดีย โมดีเน้นย้ำความสำคัญของการรักษาสันติภาพและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน พร้อมยืนยันว่าอินเดียยังคงยึดมั่นในการแก้ไขปัญหาเขตแดนอย่าง ยุติธรรม มีเหตุผล และเป็นที่ยอมรับร่วมกัน

   รัฐบาลนิวเดลีกล่าวว่า การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณชายแดนถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างสองประเทศ

จีน-อินเดียตกลงหลายประเด็นเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์

   ในระหว่างการเยือน 3 วันของหวัง อี้ ที่กรุงนิวเดลี เขาได้หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย สุพรมณยัม ไจศังกร และที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ อาเจย์ โดวัล ทั้งสองฝ่ายแสดงท่าทีว่า พวกเขาต้องการ “ก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากในความสัมพันธ์ระหว่างกัน”

   หลังการเจรจา อินเดียและจีนได้บรรลุข้อตกลงหลายประเด็น เช่น:

การปรับปรุงการบริหารจัดการชายแดน

การกลับมาเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างกัน “โดยเร็วที่สุด”

การฟื้นฟูการค้าข้ามพรมแดน

การสนับสนุนการดำรงตำแหน่งประธาน กลุ่ม BRICS ของกันและกันในปี 2026 และ 2027

จีนเชิญโมดีเข้าร่วมประชุม SCO ปลายเดือนนี้

   หวัง อี้ ซึ่งเป็นสมาชิกของโปลิตบูโร พรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้มอบจดหมายเชิญจากประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ให้โมดีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่เมือง เทียนจิน ในวันที่ 31 สิงหาคม

   โมดีโพสต์บนแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ว่าเขา “ตั้งตารอ” ที่จะได้พบกับประธานาธิบดีสีอีกครั้ง และยังแสดงการสนับสนุนตำแหน่งประธานของจีนในกลุ่มความร่วมมือยูเรเชียนี้ด้วย ทั้งสองผู้นำได้พบกันครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว ในการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ซึ่งนับเป็นการพบกันแบบทวิภาคีครั้งแรกหลังเหตุการณ์ปะทะชายแดนในปี 2020 ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตึงเครียด

    ในการพบปะกันที่เมืองคาซาน ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้แสดงท่าทีเห็นพ้องในการถอนกำลังออกจากพื้นที่ตึงเครียดตามแนวชายแดน และยืนยันความมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ หลังจากมีการเจรจาทั้งในระดับทหารและการทูตหลายรอบ ข้อเสนอหลายประการเพื่อผ่อนคลายข้อจำกัดทางการค้าและการลงทุนระหว่างอินเดียกับจีนเริ่มได้รับแรงสนับสนุนมากขึ้น โดยเฉพาะจากภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดลีได้ผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วนที่เคยประกาศใช้ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2020

ที่มา RT 

-------------------------

จีนจะผ่อนปรนการส่งออกแรร์เอิร์ธ ปุ๋ย และเครื่องเจาะอุโมงค์ให้อินเดีย

20-8-2025

    จีนได้แจ้งต่อรัฐบาลอินเดียว่า จะดำเนินการแก้ไขข้อกังวลทางเศรษฐกิจสำคัญหลายประการ รวมถึงการซับไพลวัสดุแรร์เอิร์ธ ปุ๋ย และเครื่องเจาะอุโมงค์ ตามรายงานจากสื่ออินเดียเมื่อวันอังคาร

   ตามรายงานของสำนักข่าว ANI รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ ได้ให้คำมั่นดังกล่าวระหว่างการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย สุบราแมนยัม ไจชังการ์ แหล่งข่าวในรัฐบาลอินเดียยังยืนยันพัฒนาการดังกล่าวกับสำนักข่าว RT ด้วย โดยหนังสือพิมพ์ The Economic Times รายงานว่า หวัง อี้ ได้บอกกับไจชังการ์ว่า ปักกิ่งได้เริ่มตอบสนองต่อคำร้องขอของอินเดียในหมวดสินค้าส่งออกทั้งสามประเภทแล้ว และระบุว่าการจัดส่งสินค้าได้เริ่มขึ้นแล้วด้วย

   หวัง อี้ กำลังอยู่ระหว่างการเยือนกรุงนิวเดลีเป็นเวลา 3 วัน โดยเขาจะเข้าร่วมการเจรจาเรื่องพรมแดนกับที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของอินเดีย อจิต โดวาล และจะพบกับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ด้วย

   จีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตแม่เหล็กแรร์เอิร์ธรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ประกาศจำกัดการส่งออกแรร์เอิร์ธชนิดปานกลางถึงหนัก 7 ชนิด และแม่เหล็กบางประเภท ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมการบิน ยานยนต์ และเซมิคอนดักเตอร์

    นอกจากนี้ สื่ออินเดียยังรายงานว่า จีนได้จำกัดการส่งออกปุ๋ยและเครื่องเจาะอุโมงค์มายังอินเดีย ส่งผลต่อภาคการเกษตรและโครงการโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ

   เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไจชังการ์กล่าวกับหวัง อี้ ว่า อินเดียต้องการความสัมพันธ์ที่ “มั่นคง ร่วมมือ และมองไปข้างหน้า” กับจีน

    สองประเทศที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกำลังพิจารณาขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางแรงกดดันจากภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดขึ้น ในถ้อยแถลงที่พาดพิงโดยนัยถึงภาษีของทรัมป์ หวัง อี้ บอกกับไจชังการ์ว่า โลกกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีการกลั่นแกล้งฝ่ายเดียวเพิ่มขึ้น และระบบการค้าเสรีและระเบียบโลกกำลังเผชิญภัยคุกคามอย่างมีนัยสำคัญ ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัว

    หวัง อี้ ยังกล่าวเรียกร้องให้อินเดียและจีนแสดงความรับผิดชอบในระดับโลก ทำหน้าที่ในฐานะมหาอำนาจ และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมโลกหลายขั้ว

ที่มา RT