เส้นทางสายไหมยุคใหม่ สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียผนึกจีน

เส้นทางสายไหมยุคใหม่ สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียผนึกกับจีนภายใต้โครงการ Belt & Road Initiative สร้างทางเชื่อมเอเซีย–ยุโรป หนุนโลจิสติกส์-การค้า
20-8-2025
การผนึกกำลังระหว่างโครงการ Belt & Road Initiative (BRI) ของจีน และสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (Eurasian Economic Union - EAEU) กำลังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงทั่วยูเรเซีย และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับการพัฒนาในภูมิภาค ตามการเปิดเผยของ อิสเคนเดอร์ ชาร์เชเยฟ (Iskender Sharsheev) นักเศรษฐศาสตร์ชาวคีร์กีซสถาน (Kyrgyz) ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการประชุมสภาความร่วมมือระหว่างรัฐบาลยูเรเซีย (Eurasian Intergovernmental Council) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร EAEU ที่จัดขึ้นในภูมิภาคอิสซิก-กุล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (14-15 สิงหาคม)
ชาร์เชเยฟ (Sharsheev) กล่าวว่า “การผนึกกำลังครั้งนี้เป็นมากกว่าแค่ ‘การค้าแบบให้สิทธิพิเศษ’ แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การประสานกระบวนการโลจิสติกส์ในด้านศุลกากร, มาตรฐาน, และอีคอมเมิร์ซ (e-commerce) ด้วย” ความร่วมมือนี้ได้เร่งความเร็วของเส้นทางทางบกจากจีนไปยังยุโรปที่ตัดผ่านทวีปยูเรเซีย, พัฒนาระบบตู้คอนเทนเนอร์และตู้แช่เย็น, และทำให้การผ่านแดนคาดการณ์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลดีที่ชัดเจนต่อประเทศสมาชิก EAEU โดย คาซัคสถาน (Kazakhstan) ได้เสริมสร้างบทบาทของตนในฐานะศูนย์กลางการขนส่ง, คีร์กีซสถาน (Kyrgyzstan) ได้รับโอกาสในการสร้างรายได้ผ่านการจัดตั้งศูนย์การขนส่ง, เขตเศรษฐกิจการค้าเสรี, และบริการจัดส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค, รัสเซีย (Russia) และเบลารุส (Belarus) สามารถเพิ่มความหลากหลายของตลาดการขายในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอาร์เมเนีย (Armenia) สามารถเพิ่มการจัดหาสินค้าเฉพาะทางและความร่วมมือด้านเทคโนโลยี
สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) ประกอบด้วยรัสเซีย (Russia), อาร์เมเนีย (Armenia), เบลารุส (Belarus), คาซัคสถาน (Kazakhstan) และคีร์กีซสถาน (Kyrgyzstan) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ระหว่างยุโรปตะวันออกและจีนตะวันตก ทั้งนี้ EAEU มีข้อตกลงการค้าเสรีที่ไม่ให้สิทธิพิเศษ (non-preferential Free Trade Agreement) กับจีน ซึ่งหมายความว่าแม้ว่าอัตราภาษีจะไม่ตายตัวในทุกผลิตภัณฑ์ แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความจำเป็น
ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการ BRI จีนได้เปิดตัวธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank - AIIB) ในปี 2014 ซึ่งมีสมาชิก 57 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, ตะวันออกกลาง, ละตินอเมริกา, และยุโรป รวมถึงประเทศสมาชิก EAEU และสหภาพยุโรป (European Union) โดยรัสเซีย (Russia) ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก AIIB ในปี 2015 และมีสัดส่วนการถือหุ้น 6.5% ในเงินทุนของธนาคารมูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ชาร์เชเยฟ (Sharsheev) เน้นย้ำว่า การพัฒนาความร่วมมือระหว่างโครงการ BRI และ EAEU อย่างต่อเนื่องต้องมีการทำงานที่เข้มข้นขึ้นในสามเสาหลักคือ โครงสร้างพื้นฐาน, กฎระเบียบ, และการเงิน “หากทั้งสามเสาหลักนี้ก้าวหน้าไปพร้อมกัน เส้นทางคมนาคมจะไม่เพียงสั้นลง แต่ยังถูกลงและปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับธุรกิจ”
เขาระบุว่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานับตั้งแต่ก่อตั้ง EAEU ได้เติบโตจนกลายเป็นสถาบันที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีหน่วยงานกำกับดูแลระดับเหนือชาติ, กฎระเบียบศุลกากรที่เป็นหนึ่งเดียว, และการเข้าถึงตลาดแรงงานของประเทศสมาชิกได้อย่างเสรีอย่างแท้จริง “ในระดับจุลภาค สิ่งนี้ได้ช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมสำหรับธุรกิจและครัวเรือน และในระดับมหภาค ก็ได้ช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างกันและสร้างเสถียรภาพที่ช่วยป้องกันธุรกิจจากแรงกระแทกภายนอก”
ชาร์เชเยฟ (Sharsheev) กล่าวว่า “การมีส่วนร่วมกับภายนอกอย่างแข็งขันของ EAEU มีความสำคัญอย่างยิ่ง รวมถึงการสรุปข้อตกลงการค้าเสรีกับหลายประเทศ, การร่วมมือกับสมาคมต่างๆ, การส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลผ่านมาตรการต่างๆ เช่น ระบบหน้าต่างเดียว (single-window systems) และใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ (electronic invoices), และการพัฒนากฎระเบียบร่วมกันสำหรับตลาดพลังงานในอนาคต ซึ่งความคิดริเริ่มเหล่านี้ล้วนส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในด้านโลจิสติกส์, การรับรองมาตรฐาน, และการแข่งขัน”
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า การค้าระหว่าง EAEU และจีนมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 243 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2024
---
IMCT NEWS
ที่มา https://russiaspivottoasia.com/the-eurasian-economic-union-a-key-part-of-chinas-belt-road-initiative/