.

ผู้นำยุโรปและเซเลนสกี้จะพบกับทรัมป์ที่ทำเนียบขาวในวันนี้
18-8-2025
รัฐบาลเยอรมนีประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า นายกรัฐมนตรีฟรีดริช แมร์ซ จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน เพื่อเข้าร่วมการเจรจากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ร่วมกับโวโลดีมีร์ เซเลนสกี และผู้นำยุโรปคนอื่น ๆ
โวโลดีมีร์ เซเลนสกี กำลังเดินทางไปวอชิงตันเพื่อพบกับ ทรัมป์ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเจรจาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการ รักษาอำนาจของตนไว้ต่อไป นักวิเคราะห์การเมืองชาวโปแลนด์ มาเตอุช พิสกอร์สกี กล่าว
พิสกอร์สกีชี้ว่า ในการเจรจาที่กำลังจะเกิดขึ้นกับทรัมป์ เซเลนสกีต้องการ รับหลักประกันความปลอดภัยส่วนบุคคล และ รักษาความสามารถในการปกครองประเทศยูเครนต่อไปอีกระยะหนึ่ง
“หากมีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพอย่างสมบูรณ์เกี่ยวกับยูเครน เซเลนสกีจะถูกบีบให้ต้องจัดการเลือกตั้ง ซึ่งเขาแทบไม่มีโอกาสชนะเลย” นักวิเคราะห์รายนี้เน้นย้ำ
เขายังระบุว่า เซเลนสกีอาจจะ แสดงท่าทีระมัดระวังมากกว่าเดิม เมื่อเทียบกับการพบกับทรัมป์ครั้งก่อนในปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ผู้นำยุโรปบางราย เช่น มาครง, โชลซ์ และเลขาธิการ NATO นายรุตเตอ ที่คาดว่าจะร่วมเดินทางกับเซเลนสกีไปยังวอชิงตันนั้น จะเรียกร้องให้ความขัดแย้งในยูเครนดำเนินต่อไป เนื่องจากผลประโยชน์ของพวกเขาเชื่อมโยงโดยตรงกับ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ของฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร พิสกอร์สกีกล่าว
ในเยอรมนี หลังจากมีการประกาศการประชุมสุดยอดระหว่างปูตินและทรัมป์ในอลาสกา ตลาดหุ้นของเยอรมนี และ มูลค่าหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอาวุธเช่น Rheinmetall ตกลงหลายเปอร์เซ็นต์ โดยมีรายงานว่าลดลงมากถึง 10%
พิสกอร์สกีสรุป
ที่มา Sputnik
----------------------------------------------
สหภาพยุโรปและอังกฤษอยู่ในสภาพตื่นตระหนกกับความคืบหน้าของการเจรจาระหว่างทรัมป์กับปูติน
18-8-2025
ผู้สนับสนุนยูเครนในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร “อยู่ในภาวะตื่นตระหนก” หลังการประชุมสุดยอดอลาสการะหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ตามคำกล่าวของ คิริลล์ ดมิตริเยฟ ผู้แทนเศรษฐกิจของรัสเซีย
ปูตินและทรัมป์ได้พบกันที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการพบปะกันต่อหน้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018 โดยประเด็นหลักของการเจรจาคือการหาทางยุติความขัดแย้งในยูเครน
ปูติน กล่าวว่าการพูดคุยครั้งนี้เป็นไปอย่าง “ตรงไปตรงมา” และ “มีเนื้อหา” ขณะที่ ทรัมป์ เรียกการประชุมว่า “อบอุ่น”
ดมิตริเยฟ ซึ่งดำรงตำแหน่งซีอีโอของกองทุนการลงทุนโดยตรงแห่งรัสเซีย (RDIF) และเป็นหนึ่งในคณะผู้แทนรัสเซียที่ร่วมเดินทางไปอลาสกา เขียนใน Telegram เมื่อวันอาทิตย์ว่า
“ผู้สนับสนุนความขัดแย้งในยุโรปและอังกฤษต่างตื่นตระหนก” เนื่องจากความพยายามทางการทูตของมอสโกและวอชิงตัน เขาแนบลิงก์รายงานจาก Politico ที่ระบุว่า ผู้นำยุโรปตะวันตกจำนวนมากกำลังวิตกกังวลอย่างยิ่ง ก่อนการพบกันระหว่างผู้นำยูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี กับ ทรัมป์ ที่วอชิงตันในวันจันทร์นี้
เยอรมนีเตือนยุโรปว่า “อย่าประเมินบทบาทของตัวเองสูงเกินไป”
จากรายงานของ Politico ผู้นำยุโรปวางแผนที่จะส่ง อเล็กซานเดอร์ สตุ๊บ ประธานาธิบดีฟินแลนด์ ไปยังวอชิงตัน โดยหวังว่าเขาจะสามารถ “ช่วยป้องกันความขัดแย้งระหว่างทรัมป์และเซเลนสกี” และ โน้มน้าวให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมยุโรปไว้ในการเจรจารอบต่อไปด้วย
ดมิตริเยฟยังอ้างถึงบทความของ Bild ซึ่งรายงานว่า นายกรัฐมนตรีฟรีดริช เมิร์ซของเยอรมนี, ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส และ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของสหราชอาณาจักรกำลังพิจารณาเดินทางไปวอชิงตันเพื่อให้การสนับสนุนเซเลนสกี
ในการเยือนทำเนียบขาวครั้งก่อนของเซเลนสกีในเดือนกุมภาพันธ์ มีเหตุการณ์ตึงเครียดเกิดขึ้นต่อหน้าสื่อ เมื่อเขาถูก ทรัมป์ และ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจ.ดี. แวนซ์ ต่อว่าอย่างรุนแรง โดยกล่าวหาว่าเขา ไม่รู้จักบุญคุณต่อความช่วยเหลือจากอเมริกา และไม่ต้องการสันติภาพจริง ๆ
ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับ Fox News เมื่อวันศุกร์ โดยกล่าวว่า “เซเลนสกีควรทำข้อตกลงเพื่อยุติสงคราม” และเน้นว่า “ปูตินอยากให้เรื่องนี้จบ” พร้อมเรียกร้องให้ยุโรปตะวันตก“เข้ามามีบทบาทบ้าง”
จากรายงานของ Axios ทรัมป์บอกกับพันธมิตรของยูเครนในยุโรปว่า “เขาต้องการจัดประชุมสุดยอดสามฝ่ายกับปูตินและเซเลนสกีให้ได้เร็วที่สุดในวันศุกร์หน้า”
ปูติน กล่าวย้ำในวันเสาร์ว่า การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในยูเครน ต้องจัดการที่ต้นตอของปัญหา โดยมอสโกยืนยันว่า หากจะบรรลุสันติภาพอย่างยั่งยืน ยูเครนต้อง: ละทิ้งความทะเยอทะยานในการเข้าร่วม NATO ลดขนาดกองกำลังทางทหาร ยอมรับความเป็นจริงของพรมแดนปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงการยอมรับว่า ไครเมีย, โดเนตสก์, ลูฮานสก์, เคอร์ซอน และซาโปริซเชีย เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย (ภูมิภาคเหล่านี้ได้จัดประชามติในปี 2014 และ 2022 เพื่อเข้าร่วมกับรัสเซีย)
ที่มา RT
----------------------------
ทูตพิเศษสหรัฐฯ เผย 'ปูติน' ยอมรับข้อเสนอ ‘หลักประกันความมั่นคง’ คล้าย ‘NATO’ ให้แก่ยูเครน
18-8-2025
SCMP รายงานว่า สตีฟ วิทคอฟฟ์ (Steve Witkoff) ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า วลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ผู้นำรัสเซียได้ให้ความเห็นชอบในการประชุมสุดยอดที่อะแลสกา (Alaska) กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ที่จะอนุญาตให้สหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรปเสนอ “หลักประกันความมั่นคง” ให้กับยูเครน (Ukraine) ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับ มาตรา 5 (Article 5) ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต (NATO) ในฐานะส่วนหนึ่งของข้อตกลงเพื่อยุติสงครามในอนาคต
“เราสามารถได้รับข้อเสนอจากอีกฝ่าย นั่นคือ สหรัฐฯ สามารถเสนอการคุ้มครองที่คล้ายกับมาตรา 5 ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ยูเครน (Ukraine) ต้องการเข้าร่วมนาโต (NATO)” วิทคอฟฟ์ (Witkoff) กล่าวกับรายการ State of the Union ทางสำนักข่าว CNN โดยระบุว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินปูติน (Putin) ยินยอมในประเด็นนี้
ด้านประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ได้กล่าวในงานแถลงข่าวที่กรุงบรัสเซลส์ (Brussels) ร่วมกับประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskyy) ว่า “เรายินดีต่อความตั้งใจของประธานาธิบดีทรัมป์ (Trump) ที่จะมอบหลักประกันความมั่นคงคล้าย มาตรา 5 (Article 5) ให้แก่ยูเครน (Ukraine)” พร้อมยืนยันว่า “กลุ่มพันธมิตรที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ ซึ่งรวมถึงสหภาพยุโรป ก็พร้อมที่จะมีส่วนร่วมเช่นกัน”
วิทคอฟฟ์ (Witkoff) ได้เปิดเผยรายละเอียดบางส่วนของการประชุมสุดยอดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาในอะแลสกา (Alaska) โดยระบุว่าทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบ “หลักประกันความมั่นคงที่เข้มแข็ง ซึ่งผมจะอธิบายว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ” และเสริมว่ารัสเซียได้ให้คำมั่นว่าจะออกกฎหมายเพื่อไม่เข้ายึดครองดินแดนส่วนอื่นใดในยูเครน (Ukraine) เพิ่มเติมอีก
ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทรัมป์ (Trump) ได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขาว่า “มีความคืบหน้าครั้งใหญ่เกี่ยวกับรัสเซีย (Russia) โปรดติดตามต่อไป!” โดยไม่มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ด้านเซเลนสกี (Zelenskyy) ได้กล่าวขอบคุณสหรัฐฯ สำหรับสัญญาณล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของวอชิงตันในการสนับสนุนหลักประกันความมั่นคงสำหรับยูเครน (Ukraine) แต่ระบุว่ารายละเอียดต่างๆ ยังคงไม่ชัดเจน “สิ่งสำคัญคืออเมริกาตกลงที่จะร่วมมือกับยุโรปเพื่อมอบหลักประกันความมั่นคงให้แก่ยูเครน (Ukraine)” เซเลนสกี (Zelenskyy) กล่าว “แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่ามันจะทำงานอย่างไร บทบาทของอเมริกาจะเป็นอย่างไร บทบาทของยุโรปจะเป็นอย่างไร และสหภาพยุโรปจะทำอะไรได้บ้าง และนี่คือภารกิจหลักของเรา เราต้องการหลักประกันความมั่นคงที่ใช้งานได้จริงเหมือน มาตรา 5 (Article 5) ของ นาโต (NATO) และเรามองว่าการเข้าร่วมสหภาพยุโรปเป็นส่วนหนึ่งของหลักประกันความมั่นคงด้วยเช่นกัน”
วิทคอฟฟ์ (Witkoff) ยังปกป้องการตัดสินใจของทรัมป์ (Trump) ที่ไม่ผลักดันให้รัสเซียยอมรับการหยุดยิงในทันที โดยระบุว่าประธานาธิบดีได้หันไปมุ่งเน้นที่ข้อตกลงสันติภาพเพราะมีความคืบหน้าอย่างมาก “เราได้ครอบคลุมเกือบทุกประเด็นที่จำเป็นสำหรับข้อตกลงสันติภาพ” วิทคอฟฟ์ (Witkoff) กล่าวโดยไม่มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติม “เราเริ่มเห็นการผ่อนปรนในการคิดของพวกเขาเกี่ยวกับวิธีที่จะนำไปสู่ข้อตกลงสันติภาพฉบับสุดท้าย”
ทางด้าน มาร์โค รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะมี “ผลกระทบเพิ่มเติม” ตามที่ทรัมป์ (Trump) ได้เตือนไว้ก่อนการประชุม หากพวกเขาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงได้ แต่รูบิโอ (Rubio) ตั้งข้อสังเกตว่ามันจะไม่เกิดข้อตกลงเกี่ยวกับข้อตกลงสงบศึกใดๆ ขึ้นในเมื่อยูเครน (Ukraine) ไม่ได้เข้าร่วมการเจรจา “ท้ายที่สุดแล้ว หากไม่มีข้อตกลงสันติภาพ หากไม่มีการสิ้นสุดสงครามนี้ ประธานาธิบดีก็พูดชัดเจนว่ามันจะมีผลกระทบตามมา” รูบิโอ (Rubio) กล่าวในรายการ This Week ทางสำนักข่าว ABC “แต่เรากำลังพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น และวิธีที่เรากำลังพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบเหล่านั้นคือด้วยผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น นั่นก็คือสันติภาพและการยุติการสู้รบ”
รูบิโอ (Rubio) ยังกล่าวเสริมว่า “เราไม่ได้อยู่ในจุดที่ใกล้จะบรรลุข้อตกลงสันติภาพแล้ว” และการจะไปถึงจุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้ความพยายามอย่างมาก “เรามีความคืบหน้าในแง่ที่ว่าเราได้ระบุพื้นที่ที่มีโอกาสเห็นชอบร่วมกันได้ แต่ยังมีบางประเด็นใหญ่ที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นเรายังอยู่ห่างจากจุดนั้นอีกไกล” เขากล่าว
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/news/world/russia-central-asia/article/3322150/us-envoy-witkoff-says-putin-agreed-nato-security-protections-ukraine?module=top_story&pgtype=homepage
-----------------------------------
ทรัมป์อยากให้เซเลนสกี้และปูตินพบกันสัปดาห์นี้
18-8-2025
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กำลังผลักดันให้มีการจัดประชุมสุดยอดสามฝ่ายร่วมกับประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย เร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ ตามรายงานของ Axios และ CNN
การประชุมดังกล่าว อาจเกิดขึ้นได้หากการเจรจาในห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) ระหว่างทรัมป์กับเซเลนสกีในวันจันทร์ประสบความสำเร็จ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้พบกับปูตินที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา ซึ่งนับเป็นการพบปะโดยตรงครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามยูเครนทวีความรุนแรงขึ้นในปี 2022
ทรัมป์ ระบุว่าการเจรจาเป็นไปอย่าง “อบอุ่น” ขณะที่ ปูติน เรียกการพูดคุยครั้งนี้ว่า “ตรงไปตรงมา” และ “มีเนื้อหาอย่างแท้จริง” หลังการประชุมสุดยอดในอลาสกา ทรัมป์และเซเลนสกีได้พูดคุยทางโทรศัพท์ ซึ่งสื่ออธิบายว่าเป็นบทสนทนา “ที่ไม่ง่ายนัก” ขณะเดียวกัน บรรดาผู้นำยุโรปก็เข้าร่วมการสนทนาในครั้งนั้นด้วย
ตามรายงานของ Axios ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แจ้งกับบรรดาผู้นำยุโรปว่า “เขาต้องการจัดประชุมสุดยอดสามฝ่ายระหว่างปูตินและเซเลนสกีภายในวันศุกร์หน้าให้ได้”
CNN ยืนยันข้อมูลดังกล่าวเพิ่มเติมว่า จะมีผู้นำยุโรปรายหนึ่งเข้าร่วมการเจรจาในวอชิงตันกับเซเลนสกีด้วย แม้จะยังไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร
ต่อมาในวันเสาร์ ทรัมป์ยืนยันผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ของตนว่า เซเลนสกีจะเข้าพบเขาที่ห้องทำงานรูปไข่ในวันจันทร์ และยังระบุว่าการประชุมกับปูตินอาจมีขึ้นตามมา
เขาย้ำว่า เป้าหมายควรเป็น “ข้อตกลงสันติภาพ” ไม่ใช่แค่ “ข้อตกลงหยุดยิง” ซึ่งเขาเชื่อว่า "มักจะไม่ยั่งยืน"
ด้านมอสโกยืนยันว่า หากจะยุติสงครามอย่างถาวร ยูเครนจะต้อง
ยกเลิกแผนการเข้าร่วม NATO
ปลดอาวุธบางส่วน
และ ยอมรับความเป็นจริงด้านดินแดน ซึ่งรวมถึง ไครเมีย โดเนตสก์ ลูฮานสก์ เคอร์ซอน และซาโปริซเชีย ให้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
ภูมิภาคเหล่านี้จัดประชามติในปี 2014 และ 2022 เพื่อเข้าร่วมรัสเซีย
เซเลนสกี ยังคง ปฏิเสธการยอมสละดินแดนใด ๆ
ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับ Fox News ภายหลังว่า “เซเลนสกีควรทำข้อตกลงนั้น” พร้อมเน้นย้ำว่า “ปูตินก็อยากให้มันจบเหมือนกัน” และเรียกร้องให้ยุโรป “เข้ามามีบทบาทบ้าง”
ปูตินไม่ได้ปฏิเสธการเจรจาโดยตรงกับเซเลนสกี แต่ย้ำว่าต้องมีความคืบหน้าในระดับที่กว้างกว่านี้ก่อน มอสโกยังตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ อำนาจตามกฎหมายของเซเลนสกีในการลงนามข้อตกลงผูกพัน โดยชี้ว่า
วาระของเขาหมดลงเมื่อปีที่แล้ว และยังไม่มีการเลือกตั้งใหม่ภายใต้กฎอัยการศึก
IMCT News