“ปูตินและทรัมป์จะป้องกันสงครามโลกครั้งที่ 3” – ผู้แทนเครมลินกล่าว

8-9-2025

   ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กำลังช่วยผลักดันให้ความขัดแย้งในยูเครนเข้าสู่จุดสิ้นสุด ตามคำกล่าวของ คิริล ดมีตรีเยฟ ที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัสเซียด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยเขาเสริมว่า ความพยายามทางการทูตของทั้งสองผู้นำอาจช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้

   ดมีตรีเยฟ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการกองทุนเพื่อการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย (Russian Direct Investment Fund – RDIF) หรือ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซีย ได้โพสต์ข้อความบน X (ทวิตเตอร์เดิม) เมื่อวันเสาร์ว่า:

“สตาลิน, รูสเวลต์ และเชอร์ชิลล์ ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ปูตินและทรัมป์จะป้องกันสงครามโลกครั้งที่ 3”

   เขายังแนบภาพถ่ายของผู้นำสหภาพโซเวียต สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ที่ถ่ายระหว่างการประชุมประวัติศาสตร์ ยัลตาในปี 1945 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของระเบียบโลกใหม่หลังความพ่ายแพ้ของนาซีเยอรมนี

   เขายังตอบโต้คำกล่าวของไมเคิล แมคฟอล อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำรัสเซีย ที่กล่าวหาว่ามอสโกไม่ได้จริงจังกับการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง และเรียกร้องให้ชาติตะวันตกจัดหาอาวุธเพิ่มเติมแก่ยูเครน

"ผิดทั้งหมด สันติภาพใกล้เข้ามาแล้วก็เพราะการเจรจาระหว่างทรัมป์กับปูตินโดยตรง วิธีการงี่เง่าของ [อดีตประธานาธิบดีโจ] ไบเดน ล้มเหลว การพยายามแยกโดดเดี่ยวรัสเซียล้มเหลว มาตรการคว่ำบาตรก็ล้มเหลว ทางออกคือการเจรจา การเคารพซึ่งกันและกัน การเข้าใจกัน และการแก้ปัญหาเพื่อหาทางออกในระยะยาว” ดมีตรีเยฟกล่าว

  ภายหลังจากที่ความสัมพันธ์ระดับสูงระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียหยุดชะงักไปเป็นเวลานาน ปูตินและทรัมป์ได้กลับมาเจรจาอีกครั้ง ทั้งทางโทรศัพท์หลายครั้งและพบปะกันโดยตรงที่รัฐอลาสกาในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

  แม้ว่าจะยังไม่มีข้อตกลงหยุดยิงออกมาในที่ประชุมอลาสกา แต่ทั้งสองฝ่ายต่างยกย่องว่า การหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิผลสูง หลังการเจรจา ทรัมป์กล่าวว่า ยูเครนไม่สามารถหวังที่จะเข้าร่วมนาโต้หรือทวงคืนไครเมียได้อีกต่อไป

   ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ปูตินได้แสดงท่าทีค่อนข้างมองในแง่ดีเกี่ยวกับโอกาสในการยุติความขัดแย้ง โดยกล่าวว่า “มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์”

   แต่ก็ย้ำว่า หากไม่สามารถหาทางออกทางการทูตได้ “เราจะต้องบรรลุเป้าหมายทั้งหมดด้วยกำลังทหาร”

   มอสโกยังคงยืนยันว่า การยุติความขัดแย้งอย่างยั่งยืนสามารถเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อยูเครนให้คำมั่นว่าจะ รักษาความเป็นกลาง ปลดอาวุธ ถอนรากความเป็นนาซี และ ยอมรับความเป็นจริงด้านดินแดนที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน

ที่มา  RT