ทรัมป์ เตรียมเก็บภาษีผู้ซื้อน้ำมันรัสเซียถึง 100% หาก EU ร่วมมือ หวังกดดันปูติน

11-9-2025

   Yahoo finance รายงานว่า สหรัฐฯ พร้อมใช้มาตรการภาษีกับจีนและอินเดีย เพื่อกดดันรัสเซีย สหรัฐฯ พร้อมที่จะขยายมาตรการภาษีที่กำหนดเป้าหมายไปยังผู้ซื้อน้ำมันของรัสเซีย หากสหภาพยุโรป (EU) ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน เพื่อสกัดกั้นรายได้ที่กรุงมอสโก (Moscow) ใช้ในการทำสงครามในยูเครน (Ukraine) เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพี (AFP) เมื่อวันอังคาร

   ในระหว่างการหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้หยิบยกความเป็นไปได้ในการใช้มาตรการภาษีในอัตราระหว่าง 50-100% กับผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ เช่น จีน และอินเดีย ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณะ

   การหารือครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ นายเดวิด โอซัลลิแวน (David O'Sullivan) ทูตพิเศษด้านมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นผู้นำในการประสานงานกับประชาคมโลกเพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของกรุงมอสโก (Moscow) ได้นำคณะผู้แทนเข้าร่วมการประชุมในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ (Trump) ได้เข้าร่วมการหารือเมื่อวันอังคารพร้อมกับนายกรัฐมนตรีของยูเครน (Ukraine)

"แหล่งเงินทุนสำหรับเครื่องจักรสงครามของรัสเซียมาจากการซื้อน้ำมันของจีนและอินเดีย" เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวกล่าว "หากคุณไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ก็ไม่มีทางที่จะหยุดเครื่องจักรสงครามนี้ได้เลย"

   ผู้เข้าร่วมการหารือยังรวมถึง นายสกอตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และกระทรวงการต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐบาลเน้นย้ำว่า แม้ทรัมป์ (Trump) จะ "พร้อมที่จะดำเนินการ" แต่เขาก็เชื่อว่า "สหภาพยุโรป (EU) จะต้องอยู่เคียงข้างเรา"

ความท้าทายจากภายในและภายนอก: การต่อต้านทางการเมืองและข้อกังขาเรื่องความร่วมมือ

   เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อีกรายกล่าวถึงร่างกฎหมายที่ได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสมาชิก 85 คน ซึ่งจะมอบอำนาจให้ทรัมป์ (Trump) สามารถกำหนดภาษีรอง (secondary tariffs) กับประเทศที่ทำการค้ากับรัสเซียได้ แต่ก็ได้ตั้งคำถามว่า รัฐสภายุโรป "มีความตั้งใจทางการเมือง" ที่จะเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจผ่านภาษีหรือไม่

   นอกเหนือจากมาตรการภาษี ซึ่งเป็นทางเลือกที่ทรัมป์ (Trump) ชื่นชอบ เจ้าหน้าที่ยังหารือกันเกี่ยวกับประเด็นสินทรัพย์ของรัฐบาลรัสเซียที่ถูกอายัดไว้

   เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทรัมป์ (Trump) ได้ขู่ว่าจะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หลังจากที่เครมลิน (Kremlin) ได้ระดมยิงทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ใส่ยูเครน (Ukraine) นอกจากนี้ เขายังเคยขู่ว่าจะลงโทษประเทศที่ซื้อน้ำมันของรัสเซีย เพื่อพยายามตัดแหล่งรายได้หลักสำหรับสงครามของผู้นำรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) แต่จนถึงตอนนี้ เขาก็ได้ดำเนินการกับอินเดียเท่านั้นด้วยมาตรการคว่ำบาตรรอง

   "เราต้องการเอาจริง เราต้องการให้สงครามนี้จบลง ดังนั้นเราจึงกระตุ้นให้เพื่อนชาวยุโรปของเราเดินหน้าอย่างเต็มที่" เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคาร

   ปัจจุบัน สหภาพยุโรป (EU) กำลังเตรียมมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ ซึ่งถือเป็นรอบที่ 19 นับตั้งแต่การรุกรานเมื่อปี 2022 และได้กล่าวว่า มาตรการเหล่านี้ควรจะรวมถึงมาตรการคว่ำบาตรรองเพิ่มเติมที่กำหนดเป้าหมายไปยังประเทศที่ช่วยให้รัสเซียหลีกเลี่ยงการลงโทษได้

   แหล่งข่าวทางการทูตกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เยอรมนี (Germany) และฝรั่งเศส (France) กำลังผลักดันให้กำหนดเป้าหมายคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซียอย่าง Lukoil ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหภาพยุโรป (EU)

  หลังจากการประชุมเมื่อวันจันทร์ นายเบสเซนต์ (Bessent) ได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X ว่า "ทุกทางเลือกยังคงอยู่บนโต๊ะ" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของทรัมป์ (Trump) ในการสนับสนุนการเจรจาสันติภาพระหว่างกรุงมอสโก (Moscow) และกรุงเคียฟ (Kyiv) ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการหารือเมื่อวันอังคาร

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.yahoo.com/news/articles/trump-ready-match-eu-tariffs-213133807.html