ปธน.ฝรั่งเศส นำคณะ ครม.และ CEO เยือนปักกิ่ง
ปธน.ฝรั่งเศส นำคณะ ครม.และ CEO เยือนปักกิ่ง ดันดีลนิวเคลียร์– Airbus–สินค้าเกษตร ท่ามกลางแรงกดดันการค้าระหว่างจีน–ยุโรป
4-12-2025
SCMP รายงานว่า ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) แห่งฝรั่งเศส (France) เดินทางถึงกรุงปักกิ่ง (Beijing) เพื่อเยือนจีน (China) เป็นเวลาสามวันในวันพุธนี้ โดยการเดินทางครั้งนี้เขาไม่ได้มาเพียงลำพัง นอกเหนือจากภริยา บริจิตต์ (Brigitte) แล้ว ผู้นำฝรั่งเศส (French leader) ยังนำคณะผู้แทนกว่า 80 คน ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีหลายคน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) เกือบ 40 คน จากโลกธุรกิจมาร่วมด้วย
แม้ว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีน (China) และยุโรป (Europe) จะเพิ่มสูงขึ้น แต่รายชื่อแขกจำนวนมากนี้บ่งชี้ว่า มาครง (Macron) เดินทางมายังปักกิ่ง (Beijing) โดยมุ่งเน้นการทำธุรกิจ และเป็นสัญญาณที่บอกใบ้ถึงลำดับความสำคัญของฝรั่งเศส (France) นี่คือประเด็นสำคัญที่น่าจับตาสำหรับการทำข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้น โดยอิงจากรายงานและรายชื่อคณะผู้แทนที่เผยแพร่โดยปารีส (Paris) เมื่อวันอังคาร
ความร่วมมือด้านพลังงานที่พุ่งทะยาน
ทำเนียบเอลิเซ่ (Elysee Palace) ซึ่งเป็นสำนักงานประธานาธิบดีฝรั่งเศส (French presidential office) ได้ระบุอย่างชัดเจนระหว่างการแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าที่จะลงนามในข้อตกลงในภาคพลังงาน เมื่อ มาครง (Macron) พบกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ของจีน (China) ในวันพฤหัสบดีนี้
แหล่งข่าวจากทำเนียบเอลิเซ่ (Elysee Palace) เปิดเผยกับสื่อเมื่อวันอังคารโดยไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากบรรทัดฐานทางวิชาชีพในฝรั่งเศส (France) ว่า “รายชื่อข้อตกลงยังคงอยู่ระหว่างการเจรจา และเรากำลังทำงานต่อเนื่องเกี่ยวกับข้อตกลงหลายฉบับในด้านพลังงาน”
ในบรรดา CEO ที่ร่วมเดินทางกับ มาครง (Macron) ไปยังจีน (China) จะมี นายแบร์นาร์ด ฟองตานา (Bernard Fontana) หัวหน้าของ Electricite de France (EDF) ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัฐบาลฝรั่งเศส (France) ที่รับผิดชอบในการสร้างและดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (nuclear power plants) ของประเทศ
EDF ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือพิเศษกับ China National Nuclear Corporation (CNNC) เพื่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขั้นสูงในปี 2024 โดยตามรายงานของ CNNC บริษัททั้งสองได้ให้คำมั่นที่จะทำงานร่วมกันเพื่อ “ช่วยให้ทั้งสองประเทศบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality goals)”
เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านพลังงานสะอาดของฝรั่งเศส (France) ทาง EDF มีแผนจะสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (nuclear reactors) เพิ่มเติมในประเทศอย่างรวดเร็ว โดยตั้งเป้าให้เสร็จสิ้นภายในเวลาน้อยกว่า 70 เดือน สื่อฝรั่งเศส (French media) รายงานอย่างกว้างขวางว่า EDF กำลังมองจีน (China) เป็นเกณฑ์มาตรฐานเพื่อเร่งรัดกรอบเวลาการก่อสร้างของตนเอง ทั้งนี้ หน่วยที่ 2 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จางโจว (Zhangzhou nuclear power plant) ซึ่งเป็นส่วนเพิ่มเติมล่าสุดในภาคพลังงานนิวเคลียร์ของจีน (China) ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 62 เดือน ตามรายงานของ CNNC
แรงผลักดันครั้งใหม่สำหรับข้อตกลง Airbus?
มีการคาดการณ์มานานแล้วว่า จีน (China) กำลังจะสั่งซื้อเครื่องบินจำนวนมากจาก Airbus ยักษ์ใหญ่ด้านการบินของยุโรป (European aviation giant) ซึ่งอาจรวมถึงเครื่องบินใหม่ระหว่าง 100 ถึง 200 ลำ
นายกิโยม โฟรี (Guillaume Faury) CEO ของ Airbus ก็มีรายชื่ออยู่ในกลุ่มผู้นำธุรกิจที่ร่วมคณะของ มาครง (Macron) แหล่งข่าวจากทำเนียบเอลิเซ่ (Elysee Palace) อีกรายกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ปักกิ่ง (Beijing) และปารีส (Paris) จะลงนามในข้อตกลงในด้านการขนส่ง โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของ นายโฟรี (Faury) ในคณะผู้แทนไม่ได้บ่งชี้ว่าข้อตกลงใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในทันที CEO ของ Airbus ก็เคยเดินทางมาพร้อมกับ มาครง (Macron) ในการเยือนจีน (China) ครั้งล่าสุดในปี 2023 เช่นกัน ซึ่งไม่มีการประกาศข้อตกลงใด ๆ ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายระหว่างการเยือนฝรั่งเศส (France) ของ สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ในปี 2019 โดยจีน (China) ได้ประกาศซื้อเครื่องบิน Airbus 300 ลำ
ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรก็มีแนวโน้มที่จะเป็นหัวข้อหลักของการเจรจา โดยมีผู้นำหลายคนจากภาคส่วนนี้ รวมถึง นางแอนนี่ เจเนวาร์ด (Annie Genevard) รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของฝรั่งเศส (France’s agriculture minister) ที่เตรียมเข้าร่วมคณะของ มาครง (Macron) ในจีน (China)
นางเจเนวาร์ด (Genevard) ได้พบกับ นายเติ้ง หลี่ (Deng Li) เอกอัครราชทูตจีน (China’s ambassador) ประจำฝรั่งเศส (France) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทั้งสองตกลงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อนำผลิตภัณฑ์จาก “ฟาร์มฝรั่งเศส (French farm) สู่โต๊ะจีน (Chinese table)” ตามโพสต์บนโซเชียลมีเดียจากสถานทูตจีน (Chinese embassy)
ปัจจุบัน จีน (China) กำลังดำเนินการสอบสวนผลิตภัณฑ์เนื้อหมูและผลิตภัณฑ์นมของยุโรป (European pork and dairy products) บางรายการ และแหล่งข่าวจากทำเนียบเอลิเซ่ (Elysee source) กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ทั้งสองฝ่ายจะหารือเกี่ยวกับการสอบสวนดังกล่าวในระหว่างการเดินทางของ มาครง (Macron)
บุคคลสำคัญจากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมของฝรั่งเศส (France’s meat and dairy industry) อยู่ในคณะผู้แทนของ มาครง (Macron) ด้วย รวมถึง นายฟรองซัวส์-ซาเวียร์ ฮูอาร์ด (Francois-Xavier Huard) ประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์นมแห่งชาติฝรั่งเศส (French National Federation of the Dairy Industry) และ นายแมกแซนซ์ บิการ์ด (Maxence Bigard) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของ Bigard Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตเนื้อสัตว์ชั้นนำของประเทศ
ก่อนหน้านี้ ปารีส (Paris) ได้เจรจาประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหามาตรการต่อต้านการทุ่มตลาด (anti-dumping duties) ของปักกิ่ง (Beijing) ที่มุ่งเป้าไปที่เหล้าคอนญักฝรั่งเศส (French cognac) เมื่อต้นปีนี้ สำหรับปักกิ่ง (Beijing) เอง ก็ได้ผลักดันให้ยุโรป (Europe) ลดภาษีต่อต้านการอุดหนุน (anti-subsidy tariffs) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของจีน (Chinese electric vehicles) ซึ่งฝรั่งเศส (France) ลงมติสนับสนุน
ความหวังสูงสำหรับ แพนด้า
มีรายงานว่า นายโรดอลฟ์ เดลอร์ (Rodolphe Delord) หัวหน้าสวนสัตว์ Beauval ZooParc ก็เป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้แทนด้วย สวนสัตว์ดังกล่าวได้ส่งแพนด้ายักษ์สองตัว คือ ฮวน ฮวน (Huan Huan) และ หยวน ซื่อ (Yuan Zi) กลับไปยังจีน (China) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แพนด้าทั้งสองใช้เวลา 13 ปีในฝรั่งเศส (France) แต่ตอนนี้กำลังเดินทางกลับเพื่อรับการรักษาพยาบาลเฉพาะทาง เนื่องจาก ฮวน ฮวน (Huan Huan) ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะไตวาย
มีกำหนดการว่า มาครง (Macron) จะเดินทางไปเยือนเฉิงตู (Chengdu) ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์เพาะพันธุ์แพนด้ายักษ์ของจีน (China’s giant panda breeding centre) ระหว่างการเดินทางครั้งนี้ นำไปสู่การคาดการณ์ว่าประธานาธิบดีอาจบรรลุข้อตกลงเพื่อนำแพนด้าใหม่สองตัวมายังฝรั่งเศส (France) นายเฉิน ตง (Chen Dong) รัฐมนตรีประจำสถานทูตจีน (Chinese embassy) ในฝรั่งเศส (France) สัญญาว่าจะมีแพนด้าใหม่มาถึง "ในอนาคต" ขณะที่เขาไปส่ง ฮวน ฮวน (Huan Huan) และ หยวน ซื่อ (Yuan Zi) ที่สนามบินปารีส ชาร์ล เดอ โกล (Paris Charles de Gaulle Airport) เมื่อวันอังคารที่แล้ว ตามรายงานของสื่อฝรั่งเศส (French media reports)
>ผู้ผลิตรถยนต์ขาดหายไปอย่างเห็นได้ชัด<
เป็นครั้งที่สองติดต่อกันที่ผู้บริหารจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์อย่าง Renault และ Stellantis ไม่มีชื่ออยู่ในรายชื่อคณะผู้แทนฝรั่งเศส (French delegation list) การขาดหายไปนี้สะท้อนให้เห็นถึงการถอนตัวของแบรนด์ฝรั่งเศส (French brands) จากตลาดจีน (Chinese market) โดยทั้งสองบริษัทหันไปมุ่งเน้นหาวิธีอื่นเพื่อคว้าโอกาสจากกระแสรถยนต์ไฟฟ้า (electric vehicle boom) ของจีน (China)
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Twingo ของ Renault มีกำหนดจะเข้าสู่ตลาดฝรั่งเศส (French market) ในต้นปีหน้า โดยมีราคาต่ำกว่า 20,000 ยูโร (23,250 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งเป็นไปได้ส่วนใหญ่เนื่องมาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทในเซี่ยงไฮ้ (Shanghai) ซึ่งพัฒนารถรุ่นนี้ในเวลาไม่ถึงสองปี ขณะที่โรงงานผลิตแบตเตอรี่มูลค่า 4.1 พันล้านยูโรของ Stellantis ในภาคเหนือของสเปน (Spain) ซึ่งร่วมลงทุนกับ CATL ยักษ์ใหญ่ของจีน (Chinese giant) ได้เริ่มการก่อสร้างไปเมื่อวันพุธที่แล้ว
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/economy/global-economy/article/3335036/pandas-nuclear-power-what-macron-wants-his-trip-china?module=flexi_unit-focus&pgtype=homepage