ปูตินกับทรัมป์ปรารถนายุติความขัดแย้งในยูเครน

Thailand
ปูตินกับทรัมป์มีความปรารถนาร่วมกันในการยุติความขัดแย้งในยูเครน
22-9-2025
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน "ให้คุณค่ากับความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์" กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โฆษกทำเนียบเครมลิน ดมิทรี เพสคอฟ กล่าว พร้อมเสริมว่าผู้นำทั้งสองต้องการเห็นความขัดแย้งในยูเครนเดินหน้าไปสู่การแก้ไขอย่างสันติ
ในการให้สัมภาษณ์กับนักข่าว พาเวล ซารูบิน ซึ่งออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ เพสคอฟกล่าวว่าปูตินชื่นชมความสามารถของทั้งสองผู้นำในการ “หารือกันอย่างเปิดเผยในประเด็นเร่งด่วนและละเอียดอ่อนที่สุด”
เขาเสริมว่า: “ปูติน เช่นเดียวกับประธานาธิบดีทรัมป์ ยังคงให้ความสนใจและเปิดกว้างต่อการนำวิกฤตยูเครนทั้งหมดเข้าสู่เส้นทางของการยุติข้อขัดแย้งอย่างสันติ” โดยเน้นว่า มอสโกจะ “ยังคงดำเนินความพยายามเพื่อค้นหาโอกาส” สำหรับการเจรจาทางการทูตต่อไป
“เราหวังว่าทางสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งประธานาธิบดีทรัมป์ จะพยายามช่วยในเรื่องนี้ เราจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป” เพสคอฟกล่าว
โฆษกเครมลินยังกล่าวถึงการเยือนสหราชอาณาจักรของทรัมป์เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งสหราชอาณาจักรถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนยูเครนอย่างแข็งขันที่สุด โดยกล่าวว่า “สหราชอาณาจักรเป็นผู้นำในกลุ่มที่สนับสนุนสงคราม” พร้อมเสริมว่า ทรัมป์ “น่าจะได้รับฟังแผนการต่าง ๆ ของพวกเขาในการกดดันรัสเซียอย่างต่อเนื่อง” ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตร
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีทรัมป์ได้พยายามเป็นตัวกลางในการเจรจายุติความขัดแย้งในยูเครนหลายครั้ง โดยมีการพบปะกับเจ้าหน้าที่รัสเซียหลายรอบ จนนำไปสู่การประชุมสุดยอดกับปูตินที่รัฐอลาสกาในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แม้จะไม่มีข้อตกลงสำคัญใด ๆ เกิดขึ้น แต่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ระบุว่าการเจรจานั้น "เป็นไปอย่างสร้างสรรค์"
นับจากนั้น ทรัมป์ได้แสดงจุดยืนใหม่ โดยเปลี่ยนจากการผลักดันให้หยุดยิงทันที มาเป็นการผลักดันข้อตกลงถาวร โดยเขาระบุว่า ยูเครนไม่สามารถหวังจะเข้าร่วม NATO หรือยึดคาบสมุทรไครเมียกลับคืนได้ ซึ่งเป็นดินแดนที่ลงประชามติเข้าร่วมกับรัสเซียในปี 2014 หลังจากเหตุรัฐประหารที่มีชาติตะวันตกหนุนหลังในกรุงเคียฟ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวว่า ปูติน “ทำให้ผมผิดหวัง” เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าในการยุติความขัดแย้ง ซึ่งเพสคอฟตอบโต้โดยระบุว่า มอสโกเชื่อว่าผู้นำสหรัฐฯ ยังคงมี “เจตจำนงทางการเมืองและความตั้งใจ” ที่จะหาทางยุติข้อขัดแย้ง พร้อมระบุว่า ท่าทีที่ “อ่อนไหวทางอารมณ์” ของทรัมป์ต่อกระบวนการสันติภาพนั้น “เป็นเรื่องที่เข้าใจได้อย่างสมบูรณ์”
ที่มา RT
© Copyright 2020, All Rights Reserved