.
สหรัฐฯ-จีน เร่งปราบปรามเครือข่ายหลอกลวงคริปโตข้ามชาติ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
14-11-2025
SCMP รายงานว่า สหรัฐอเมริกาและจีนกำลังยกระดับการปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดนที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล โดยมีการดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อจัดการกับหัวหน้าเครือข่ายหลอกลวงที่ปฏิบัติการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พื้นที่ชายแดนระหว่างไทย เมียนมา ลาว และกัมพูชา ได้กลายเป็นศูนย์กลางของการฉ้อโกงทางออนไลน์ขนาดใหญ่ ซึ่งกลุ่มอาชญากรใช้กลอุบายหรือบังคับเหยื่อให้ลงทุนในโครงการปลอม และโอนเงินผ่าน Bitcoin, Ether หรือ Stablecoin ก่อนจะถูกส่งเข้าสู่เครือข่ายการฟอกเงินที่ซับซ้อน องค์การอาชญากรรมเหล่านี้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของคริปโทเคอร์เรนซีในองค์กรอาชญากรรม แม้ว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะเริ่มรวมเข้ากับระบบการเงินกระแสหลักมากขึ้นก็ตาม
สหรัฐฯ ตั้งหน่วยรบพิเศษสกัดกั้นการฉ้อโกง
หลังจากที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ได้ทำการยึด Bitcoin มูลค่าสูงถึง 13,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก เฉิน จื้อ (Chen Zhi) นักธุรกิจชาวกัมพูชาเชื้อสายจีน เมื่อเดือนที่แล้ว ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) DOJ ได้ประกาศเปิดตัว "Scam Center Strike Force" เพื่อต่อสู้กับการฉ้อโกงการลงทุนคริปโตที่มุ่งเป้ามายังชาวอเมริกันโดยเฉพาะ
บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน TRM Labs ระบุว่า การจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจนี้ถือเป็น "โครงการริเริ่มครั้งประวัติศาสตร์" และเป็น "คำกล่าวที่ชัดเจนที่สุด" ว่าสหรัฐฯ มีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับเครือข่ายอาชญากรข้ามชาตินี้ "ด้วยอำนาจรัฐอย่างเต็มที่" ทั้งนี้ DOJ เปิดเผยว่า กลุ่มอาชญากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ฉ้อโกงชาวอเมริกันไปเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
ความร่วมมือระหว่างจีนและนานาชาติ
ในวันเดียวกันนั้น กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน (Ministry of Public Security) ได้ประกาศการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ชี จื้อเจียง (She Zhijiang) พลเมืองจีนที่ถูกกล่าวหาว่าดำเนินการบ่อนการพนันออนไลน์อย่างผิดกฎหมาย โดยเขาถูกตำรวจไทยจับกุมเมื่อเดือนสิงหาคม 2565
กระทรวงฯ ระบุว่า จะ "ทำงานเชิงรุกเพื่อจัดตั้งพันธมิตรระหว่างประเทศเพื่อต่อสู้กับการฉ้อโกงโทรคมนาคมและอาชญากรรมไซเบอร์" รวมถึงการกระชับความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้กล่าวในการประชุมกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเดือนที่แล้วว่า มี "ศักยภาพที่ดีที่ทั้งสองประเทศจะทำงานร่วมกัน" ในด้านต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมต่อต้านการฟอกเงิน
การยึดทรัพย์สินคริปโตครั้งประวัติศาสตร์
การดำเนินการด้านกฎหมายครั้งสำคัญนี้ ยังรวมถึงการยึดคริปโทเคอร์เรนซีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์:
คดีเฉิน จื้อ (Chen Zhi): เมื่อเดือนที่แล้ว DOJ ประกาศยึด Bitcoin จำนวน 127,271 BTC (มูลค่าเกิน 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จาก เฉิน จื้อ ประธานกลุ่ม Prince Holding Group ซึ่งถูกตั้งข้อหาสมคบคิดฉ้อโกงทางโทรศัพท์และสมคบคิดฟอกเงินจากการดำเนินงานเครือข่ายหลอกลวงแรงงานในกัมพูชา แม้ว่าบริษัทของเฉินจะออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด แต่การยึด Bitcoin ส่วนบุคคลครั้งใหญ่นี้ได้สร้างความตื่นตระหนกและดึงดูดความสนใจแม้กระทั่งจากศูนย์ความมั่นคงทางไซเบอร์ของรัฐบาลจีนเอง
คดีเฉียน จื้อหมิน (Qian Zhimin): ตำรวจจีนระบุว่า กำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหราชอาณาจักรเพื่อติดตามผู้หลบหนีและเงินทุนที่ผิดกฎหมายในคดีของ เฉียน จื้อหมิน นักธุรกิจหญิงชาวจีน ผู้ดำเนินการแผนการฉ้อโกงความมั่งคั่งระหว่างปี 2557 ถึง 2560 ก่อนจะแปลงเงินที่หลอกลวงมาเป็น Bitcoin และพยายามฟอกเงินต่อในสหราชอาณาจักร โดยเธอถูกจับกุมเมื่อปีที่แล้ว และรับสารภาพที่ลอนดอนในเดือนกันยายน ศาลสหราชอาณาจักรได้สั่งจำคุกเธอเป็นเวลากว่า 11 ปี สำหรับการฉ้อโกง Bitcoin มูลค่า 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2561 ตำรวจอังกฤษได้ยึดกระเป๋าดิจิทัลที่ถือ Bitcoin มากกว่า 61,000 BTC ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนคดีของเธอ
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/tech/tech-trends/article/3332675/us-chinese-authorities-ramp-actions-against-transnational-syndicates-running-crypto-scams?module=asia_latest&pgtype=section