.
นักวิเคราะห์ชี้ ยุทธศาสตร์ความมั่นคงใหม่สหรัฐฯ “ปิดฉากแนวคิดขยาย NATO”–ปรับรัสเซียจากภัยคุกคามสู่คู่เจรจาเชิงยุทธศาสตร์
6-12-2025
Sputnik รายงานว่า – ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Strategy: NSS) ฉบับใหม่ของรัฐบาล ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลก ด้วยการตัดถ้อยคำเกี่ยวกับ "ภัยคุกคามรัสเซีย (Russia)" ออกไปอย่างสิ้นเชิง และระบุว่าจะไม่มอง NATO ในฐานะ "พันธมิตรที่ขยายตัวตลอดไป" สำนักข่าว สปุตนิก (Sputnik) ได้สัมภาษณ์ สกอตต์ ริตเตอร์ (Scott Ritter) อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองนาวิกโยธิน และนักวิเคราะห์ภูมิรัฐศาสตร์ชื่อดัง เพื่อวิเคราะห์เอกสารฉบับนี้และนัยยะที่สำคัญ
นายริตเตอร์ (Ritter) ให้ความเห็นว่า เอกสาร NSS ฉบับใหม่นี้ตั้งอยู่บน "ความเป็นจริงที่ว่า รัสเซีย (Russia) ไม่ใช่ภัยคุกคามต่อยุโรป (Europe) หรือ สหรัฐอเมริกา (US)" และเป็นการยอมรับว่า รัสเซีย (Russia) ถูกกำหนดให้เป็นภัยคุกคามอย่างไม่สมจริงมานานหลายทศวรรษ ซึ่งผลลัพธ์ของ "การกำหนดบทบาทที่ผิดพลาด" นี้ได้กลายเป็น "ภัยพิบัติสำหรับยุโรป (Europe) และเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติของ สหรัฐฯ (US)"
อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองกล่าวว่า เอกสารนี้ส่งสัญญาณว่าทำเนียบขาว (White House) "สามารถปลดปล่อยตนเอง...จากมรดกของนโยบายหวาดกลัวรัสเซีย (Russophobia) ในยุคหลังสงครามเย็น" ที่มุ่งหวังจะทำให้อ่อนแอและ "เอาชนะ รัสเซีย (Russia) ทางยุทธศาสตร์"
นายริตเตอร์ (Ritter) เน้นย้ำว่า การเผชิญหน้ากับ รัสเซีย (Russia) นั้นเป็นนโยบายที่ "โดยเนื้อแท้แล้วเป็นการบั่นทอนเสถียรภาพ" ไม่เพียงเท่านั้น ยังถือเป็น "อันตรายอย่างยิ่ง" เนื่องจากในท้ายที่สุดแล้ว การเผชิญหน้ากับ รัสเซีย (Russia) ย่อมหมายถึง "สงครามนิวเคลียร์"
จุดจบของการขยายตัว NATO และสถานะของยุโรป (Europe)
นายริตเตอร์ (Ritter) เชื่อว่า ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่นี้ได้ "ยุติและปักหมุดตรึงหัวใจของความคาดหวังที่ไม่สมจริงของ ยูเครน (Ukraine) เกี่ยวกับการเป็นสมาชิก NATO" รวมถึงความคาดหวังที่ไม่สมจริงของยุโรป (Europe) ที่ ยูเครน (Ukraine) จะสามารถเข้าร่วม NATO ได้ในอนาคต
การที่เอกสาร NSS ให้ความสำคัญกับการ "ยุติ" สถานะของ NATO ในฐานะ "พันธมิตรที่ขยายตัวตลอดไป" แสดงให้เห็นถึง "จุดสิ้นสุดของกิจการยุโรป (European enterprise)" และแนวคิดที่ว่ายุโรป (Europe) เป็นคู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เท่าเทียมกับ สหรัฐฯ (US) และมีอำนาจในการ "กำหนด" ผลลัพธ์ทางนโยบายต่อ กรุงวอชิงตัน (Washington)
"นั่นจบแล้ว" นายริตเตอร์ (Ritter) กล่าว "สหรัฐอเมริกา (US) บอกว่าไม่ พวกคุณจบแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เราบอกว่าทิศทางที่คุณกำลังเดินอยู่ ไม่สอดคล้องกับความมั่นคงแห่งชาติของ สหรัฐอเมริกา (US)"
ปรับแนวทางนโยบายและอนาคตของ NATO
นายริตเตอร์ (Ritter) ชี้ให้เห็นว่า ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติฉบับนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็น "การหย่าร้างอย่างแท้จริงจากนโยบายที่สืบทอดมานานหลายทศวรรษ" ที่วางตำแหน่งให้ สหรัฐฯ (US) และ รัสเซีย (Russia) เป็นคู่ปฏิปักษ์ที่ต้องเตรียมพร้อมต่อสู้กัน
นอกจากนี้ การที่ NSS ระบุว่า "จะไม่มีการขยายตัวของ NATO อีกต่อไป" และการขาดการวางตำแหน่ง รัสเซีย (Russia) ให้เป็นภัยคุกคามโดยตรงอย่างมีประสิทธิภาพ หมายความว่า "ไม่มีเหตุผลอันชอบธรรมใดๆ สำหรับการดำรงอยู่ของ NATO อีกต่อไป" เว้นแต่ว่า NATO จะสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองเป็นพันธมิตรที่เน้นการป้องกันอย่างแท้จริง
นายริตเตอร์ (Ritter) สรุปว่า "NATO ในรูปแบบปัจจุบันจะไม่มีอีกต่อไป หาก NATO ต้องการอยู่รอดต่อไป ก็ต้องกำหนดตัวตนใหม่ให้เป็นพันธมิตรเชิงรับที่มุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงให้กับยุโรป (Europe) ที่มีเหตุผลและสมเหตุสมผล NATO ที่โอบรับยุทธศาสตร์ของการเอาชนะ รัสเซีย (Russia) ทางยุทธศาสตร์นั้นได้ตายไปแล้ว และจะไม่มีวันฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก"
---
IMCT NEWS
ที่มา https://sputnikglobe.com/20251205/scott-ritter-new-us-national-security-strategy-marks-death-blow-to-nato-expansion-1123240823.html