.
แผน “ริบทรัพย์รัสเซีย” ของ EU ล่มไม่เป็นท่า หลังเบลเยียมขวางสุดตัวกลัวโดนรัสเซียเล่นงาน ยุโรปหันออกหนี้กู้ยืม $105,000 ล้านอุ้มยูเครนแทน
20-12-2025
สหภาพยุโรป (EU) ได้ตัดสินใจพับแผนการอันเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของเหล่าผู้นำยุโรปในการริบทรัพย์สินของ ประเทศรัสเซีย (Russia) ที่ถูกอายัดไว้ใน Euroclear ซึ่งเป็นศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ของ ประเทศเบลเยียม (Belgium) เพื่อนำมาใช้เป็นเงินกู้ค่าปฏิกรรมสงครามให้แก่ ประเทศยูเครน (Ukraine)
ในการประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลาสองวัน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้รับคำยืนยันที่ชัดเจนว่า สหภาพยุโรป (EU) ไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันในแผนการดังกล่าวได้ แต่ได้เลือกใช้วิธีการระดมทุนกู้ยืมร่วมกันเป็นจำนวนเงิน 9 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 1.05 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) แทน โดยที่ ประเทศฮังการี (Hungary), สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) และ ประเทศสโลวาเกีย (Slovakia) ตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมในแผนการกู้ยืมนี้
สาเหตุสำคัญเกิดจากการที่ ประเทศเบลเยียม (Belgium) เกรงกลัวต่อการตอบโต้อย่างฉับพลันจาก รัสเซีย (Russia) โดยเบลเยียมต้องการความมั่นใจว่าสมาชิก สหภาพยุโรป (EU) ที่เหลือจะเข้ามาช่วยแบกรับภาระจากมาตรการตอบโต้ใดๆ รวมถึงการฟ้องร้องทางกฎหมายที่จะตามมาจากการยึดทรัพย์สินดังกล่าว
บาร์ต เดอ วีฟเวอร์ (Bart De Wever) นายกรัฐมนตรีเบลเยียม ได้สรุปสถานการณ์ความยากลำบากนี้ไว้อย่างชัดเจนว่า "เราไม่ปรารถนาที่จะทำสงครามกับ รัสเซีย (Russia) เราต้องเจรจาบนพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่ใช่จินตนาการ เพราะในความเป็นจริง *คุณไม่สามารถขโมยเงินจากธนาคารกลางของต่างประเทศได้ การขโมยเงินจากธนาคารกลางนั้นไม่ต่างอะไรกับการปล้นสถานทูต"*
จากสถานการณ์นี้ ปรากฏว่ากลุ่มผู้นำ สหภาพยุโรป (EU) ได้ยอมถอยหลัง ซึ่งอาจเป็นเพราะได้รับบทเรียนจากการที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) แห่ง ประเทศสหรัฐฯ (US) นำเงินดอลลาร์มาใช้เป็นอาวุธในช่วงต้นของสงครามยูเครน ทั้งนี้ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) แห่ง รัสเซีย (Russia) เคยกล่าวคำเตือนไว้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2024 ว่า:
"เงินดอลลาร์คือรากฐานสำคัญของอำนาจ สหรัฐฯ (US) และเป็นอาวุธหลักที่ใช้เพื่อรักษาอำนาจไว้ทั่วโลก ทันทีที่ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้ดอลลาร์เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ทางการเมือง พลังอำนาจของอเมริกันย่อมถูกบั่นทอนลงทันที"
สำหรับความล้มเหลวในการพยายามยึดทรัพย์สินของ รัสเซีย (Russia) เป็นการถาวร ซึ่งมีมูลค่าราว 2.1 แสนล้านยูโร (2.47 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในยุโรปนั้น เจ้าหน้าที่ สหภาพยุโรป (EU) ได้ลดระดับความเป็นไปได้ของแผนทางเลือกอื่นๆ มาโดยตลอดจนถึงคืนก่อนการประชุมสุดยอด และทันใดนั้น เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก็ได้เรียกร้องให้มีการผลักดันวิถีทางการทูตกับมอสโกอีกครั้ง
ฟรีดริช แมร์ซ (Friedrich Merz) นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เป็นหัวหอกหลักในความพยายามครั้งนี้ แต่ความพ่ายแพ้ในปัจจุบันถือเป็นความล้มเหลวครั้งสำคัญของเขาและ อูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ผู้ซึ่งผลักดันแผนเงินกู้ปฏิกรรมสงครามอย่างหนักโดยไม่ได้นำเสนอทางเลือกอื่นไว้
อย่างไรก็ตาม เมตเต เฟรเดอริกเซน (Mette Frederiksen) นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก ยืนยันว่าวัตถุประสงค์เร่งด่วนนั้นบรรลุผลแล้ว โดยเธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ประเด็นสำคัญคือการสนับสนุน ยูเครน (Ukraine) ของเราได้รับการรับรองแล้ว" ทว่า รัสเซีย (Russia) จะไม่ใช่ฝ่ายที่ถูกบังคับให้จ่ายค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสงคราม
ในสถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศสมาชิก สหภาพยุโรป (EU) จะทำการกู้ยืมเงินจากตลาดการเงินและรับภาระต้นทุนดอกเบี้ยด้วยตนเอง โดยเงินกู้ดังกล่าวถูกกำหนดให้ไม่มีดอกเบี้ยในขณะนี้ และยังไม่มีแผนการที่ชัดเจนในอนาคตว่าจะเรียกเก็บคืนอย่างไร ซึ่ง อันโตนิโอ คอสตา (Antonio Costa) ประธานสภายุโรป ระบุว่า "รายละเอียดทางเทคนิคของเงินกู้ปฏิกรรมสงคราม" ยังคงต้อง "ดำเนินการแก้ไข" ต่อไป
ท้ายที่สุด เรื่องนี้ถือเป็นชัยชนะเบื้องหลังของ ประเทศรัสเซีย (Russia) อีกครั้ง หลังจากที่เพิ่มแรงกดดันต่อ ประเทศเบลเยียม (Belgium) โดยสำนักข่าว RT (อาร์ที) ได้พาดหัวข่าวในประเด็นนี้ว่า แผนการของ สหภาพยุโรป (EU) ที่จะขโมยทรัพย์สินรัสเซียเพื่อ ยูเครน (Ukraine) ประสบความล้มเหลว พร้อมระบุว่าหากไม่มีงบประมาณสงครามจาก สหภาพยุโรป (EU) กองหนุนของ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelensky) จะต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจในระยะสั้น เนื่องจาก ยูเครน (Ukraine) ต้องการเงินราว 7.2 หมื่นล้านยูโร เพื่อชำระคืนเงินกู้ให้กลุ่ม G7 และเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.zerohedge.com/geopolitical/eu-commits-105bn-loan-ukraine-fails-steal-russian-assets-reparations