.
ทรัมป์ประกาศ "ไม่ทิ้งทางเลือกสงคราม" สั่งปิดล้อมทางทะเลเวเนซุเอลาขั้นเด็ดขาด ผู้เชี่ยวชาญเตือน “อาจเป็นจุดเริ่มสงครามจริง”
20-12-2025
SCMP รายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) แห่ง สหรัฐฯ (US) ยืนยันว่าเขาจะไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทางทหารกับ ประเทศเวเนซุเอลา (Venezuela) พร้อมประกาศคำสั่ง "ปิดล้อม" (Blockade) เรือบรรทุกน้ำมันทุกลำที่ถูกคว่ำบาตรทั้งขาเข้าและขาออก ซึ่งถือเป็นการยกระดับการกดดันรัฐบาลของ นิโคลัส มาดูโร (Nicolas Maduro) สู่ระดับสูงสุด โดยมีรายงานว่ากองทัพสหรัฐฯ ได้เริ่มปฏิบัติการยึดเรือบรรทุกน้ำมันในน่านน้ำใกล้เคียงแล้ว
ในการให้สัมภาษณ์กับ NBC News ทรัมป์ (Trump) ระบุชัดเจนว่าเขาจะไม่ตัดทางเลือกเรื่องสงครามทิ้ง และขู่ว่าหากเรือบรรทุกน้ำมันลำใดฝ่าฝืนคำสั่งคว่ำบาตร เรือเหล่านั้นจะถูกนำกลับไปยังท่าเรือของสหรัฐฯ แทน โดยมาตรการนี้มุ่งเป้าไปที่รายได้หลักของเวเนซุเอลาซึ่งมีปริมาณน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลก ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ได้เข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันเมื่อสัปดาห์ก่อน และมีการวางกำลังทหารขนานใหญ่ในภูมิภาคแคริบเบียนและมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากการปะทะในทะเลแล้วอย่างน้อย 104 ราย นับตั้งแต่เดือนกันยายน
ประเด็นการ "ปิดล้อมทางทะเล" ครั้งนี้ได้สร้างข้อถกเถียงอย่างหนักด้านกฎหมายระหว่างประเทศ โดยนักกฎหมายด้านความมั่นคงระบุว่า ตามหลักการแล้วการปิดล้อมน่านน้ำถือเป็น "การกระทำของสงคราม" (Act of War) ซึ่งจำเป็นต้องมีการประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ ทว่าฝ่ายบริหารของทรัมป์เลี่ยงไปใช้คำว่า "การกักกัน" (Quarantine) เพื่ออ้างว่าเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยเชิงป้องกัน เช่นเดียวกับกรณีวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบาในอดีต อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภาคองเกรสบางส่วนแสดงความกังวลว่า การใช้กำลังทหารโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาอาจนำไปสู่สงครามเต็มรูปแบบที่ควบคุมไม่ได้
ทางด้านรัฐบาลเวเนซุเอลา นำโดย นิโคลัส มาดูโร (Nicolas Maduro) ได้ออกมาประณามมาตรการของสหรัฐฯ ว่าเป็น "ภัยคุกคามที่น่าเกลียดชัง" และเป็นความพยายามที่จะล้มล้างรัฐบาลเพื่อเข้าควบคุมทรัพยากรน้ำมัน ขณะที่ นิโคลัส มาดูโร เกร์รา (Nicolas Maduro Guerra) บุตรชายและสมาชิกสภานิติบัญญัติระบุว่า แม้ประเทศจะเห็นค่าของสันติภาพและการเจรจา แต่การถูกข่มขู่โดยกองทัพที่ทรงพลังที่สุดในโลกถือเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามได้ โดยระบุว่าเวเนซุเอลาจะร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการปิดล้อมครั้งนี้
ปัจจุบัน กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้วางกำลังเรือรบอย่างน้อย 11 ลำ รวมถึงกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส เจอรัลด์ อาร์. ฟอร์ด (USS Gerald R. Ford) ในภูมิภาคดังกล่าว พร้อมด้วยเครื่องบินสอดแนมประสิทธิภาพสูงเพื่อเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวทางทะเลทั้งหมด แม้ทรัมป์จะยังไม่ยืนยันว่าเป้าหมายสูงสุดคือการขับไล่มาดูโรออกจากตำแหน่งหรือไม่ แต่เขาทิ้งท้ายไว้อย่างมีนัยสำคัญว่า "เขารู้ดีว่าผมต้องการอะไร" ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า สหรัฐฯ (US) กำลังรอคอยจังหวะที่เวเนซุเอลาจะตอบโต้อันเป็นเงื่อนไขที่อาจนำไปสู่การใช้สิทธิป้องกันตนเองและการใช้กำลังทางบกตามที่ทรัมป์เคยขู่ไว้ก่อนหน้านี้
---
IMCT NEWS
ที่มาhttps://sc.mp/b76c9?utm_source=copy-link&utm_campaign=3337099&utm_medium=share_widget