Asia Power Index ชี้อำนาจสหรัฐฯ ในเอเชียอ่อนแรง จีน–อินเดีย–รัสเซีย–ญี่ปุ่น เร่งไต่อันดับ ท่ามกลางสมดุลภูมิรัฐศาสตร์เปลี่ยน

18-12-2025

  ดัชนี Asia Power Index ฉบับปี 2025 ของสถาบันวิจัย Lowy Institute ระบุว่าสหรัฐอเมริกา (United States) ยังคงเป็นประเทศที่ทรงอำนาจมากที่สุดในเอเชีย แต่คะแนนรวมลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดตั้งแต่มีการจัดทำดัชนีครั้งแรกในปี 2018 สะท้อนภาพ “ภูมิภาคที่กำลังเปลี่ยนสมดุลอำนาจ” ขณะที่จีน (China) และอินเดีย (India) เดินหน้าขยับบทบาทขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

  รายงานฉบับที่ 7 ของดัชนี ซึ่งจัดทำโดยซูซานนาห์ แพตตัน (Susannah Patton) และแจ็ก ซาโต้ (Jack Sato) ประเมิน “อำนาจ” ของ 27 ประเทศและดินแดนในเอเชีย ด้วยตัวชี้วัด 131 รายการ ครอบคลุม 8 มิติหลัก ได้แก่ ขีดความสามารถทางการทหารและเครือข่ายกลาโหม ศักยภาพและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ อิทธิพลทางการทูตและวัฒนธรรม รวมถึงศักยภาพการฟื้นตัวและทรัพยากรแห่งอนาคต 

สำหรับปี 2025 ประเทศที่มีคะแนนอำนาจรวมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐฯ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น (Japan) และรัสเซีย (Russia) โดยออสเตรเลีย (Australia) หล่นลงมาอยู่อันดับที่ 6 ในปีนี้ 

### สหรัฐฯ เสียแต้มในเอเชีย แต่ยังนำเป็นอันดับหนึ่ง 

  ดัชนี 2025 ชี้ว่าสหรัฐฯ กำลัง “เสียพื้นที่” ในเอเชีย โดยทำคะแนนรวมต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มจัดทำ Asia Power Index แม้ยังรักษาตำแหน่งผู้นำด้านอำนาจภาพรวมในภูมิภาคไว้ได้ รายงานระบุว่านโยบายของรัฐบาลทรัมป์ (Donald Trump) มีผลเชิงลบสุทธิต่ออำนาจของสหรัฐฯ ในเอเชีย และผลสะสมที่แท้จริงยังจะเริ่มปรากฏชัดขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า 

  แม้เช่นนั้น สหรัฐฯ ยังคงได้เปรียบด้านโครงสร้าง เช่น ขีดความสามารถเชิงทหารระดับโลก เครือข่ายพันธมิตรด้านความมั่นคง และบทบาทในห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี แต่ความไม่แน่นอนเชิงยุทธศาสตร์และการรับรู้เรื่องความสม่ำเสมอของนโยบายเอเชียภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบัน กำลังบั่นทอนความเชื่อมั่นของพันธมิตรและหุ้นส่วนบางส่วน 

### จีนปิดช่องว่างกับสหรัฐฯ อินเดียขึ้นสถานะ “มหาอำนาจ” 

  รายงานระบุว่าจีนกำลัง “ทยอยปิดช่องว่าง” กับสหรัฐฯ โดยระดับคะแนนต่างระหว่างสองประเทศแคบลงสู่ระดับใกล้เคียงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 จีนถูกมองว่ามีความพร้อมสูงในการรับมือกับมาตรการกดดันทางเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ และสามารถปรับวางตัวในฐานะ “หุ้นส่วนที่เชื่อถือได้” ต่อหลายประเทศในภูมิภาค ท่ามกลางความไม่แน่นอนต่อท่าทีของวอชิงตันในเอเชีย ขณะเดียวกัน อิทธิพลทางการทูตของปักกิ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเท่าที่ประเทศใดเคยทำได้ในดัชนีนี้ 

  อินเดียยังคงรักษาตำแหน่งประเทศที่ทรงอำนาจมากเป็นอันดับสามในเอเชีย และในปี 2025 ได้ก้าวข้ามเกณฑ์ที่ Asia Power Index กำหนดให้เป็น “สถานะมหาอำนาจ” อย่างเป็นทางการ แรงส่งมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแรง และการเพิ่มขีดความสามารถทางทหารอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม รายงานชี้ว่าการขยายอิทธิพลของอินเดียผ่านการทูตและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ “ยังเติบโตไม่ทันกับทรัพยากรและศักยภาพใหม่ที่ประเทศสะสมได้” 

### รัสเซีย–ญี่ปุ่น–อาเซียน–ออสเตรเลีย ในสมดุลใหม่ของภูมิภาค 

  ด้านรัสเซีย รายงานระบุว่า “อำนาจของมอสโกในเอเชียกำลังฟื้นตัว” โดยแนวคิด “Fortress Russia” หรือรัสเซียปราการเหล็ก สามารถทนทานต่อผลกระทบของสงครามและมาตรการคว่ำบาตรได้ระดับหนึ่ง ในปี 2025 อำนาจของรัสเซียในเอเชียได้แรงหนุนจากความร่วมมือทางเศรษฐกิจและกลาโหมที่แน่นแฟ้นขึ้นกับจีนและเกาหลีเหนือ (North Korea) ซึ่งถูกจัดว่าเป็น “พันธมิตรเชิงอำนาจนิยม” (authoritarian partners) 

  ญี่ปุ่นยังคงรักษาระดับอำนาจในเอเชียได้ค่อนข้างคงที่ แม้จะมีผลคะแนนเชิงลบในทุกมิติด้าน “ทรัพยากร” ยกเว้นในหมวดขีดความสามารถทางการทหารที่มีการเติบโตเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม “การเปลี่ยนตัวผู้นำบ่อยครั้งในโตเกียว” ทำให้ญี่ปุ่นสูญเสียความสูงส่งในฐานะผู้นำด้านนโยบายต่างประเทศของภูมิภาคอินโด–แปซิฟิกไปบางส่วน 

  สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดัชนีชี้ว่าประเทศส่วนใหญ่มีคะแนนอำนาจเชิงองค์รวมดีขึ้นเล็กน้อยในปี 2025 แต่ภาพรวมยัง “หลากหลาย” มาเลเซียซึ่งดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน (ASEAN) ปีนี้ มีอิทธิพลระดับภูมิภาคเพิ่มขึ้น ขณะที่บางประเทศ โดยเฉพาะไทย ยังคง “หมกมุ่นอยู่กับปัญหาภายในประเทศ” ทำให้บทบาทระดับภูมิภาคไม่ขยายตัวเท่าที่ควร รายงานยังระบุว่าการทูตของประธานาธิบดีปราโบโว ซูบิอันโต (Prabowo Subianto) ของอินโดนีเซีย “มุ่งออกไปในเวทีโลกมากกว่าระดับภูมิภาค” 

  ออสเตรเลียถูกประเมินว่ากำลังเผชิญ “ความท้าทายระยะยาว” ในการรักษาระดับอำนาจสัมพัทธ์ในเอเชีย โดยหล่นลงมาต่ำกว่ารัสเซียในตารางอันดับ Asia Power Index 2025 เนื่องจากทรัพยากรทางเศรษฐกิจและการทหารของออสเตรเลียลดลงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค รายงานเตือนว่า แคนเบอร์ราจะต้อง “ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” และทำงานเชิงยุทธศาสตร์เข้มข้นขึ้น หากต้องการรักษาอิทธิพลในเอเชียในระยะยาว 

### เกี่ยวกับ Asia Power Index 

  ดัชนี Asia Power Index จัดทำเป็นประจำทุกปีโดย Lowy Institute ตั้งแต่ปี 2018 เพื่อจัดอันดับ “อำนาจสัมพัทธ์” ของ 27 ประเทศและดินแดนในภูมิภาคอินโด–แปซิฟิก โดยวัดความแข็งแกร่งตามตัวชี้วัด 131 รายการใน 8 มิติหลัก ครอบคลุมประเทศตั้งแต่ปากีสถาน (Pakistan) ทางตะวันตก รัสเซียทางเหนือ ไปจนถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ ทางฝั่งแปซิฟิก โดยมีเป้าหมายเพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 21

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.lowyinstitute.org/asia-power-index-united-states-weakens-china-india-rise-amid-shifting-regional-dynamics