ฮ่องกงผลักดันศูนย์กลางทองคำโลก
ฮ่องกงผลักดันศูนย์กลางทองคำโลก ผนึกกำลังตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้และตลาดโลหะลอนดอน ดันเงินหยวนสู่สากลผ่านสินค้าโภคภัณฑ์
23-12-2025
SCMP รายงานว่า ฮ่องกง ยกระดับยุทธศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์ ชูทองคำเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจยุคใหม่ รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (Hong Kong) ประกาศแผนการเชิงรุกในการสร้างศูนย์กลางการซื้อขายทองคำระหว่างประเทศ (International Gold Trading Hub) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การผลักดันเมืองสู่การเป็นศูนย์กลางสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลกในวงกว้าง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาทั้งในด้านการค้าสินค้าจริง (Physical Trading), ตราสารอนุพันธ์ (Derivatives) และระบบโลจิสติกส์
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการยุทธศาสตร์สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Strategy Committee) ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ได้จัดการประชุมนัดแรกภายใต้การนำของ นายพอล ชาน โม-โป (Paul Chan Mo-po) เลขาธิการฝ่ายการเงิน เพื่อวางโครงสร้างระบบนิเวศสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ นอกเหนือจากภาคการเงินแบบดั้งเดิม
ลำดับความสำคัญของทองคำและการกำหนดราคาสากล
นายคริสโตเฟอร์ ฮุย ชิง-หยู (Christopher Hui Ching-yu) เลขาธิการฝ่ายบริการทางการเงินและการคลัง ให้สัมภาษณ์กับสื่อในจีนแผ่นดินใหญ่ว่า การพัฒนาศูนย์กลางการซื้อขายทองคำระหว่างประเทศถือเป็นภารกิจสำคัญลำดับต้นๆ โดยฮ่องกง (Hong Kong) มีแผนจะจัดตั้งระบบการชำระบัญชีกลางทองคำ (Central Clearing System) และสมาคมอุตสาหกรรมทองคำในปีหน้า รวมถึงกระชับความร่วมมือกับตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Gold Exchange) เพื่อขยายอิทธิพลของภูมิภาคในด้านการกำหนดราคาทองคำสากล
นอกจากนี้ นายฮุย (Hui) ยังเสนอโมเดล “นำเข้าผ่านฮ่องกง – กลั่นที่เซินเจิ้น (Shenzhen) – ส่งออกสู่ตลาดโลก” เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการโรงกลั่นทองคำจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทข้ามชาติบางแห่งเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งโรงกลั่นในเมืองนี้แล้ว
ศักยภาพภายใต้ "หนึ่งประเทศ สองระบบ"
นายพอล ชาน (Paul Chan) ระบุในการประชุมว่า ฮ่องกง (Hong Kong) มีศักยภาพมหาศาลในการพัฒนาตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยอาศัยความได้เปรียบจากการไหลเวียนเสรีของเงินทุน สินค้า และข้อมูลข่าวสาร ภายใต้กรอบนโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ซึ่งจะช่วยให้เมืองมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศและระดับโลก พร้อมสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโตที่หลากหลาย
เลขาธิการฝ่ายการเงินตั้งข้อสังเกตว่า จีน (China) ในฐานะผู้บริโภคและตลาดการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังมุ่งสู่การพัฒนาคุณภาพสูงและเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนต่ำ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้กำลังเปลี่ยนโฉมความต้องการในกลุ่มพลังงาน โลหะ และวัตถุดิบสำคัญ
การวางรากฐานและความร่วมมือระดับโลก
คณะกรรมการชุดนี้รวบรวมผู้นำจากภาคการเงิน การพาณิชย์ การขนส่ง โลจิสติกส์ และบริการวิชาชีพ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มตลาดโลกและเสนอแนะนโยบาย โดยมีขอบเขตอำนาจหน้าที่ครอบคลุมการทบทวนกิจกรรมการค้าสินค้าจริง การระบุโอกาสในกลุ่มสินค้าเกิดใหม่ การปรับปรุงกรอบการกำกับดูแล และการสำรวจความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับตลาดจีนแผ่นดินใหญ่
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ฮ่องกง (Hong Kong) ได้วางรากฐานสำคัญไว้แล้ว ดังนี้:
มกราคม: ตลาดโลหะลอนดอน (London Metal Exchange หรือ LME) อนุมัติให้ฮ่องกงเป็นสถานที่ตั้งคลังสินค้าอย่างเป็นทางการ
มิถุนายน: ตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Gold Exchange) เปิดคลังสินค้าต่างประเทศแห่งแรกในฮ่องกง
กรกฎาคม: คลังสินค้าที่ได้รับการรับรองจาก LME จำนวน 8 แห่งเริ่มดำเนินการ จัดการโลหะจดทะเบียนมากกว่า 8,000 ตัน ทั้งอะลูมิเนียม ทองแดง สังกะสี ตะกั่ว นิกเกล และดีบุก
การสร้างอำนาจต่อรองและการผลักดันเงินหยวน (RMB)
นายเฮนดริก ซิน (Hendrik Sin) ผู้แทนฮ่องกงประจำสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ให้ความเห็นว่า แม้จีน (China) จะเป็นผู้นำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ แต่ยังขาดอำนาจในการกำหนดราคา (Pricing Power) ที่สอดคล้องกับสถานะทางการค้า ทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีความเสี่ยงต่อความผันผวนของราคาโลก ดังนั้นการเพิ่มปริมาณผู้ค้าในฮ่องกงจะกระตุ้นความต้องการบริการต่อเนื่อง เช่น ประกันภัย กฎหมาย และการบริหารความเสี่ยง
นายซิน (Sin) ย้ำว่ายุทธศาสตร์นี้จะเน้นไปที่โลหะนอกกลุ่มเหล็กและวัตถุดิบจำเป็นสำหรับโครงสร้างพื้นฐานในโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative) ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมให้เงินหยวน (RMB) ก้าวสู่สกุลเงินสากลอย่างยั่งยืน
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/business/banking-finance/article/3337366/gold-takes-centre-stage-hong-kong-launches-committee-build-commodities-ecosystem?module=perpetual_scroll_0&pgtype=article