.

กองทัพสหรัฐฯ เงียบกริบ หลังมีรายงานเรือ USS Truman' ถูกกลุ่มฮูตีโจมตีจนเสียเครื่องบิน F-18 มูลค่า 67 ล้านดอลลาร์'
1-5-2025
Asia Time รายงานว่า สหรัฐอเมริกาสูญเสียเครื่องบินขับไล่ F-18E Super Hornet เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา หลังเครื่องซึ่งกำลังถูกลากจูงบนดาดฟ้าเก็บเครื่องบินของเรือ USS Harry S. Truman (CVN 75) ตกลงไปในทะเลพร้อมกับรถแทรกเตอร์ที่ใช้ลากจูง โดยมีลูกเรือได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยหนึ่งราย ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการกระโดดหนีจากรถแทรกเตอร์หรือเครื่องบิน F-18
ประเด็นสำคัญที่กำลังถูกตั้งคำถามคือ เหตุการณ์นี้เป็นเพียงอุบัติเหตุทั่วไป หรือเกิดจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน โดยสถานีข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า เครื่องบินตกเนื่องจากเรือบรรทุกเครื่องบินเลี้ยวอย่างกะทันหันและรุนแรงเพื่อหลบภัยคุกคาม ซึ่งอาจเป็นขีปนาวุธร่อนหรือโดรนติดอาวุธของกลุ่มฮูตี
กลุ่มฮูตีได้โจมตีเรือรบสหรัฐฯ ในทะเลแดงมาแล้วกว่า 170 ครั้ง ในเหตุการณ์นี้ ยาห์ยา ซาเรอี โฆษกของกลุ่มฮูตี ได้ออกแถลงการณ์ทางโทรทัศน์อ้างว่า กองทัพอากาศและกองทัพเรือของกลุ่มได้ปฏิบัติการร่วมกันโจมตีเรือทรูแมนด้วยขีปนาวุธร่อน ขีปนาวุธพิสัยไกล และโดรน ขณะที่ CENTCOM ซึ่งบัญชาการปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มฮูตีในทะเลแดง ไม่ได้ออกมาปฏิเสธข้ออ้างดังกล่าว
เครื่องบิน F-18E Super Hornet ที่สูญหายเป็นเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดียวสองเครื่องยนต์ ซึ่งประจำการอยู่กับฝูงบินโจมตี VFA-136 มีมูลค่าประมาณ 67 ล้านดอลลาร์ ขณะเกิดเหตุไม่มีนักบินอยู่บนเครื่อง มีเพียงลูกเรือฝ่ายสนับสนุนที่อยู่ในห้องนักบินระหว่างที่เครื่องกำลังถูกเคลื่อนย้าย ดาดฟ้าเก็บเครื่องบินซึ่งอยู่ด้านล่างของดาดฟ้าสำหรับบิน ไม่มีสิ่งกีดขวางที่จะป้องกันเครื่องบินจากการกลิ้งตกทะเล
เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Truman ไม่ได้ปฏิบัติการโดยลำพัง แต่ได้รับการคุ้มกันจากกลุ่มเรือโจมตี (Carrier Strike Group 8) ซึ่งประกอบด้วยเรือพิฆาตคลาส Arleigh Burke 3 ลำ และเรือลาดตระเวนคลาส Ticonderoga 1 ลำ คือ USS Gettysburg (CG-64) เรือเหล่านี้มีหน้าที่ปกป้องเรือบรรทุกเครื่องบินจากภัยคุกคามทางอากาศ ทั้งขีปนาวุธ เครื่องบิน และโดรน โดยทุกลำติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศ AEGIS ที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพสูง รวมถึงเรดาร์ขั้นสูงที่ควรสามารถตรวจจับภัยคุกคามรวมถึงโดรนขนาดเล็กได้
หากเรื่องการเลี้ยวเรืออย่างกะทันหันเป็นความจริง แสดงว่าภัยคุกคามที่เข้ามาไม่ถูกตรวจพบจนกระทั่งอยู่ใกล้เรือทรูแมนมากแล้ว ซึ่งอาจมีคำอธิบายว่าเป็นขีปนาวุธร่อนหรือขีปนาวุธต่อต้านเรือที่บินในระดับต่ำ ทำให้เรดาร์ตรวจจับได้ยากเนื่องจากมีสัญญาณรบกวน (radar clutter) บริเวณอ่าวเปอร์เซียและทะเลแดงยังมีปรากฏการณ์ "radar ducting" ที่ชั้นบรรยากาศจะดักจับและนำทางคลื่นเรดาร์ สร้างจุดบอดหรือพื้นที่ข้ามโซนที่ทำให้ไม่สามารถตรวจจับขีปนาวุธหรือเครื่องบินได้
ประเด็นสำคัญอีกประการคือ หากกลุ่มฮูตีสามารถกำหนดเป้าหมายเรือทรูแมนได้ พวกเขาต้องมีวิธีระบุตำแหน่งเรือ ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ที่จะทำได้โดยตรง เนื่องจากเรดาร์ชายฝั่งของกลุ่มฮูตีส่วนใหญ่ถูกทำลายโดยการโจมตีของสหรัฐฯ แล้ว เป็นที่ทราบกันว่าอิหร่านมีเรือติดตั้งเรดาร์ที่สนับสนุนกลุ่มฮูตี ซึ่งอาจตรวจจับเรือทรูแมนได้ค่อนข้างง่าย นอกจากนี้ ยังอาจเป็นไปได้ว่ามีการใช้ดาวเทียมของรัสเซียหรือจีนในการติดตาม
อิหร่านใช้ทั้งเรือสอดแนมเฉพาะกิจและเรือพาณิชย์ในการสอดแนม ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากที่เรือพาณิชย์ที่ปฏิบัติการในทะเลแดงจะตรวจพบกองเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่และรายงานพิกัดไปยังกลุ่มฮูตีได้
กลุ่มฮูตีมีขีปนาวุธต่อต้านเรือ ขีปนาวุธร่อน และโดรนที่อิหร่านจัดหาให้หลากหลายชนิด หากภัยคุกคามต่อเรือทรูแมนเป็นวัตถุบินระดับต่ำจริง อาจเป็นขีปนาวุธร่อนอย่าง QUDS-4 ซึ่งมีพิสัยประมาณ 2,000 กิโลเมตร (1,243 ไมล์) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เจ็ตเทอร์โบไซส์เล็ก ขีปนาวุธนี้พัฒนาจากขีปนาวุธร่อน Soumar ของอิหร่าน ซึ่งเป็นการลอกเลียนแบบ Kh-55 ของรัสเซีย เป็นขีปนาวุธประเภทเดียวกับที่ใช้โจมตีสถานที่ผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียที่อับไกก์และคูไรส์ในเดือนกันยายน 2019 อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบว่าขีปนาวุธนี้จะสามารถโจมตีเรือที่กำลังเคลื่อนที่ได้หรือไม่
สหรัฐฯ พึ่งพาเรือบรรทุกเครื่องบินเพื่อขยายขีดความสามารถทั่วโลก แม้ในยุโรปจะมีความสำคัญน้อยกว่าเนื่องจากมีฐานทัพอากาศมากมาย แต่ในภูมิภาคอื่นๆ เรือบรรทุกเครื่องบินมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อจีนพัฒนาขีดความสามารถในการต่อต้านเรือมากขึ้น หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่าเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ จะสามารถอยู่รอดในพื้นที่ขัดแย้ง เช่น บริเวณรอบญี่ปุ่นและไต้หวันได้หรือไม่ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เคยกล่าวต่อสาธารณะว่า ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงของจีนสามารถจมกองเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ ทั้งหมดได้ภายใน 20 นาที
ดังนั้น หากมหาอำนาจระดับรองอย่างกลุ่มฮูตี (ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกอย่างชัดเจน) สามารถคุกคามเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ ในทะเลแดงด้วยอาวุธที่มีเทคโนโลยีด้อยกว่าได้ ความสามารถในการปกป้องการปฏิบัติการของเรือบรรทุกเครื่องบินจึงเป็นประเด็นสำคัญที่สหรัฐฯ ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
---
IMCT NEWS : Photo: US Navy
ที่มา https://asiatimes.com/2025/04/did-houthi-missiles-threaten-to-sink-the-carrier-uss-truman/