ออสเตรเลียเลือกแอนโธนี อัลบาเนซีเป็นนายกฯ สมัยที่ 2 หลังพรรคแรงงานใช้กระแสต่อต้านทรัมป์คว้าชัยชนะถล่มทลาย

4-5-2025

   Theguardian รายงานว่า นายแอนโธนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีฝ่ายกลาง-ซ้ายของออสเตรเลีย ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมัยที่สองด้วยชัยชนะอย่างถล่มทลายเหนือพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งนายปีเตอร์ ดัตตัน ผู้นำฝ่ายขวาไม่สามารถสลัดภาพลักษณ์ที่คล้ายคลึงกับโดนัลด์ ทรัมป์ และท้ายที่สุดต้องสูญเสียที่นั่งของตัวเองในสภา

   พรรคแรงงานของนายอัลบาเนซีคว้าชัยชนะอย่างสบายเกินคาดเมื่อวันเสาร์ หลังจากการรณรงค์หาเสียงนาน 5 สัปดาห์ที่เน้นประเด็นค่าครองชีพและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก

   เมื่อต้นปี พรรคแรงงานประสบปัญหาในโพลสำรวจความคิดเห็น แต่นายดัตตันกลับดำเนินการหาเสียงที่ถูกนักวิจารณ์ประณามว่าเป็นหนึ่งในแคมเปญที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองออสเตรเลีย และอดีตนักสืบตำรวจผู้นี้ประสบปัญหาในการแยกตัวเองออกจากวาทกรรมและนโยบายที่คล้ายทรัมป์อย่างชัดเจน

    นายอัลบาเนซี วัย 62 ปี นำเสนอตัวเองว่าเป็นผู้นำที่มั่นคงที่จะนำพาออสเตรเลียผ่านช่วงความปั่นป่วนระดับโลกที่เพิ่มมากขึ้นจากสงครามภาษีของทรัมป์ เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียคนแรกที่ดำรงตำแหน่งติดต่อกันสองสมัยนับตั้งแต่ปี 2004

## ชัยชนะเหนือความคาดหมาย

ขณะที่การนับคะแนนยังดำเนินต่อไปจนถึงเช้าวันอาทิตย์ คาดว่าพรรคแรงงานจะชนะได้อย่างสบายมากกว่า 76 ที่นั่งจากทั้งหมด 150 ที่นั่งในสภาล่างซึ่งจำเป็นต่อการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก โดยมีสัดส่วนคะแนนเสียงเพิ่มขึ้น ซึ่งสวนทางกับแนวโน้มล่าสุดที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเริ่มเบื่อพรรคการเมืองใหญ่สองพรรค

ในการกล่าวถึงพรรคพวกในซิดนีย์ นายอัลบาเนซีกล่าวว่าผู้ลงคะแนนได้เลือกค่านิยมของออสเตรเลีย รวมถึง "ความยุติธรรม ความทะเยอทะยาน และโอกาสสำหรับทุกคน"

"ชาวออสเตรเลียได้ลงคะแนนเพื่ออนาคตที่ยึดมั่นในค่านิยมเหล่านี้ อนาคตที่สร้างขึ้นจากทุกสิ่งที่นำพวกเรามารวมกันในฐานะชาวออสเตรเลีย และทุกสิ่งที่ทำให้ประเทศของเราแตกต่างจากที่อื่นในโลก" เขากล่าว

ในสิ่งที่ดูเหมือนจะอ้างถึงนโยบายของทรัมป์ นายอัลบาเนซีกล่าวว่าเขาจะ "เลือกวิถีออสเตรเลีย"

"เราไม่จำเป็นต้องขอร้อง ยืม หรือลอกเลียนจากที่ไหน เราไม่ต้องหาแรงบันดาลใจจากต่างประเทศ เราพบมันอยู่ที่นี่ในค่านิยมและประชาชนของเรา" เขากล่าว

## ฝ่ายค้านพ่ายแพ้ยับเยิน

ณ เช้าตรู่วันอาทิตย์ในออสเตรเลีย พรรคแรงงานแน่นอนว่าจะเพิ่มที่นั่งจาก 77 ที่นั่งที่มีอยู่ก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน Liberal/National Coalition คาดว่าจะได้รับคะแนนเสียงระดับชาติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และจะสูญเสียที่นั่งเพิ่มเติม

ในสุนทรพจน์ยอมรับความพ่ายแพ้นาน 6 นาที นายดัตตันยอมรับ "ความรับผิดชอบทั้งหมด" สำหรับการพ่ายแพ้ยับเยินของพรรค ซึ่งรวมถึงการสูญเสียที่นั่งของตัวเอง และกล่าวว่าพรรคถูก "ฝ่ายตรงข้ามกำหนดภาพลักษณ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้" อย่างน่าเสียดาย

"ไม่ใช่คืนของเรา อย่างที่ผมชี้ให้เห็น และมีสมาชิกที่ดี ผู้สมัครที่ดี ที่สูญเสียที่นั่งหรือความหวังของพวกเขา และผมขอโทษสำหรับเรื่องนั้น... เรามีพรรคที่ยอดเยี่ยม และเราจะสร้างใหม่อีกครั้ง"

การพ่ายแพ้ของพรรคอนุรักษ์นิยมออสเตรเลียสะท้อนถึงผลการเลือกตั้งล่าสุดในแคนาดา ที่พรรคเสรีนิยมฝ่ายกลาง-ซ้ายชนะการเลือกตั้งสมัยที่สี่ แม้ว่าจะตามหลังอยู่มากในโพลช่วงก่อนการเลือกตั้ง

เช่นเดียวกับนายดัตตัน นายปิแอร์ ปัวลีเยฟร์ ผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมแคนาดา ต้องสูญเสียที่นั่งซึ่งเขาครองมาตั้งแต่ปี 2004 ในการเลือกตั้งที่ถูกครอบงำด้วยผลกระทบจากตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์

## ผู้สมัครอิสระคงที่นั่ง พรรคสีเขียวร่วง

ในขณะเดียวกัน ผู้สมัครอิสระ "ทีล" ในเขตเมืองชั้นในส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดที่ได้รับเลือกจากการเลือกตั้งครั้งก่อนในปี 2022 ดูเหมือนจะรักษาที่นั่งไว้ได้ โดยมีผู้สมัครอิสระอื่นๆ อีกหลายคน บางส่วนในพื้นที่ชนบท มีโอกาสดีที่จะเพิ่มจำนวนได้

อย่างไรก็ตาม เป็นคืนที่น่าผิดหวังสำหรับพรรค Greens ที่คาดว่าจะสูญเสีย 2 จาก 3 ที่นั่งในบริสเบนที่พวกเขาชนะอย่างน่าตื่นเต้นในปี 2022 แม้ว่าคะแนนเสียงระดับชาติจะคงที่ที่ประมาณ 13% แม้แต่ที่นั่งในเมลเบิร์นที่ดูปลอดภัยของผู้นำพรรค นายอดัม แบนด์ท ก็ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงพอสมควร

## อิทธิพลของทรัมป์

นายดัตตันได้รับเลือกครั้งแรกในปี 2001 และเป็นหนึ่งในสมาชิกอาวุโสที่สุดของพรรค เขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหลายตำแหน่ง รวมถึงกระทรวงกลาโหมและกระทรวงตรวจคนเข้าเมือง ตั้งแต่ปี 2013

เขานำโพลระดับชาติมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2023 แต่การตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่จะเก็บภาษีสินค้าส่งออกของออสเตรเลียทำให้การเชื่อมโยงกับทรัมป์ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของพรรคฝ่ายค้าน

ผู้นำฝ่ายค้านหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในระหว่างการหาเสียง แม้ว่าเพื่อนร่วมงานอาวุโสบางคนจะอ้างถึงคำขวัญของทรัมป์ในการชุมนุมทางการเมือง

หลายเดือนก่อนการรณรงค์หาเสียงจะเริ่มอย่างเป็นทางการ นายดัตตันได้ประกาศจัดตั้งหน่วยงานเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐบาลเพื่อลด "ความสิ้นเปลือง" ซึ่งสะท้อนหน่วยงานที่เรียกว่า "กรมประสิทธิภาพของรัฐบาล" ที่นำโดยอีลอน มัสก์ในสหรัฐฯ

นางจาซินตา นัมปิจินปา ไพรซ์ โฆษกด้านกิจการชนพื้นเมืองของฝ่ายค้าน ซึ่งใช้คำขวัญของทรัมป์ในระหว่างการหาเสียง กล่าวหาสื่อว่า "ใส่ร้ายป้ายสี" และ "ให้ร้าย" พรรคที่เชื่อมโยงกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ

"โดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้เป็นเจ้าของสี่คำนั้น" วุฒิสมาชิกกล่าวกับ ABC โดยอ้างถึงคำขวัญ Make Australia Great Again ที่เธอใช้

## การนับคะแนนและระบบเลือกตั้ง

การนับคะแนนเพื่อกำหนดรูปร่างสุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา (สภาสูง) จะใช้เวลาหลายวัน หรืออาจหลายสัปดาห์ในกรณีของบางที่นั่ง

การลงคะแนนเป็นข้อบังคับในออสเตรเลียและใช้ระบบการลงคะแนนแบบเรียงลำดับความชอบ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะจัดลำดับผู้สมัครตามความชอบสำหรับทั้งสองสภา

การเพิ่มขึ้นของผู้ท้าชิงที่เป็นอิสระทำให้กระบวนการนับคะแนนซับซ้อนขึ้น โดยการไหลของคะแนนเสียงตามความชอบที่ซับซ้อนต้องใช้เวลามากขึ้นในการกำหนดผู้สมัครสองคนสุดท้าย

ออสเตรเลียมีนายกรัฐมนตรีที่แตกต่างกันถึง 6 คนในรอบสองทศวรรษ หลังจากการเปลี่ยนแปลงผู้นำหลายครั้งท่ามกลางการเมืองภายในพรรค

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.theguardian.com/australia-news/2025/may/03/australia-election-anthony-albanese-labor-party-peter-dutton

------------------------------------
 

อัลบานีสคว้าชัยชนะ ดำรงตำแหน่งนายกฯ ออสเตรเลียสมัยที่สอง ติดต่อกันในรอบ 21 ปี

4-5-2025

   แอนโทนี อัลบานีส ประกาศชัยชนะเมื่อวันเสาร์ กลายเป็นนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียคนแรกในรอบ 21 ปีที่สามารถชนะการเลือกตั้งติดต่อกันเป็นสมัยที่สอง พร้อมระบุว่ารัฐบาลของเขาเพิ่มเสียงข้างมากโดยไม่จำเป็นต้องเลียนแบบการบริหารงานของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ

  “ชาวออสเตรเลียได้เลือกเผชิญกับความท้าทายระดับโลกในแบบของชาวออสเตรเลีย เราดูแลกันและกัน ขณะเดียวกันก็สร้างอนาคตไปพร้อมกัน” อัลบานีสกล่าวต่อผู้สนับสนุนระหว่างการปราศรัยแห่งชัยชนะในซิดนีย์

  “เราไม่จำเป็นต้องขอยืมแบบอย่างจากที่ไหน หรือเลียนแบบใคร เราไม่หาแรงบันดาลใจจากต่างชาติ เพราะเรามีสิ่งเหล่านั้นอยู่ในค่านิยมและประชาชนของเราแล้ว” เขากล่าวเสริม

   พรรคเลเบอร์สายกลางฝ่ายซ้ายของอัลบานีส ตั้งฉายาคู่แข่งของเขา ปีเตอร์ ดัตตัน ผู้นำฝ่ายค้านว่า “DOGE-y ดัตตัน” พร้อมกล่าวหาพรรคอนุรักษนิยมเสรีนิยมของเขาว่ากำลังเลียนแบบทรัมป์และแผนกที่เรียกว่า “Department of Government Efficiency” ก่อนหน้านี้ ดัตตันยอมรับความพ่ายแพ้และยืนยันว่าเขาได้สูญเสียที่นั่งในสภาที่ครอบครองมา 24 ปีแล้ว

เงาทาบของทรัมป์ในเวทีการเมืองโลก

กรณีของดัตตันคล้ายกับของอดีตผู้นำฝ่ายค้านแคนาดา ปิแอร์ ปัวลิเยฟร์ ซึ่งเสียที่นั่งหลังจากทรัมป์เปิดสงครามเศรษฐกิจกับแคนาดา โดยก่อนหน้านั้น ปัวลิเยฟร์ถูกคาดหมายว่าจะเป็นนายกฯ คนต่อไปของแคนาดา และนำพรรคอนุรักษนิยมกลับคืนสู่อำนาจหลังห่างหายมาเกือบทศวรรษ

นักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่า การพยายามเลียนแบบทรัมป์ซึ่งเคยเป็นข้อได้เปรียบทางการเมืองสำหรับฝ่ายขวาในออสเตรเลีย กลับกลายเป็นจุดอ่อนหลังจากที่ทรัมป์ออกมาตรการภาษีศุลกากรทั่วโลก

ผลการเลือกตั้งและประเด็นสำคัญ

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ แสดงความยินดีกับอัลบานีส โดยกล่าวว่า “ออสเตรเลียคือพันธมิตร หุ้นส่วน และมิตรที่มีคุณค่าสำหรับสหรัฐฯ”

ก่อนการเลือกตั้ง พรรคเลเบอร์มีเสียงข้างมากเพียง 78 ที่นั่ง จากทั้งหมด 151 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร แต่ผลล่าสุดชี้ว่าพรรคสามารถเพิ่มจำนวนที่นั่งได้ ซึ่งผิดจากธรรมเนียมปกติที่รัฐบาลจะสูญเสียที่นั่งในการเลือกตั้งสมัยที่สอง

เศรษฐกิจ และต้นทุนชีวิตเป็นประเด็นหลัก

นโยบายพลังงานและเงินเฟ้อเป็นประเด็นหลักในการรณรงค์หาเสียง โดยทั้งสองฝ่ายต่างยอมรับว่าประเทศกำลังเผชิญวิกฤตค่าครองชีพ

พรรคเสรีนิยมกล่าวโทษการใช้จ่ายเกินจำเป็นของรัฐบาลว่าทำให้เงินเฟ้อพุ่งและดอกเบี้ยสูงขึ้น พร้อมประกาศนโยบายลดขนาดระบบราชการลงกว่า 20% เพื่อควบคุมรายจ่าย

แม้ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 แต่ดัตตันเสนอว่าพลังงานนิวเคลียร์แทนที่จะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์และลมจะช่วยให้ค่าไฟฟ้าถูกลง ขณะที่เลเบอร์โต้กลับว่ารัฐบาลดัตตันจะตัดบริการสาธารณะเพื่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 7 แห่ง ทั้งที่ออสเตรเลียยังไม่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แม้แต่แห่งเดียว

คำขวัญแบบทรัมป์ และผลกระทบ

วุฒิสมาชิกฝ่ายค้าน จาซินตา นัมปินจา ไพรซ์ ซึ่งอาจมีบทบาทลดตำแหน่งงานราชการกว่า 41,000 ตำแหน่ง ถูกวิจารณ์เมื่อเธอกล่าวว่าจะ “ทำให้ออสเตรเลียยิ่งใหญ่อีกครั้ง” ซึ่งสะท้อนคำขวัญ “Make America Great Again” ของทรัมป์

เธอกล่าวภายหลังว่าไม่ได้ตั้งใจใช้ถ้อยคำแบบนั้น และยืนยันว่าเคยใส่หมวก MAGA แค่ “ล้อเล่นช่วงคริสต์มาส” พร้อมตำหนิสื่อมวลชนว่าให้ความสนใจแต่เรื่องทรัมป์ในช่วงเลือกตั้ง

“คุณทำให้มันกลายเป็นเรื่องทรัมป์ไปหมด” เธอกล่าวกับสถานี ABC ของออสเตรเลีย “พวกเราไม่สนใจหรอกว่าเขาบริหารอเมริกาอย่างไร เราเป็นห่วงว่าออสเตรเลียภายใต้รัฐบาลอัลบานีสจะไปทางไหนต่างหาก”

ค่าครองชีพยังคงเป็นวิกฤต

การเลือกตั้งเกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตค่าครองชีพอย่างรุนแรง Foodbank Australia ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลด้านอาหารรายใหญ่ที่สุดของประเทศรายงานว่า มีครัวเรือนกว่า 3.4 ล้านครัวเรือนประสบปัญหาขาดแคลนอาหารในปีที่ผ่านมา

ธนาคารกลางออสเตรเลียลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 4.1% ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเป็นสัญญาณว่าแรงกดดันทางเศรษฐกิจเริ่มบรรเทา และมีแนวโน้มจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมวันที่ 20 พฤษภาคม เพื่อลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากนโยบายภาษีของทรัมป์

ที่มา ซีเอ็นบีซี